JJNY : 5in1 ‘ไอติม’ ซัดรบ.ยูเทิร์นแก้รธน.│ชัยธวัชแจงชัด│แนะรัฐทบทวนแจกเงินดิจิทัล│ทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย│จับตาเกาหลีเหนือ

‘ไอติม’ ซัดรัฐบาลยูเทิร์นแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ไม่ใช่เวลาศึกษา คือเวลาของการตัดสินใจ
https://www.matichon.co.th/clips/news_4216575

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ตุลาคม 2566 “พริษฐ์ วัชรสินธุ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซัดรัฐบาลยูเทิร์นในการแก้รัฐธรรมนูญ ยูเทิร์นจากการเดินหน้าทำประชามติเพื่อย้อนศรกลับมาเพื่อตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ไม่ใช่เวลาของการศึกษาแต่คือเวลาของการตัดสินใจ ติดตามชมรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ชัยธวัช แจงชัดเหตุก้าวไกล ได้ปธ.กมธ.ไม่ครบ มีสลับโควต้าพปชร.-แบ่งให้ไทยสร้างไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4216492
 
ชัยธวัช แจงชัดเหตุก้าวไกล ได้เก้าอี้ปธ.กมธ.ไม่ครบ มีสลับโควต้าพปชร.-แบ่งให้ไทยสร้างไทย
 
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีประธานกรรมาธิการของพรรค ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จากที่จะต้องได้ 10 คณะ ตอนนี้เหลือ 8 คณะว่า บางคณะกมธ. มีการตกลงกันกับพรรคการเมืองอื่นว่า เราจะผลัดกันเป็นประธานกมธ.กันคนละครึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไงการเจรจาต่อรอง ว่า พรรคไหนจะได้กมธ.ชุดไหน ในลักษณะแบบนี้ก็มีอยู่ 1 คณะ ส่วนอีกคณะในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้านเราก็มีการแบ่งการทำหน้าที่ประธานกมธ.อีกจำนวนหนึ่งให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่ได้มีจำนวนส.ส.มากพอว่า ต้องแบ่งการทำงานเช่น เป็นคนละสมัย เพื่อที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดี
 
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ปัจจุบันไม่รู้ว่า ในแต่ละห้องกรรมาธิการมี Error อะไรบ้าง แต่ได้ชี้แจง ทำความเข้าใจกับส.ส.ในพรรคทั้งหมดแล้ว หลังจากที่ตัวแทนวิป และตนเองได้เจรจากับพรรคการเมืองอื่นๆในที่ประชุมร่วมกับรองประธานสภาฯในเรื่องประธานกมธ.ถือเป็นข้อยุติแล้ว
 
เมื่อถามถึงกรณีที่ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่ได้ตำแหน่งประธานกมธ.การวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เราแบ่งกับพรรคไทยสร้างไทย เพราะพรรคไทยสร้างไทย มีส.ส.แค่ 6 คน เมื่อมีการคำนวณแล้วทำให้ไม่ได้ประธานกรรมาธิการเลย และก็คิดว่า ก็เป็นเพื่อนพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหลักคิดว่า ควรจะแบ่งสลับกันทำหน้าที่ประธานกมธ.
 
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ยังมีอีก 1 คณะที่พรรคก้าวไกลตกลงกับพรรคพลังประชารัฐไว้ ว่าเราอยากได้กมธ.ตรงกัน 2 คณะ คือ เกษตรฯ กับ ที่ดินและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และได้พูดคุยกับแกนนำของพรรคพลังประชารัฐว่า มีการถอยคนละครึ่ง เลือกกันคนละคณะ และพรรคพลังประชารัฐยินดีที่จะให้พรรคก้าวไกลได้ประธานกมธ.ที่ดินและทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ส่วนพลังประชารัฐก็เอาประธานกมธ.เกษตร
 
ในภายหลังพรรคพลังประชารัฐได้มีการเสนอใหม่ ว่าในเมื่อพรรคก้าวไกล ได้ กมธ.ที่ดินและทรัพยากรแล้วให้เอากมธ.เกษตรฯไปด้วย ส่วนพรรคพลังประชารัฐยินดีที่จะทำหน้าที่ประธานกมธ.ชุดไหนก็ได้ที่ไม่มีใครเลือก แต่ขอโควต้าประธานกมธ.จากก้าวไกลเพิ่มอีก 1 โควต้า ตัวแทนเจรจาของพรรคก้าวไกลก็เห็นว่า ทำให้เรื่องยุติ ไม่ยืดเยื้อ ทำให้เดินหน้าไปได้ทำให้ยอมรับเงื่อนไขนี้ เพราะกมธ.เกษตร ถือเป็นประโยชน์ในการทำงานกับประชาชนมาก ถือว่าจบลงได้ด้วยดี
 
นายชัยธวัช กล่าวว่า เชื่อว่า ที่ตกลงกันไว้น่าจะเป็นไปตามนั้น ถ้าไม่ทำตามที่เราคุยกัน จะทำให้บรรยากาศการทำงานในกรรมาธิการเป็นไปด้วยความยากลำบาก เชื่อว่า ประธานกรรมาธิการไม่ว่ามาจากพรรคการเมืองไหนก็ต้องการความร่วมมือกัน




นักเศรษฐศาสตร์ แนะรัฐทบทวนแจกเงินดิจิทัล มองได้ไม่คุ้มเสีย
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/369049

นักเศรษฐศาตร์ เรียกร้องรัฐทบทวนนโยบายแจกเงินดิจิทัล ชี้ได้ไม่คุ้มเสีย โดยนักเศรษฐศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเห็นว่านโยบายดังกล่าวเกิดประโยชน์น้อยกว่าต้นทุนที่เสียไป อีกทั้งเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้มีการแจกเงิน เพื่อกระตุ้นการบริโภคในระยะสั้นๆ โดยไม่คำนึงถึงวินัยและเสถียรภาพการคลังในระยะยาว

โดยปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวตามศักยภาพ จึงไม่มีความจำเป็นที่รัฐจะต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพราะที่ผ่านมาการบริโภคภายในประเทศยังคงขยายตัวได้ดี เมื่อเทียบกับการส่งออก การกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศยังอาจจะสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้สูงขึ้นมาอีก การใช้เงินงบประมาณจำนวน 5.6 แสนล้านบาท ในนโยบายดังกล่าว ทำให้ประเทศเสียโอกาสที่จะนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นการสร้างศักยภาพเศรษฐกิจในระยะยาว

นอกจากนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การเตรียมตัวทางด้านการคลังจึงเป็นสิ่งจำเป็น รัฐจึงควรใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า รักษาวินัยและเสถียรภาพทางด้านการคลังอย่างเคร่งครัด

สอดคล้องกับ KKP Research ที่ออกมาชำแหละนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ใช้งบถึง 16% ของงบประมาณและ 3.6% ของ GDP แต่กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียง 1% เป็นนโยบายเศรษฐกิจที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ก่อให้เกิดต้นทุนเศรษฐกิจที่คาดไม่ถึง คือ เสียโอกาสในการนำเงินไปใช้ลงทุนในโครงการอื่น ๆ ที่เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน DigitalWallet นัดแรก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งนั่งเป็นประธานย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้เห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ เพราะนโยบายนี้จะช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศชาติและมหาชนได้อย่างมหาศาล
 
โดยขอให้คณะกรรมการทุกคนร่วมกันดทำงานอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง และขอให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ใคมีแนวคิดอะไรที่จะเสนอแนะ ข้องใจหรือไม่สบายใจอะไร ก็ขอให้พูดคุยกันในที่ประชุมนี้ ขอร้องอย่าให้สาธารณะชนมีความสับสน เพราะนโยบายนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการ



สหรัฐฯ-รัสเซียทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินทั่วประเทศ
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/207362

สหรัฐฯ ทดสอบระบบส่งข้อความแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินให้ประชาชนผ่านโทรศัพท์มือถือ วิทยุ และโทรทัศน์ ในวันเดียวกับที่รัสเซียซ้อมเตือนภัยทั่วประเทศ
 
สำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง หรือ ฟีมา (FEMA) และคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) ทดสอบส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของชาวอเมริกันหลายร้อยล้านคน ใจความว่า "นี่เป็นการทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินทั่วประเทศแบบไร้สาย ไม่ต้องทำอะไร"
 
SMS แจ้งเตือน ซึ่งมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาสเปน ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของโทรศัพท์แต่ละเครื่อง ถูกส่งหาประชาชนทุกคน ในเวลา 14.40 น.ของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น หรือช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย
 
โดยบรรยากาศในงานแถลงข่าวประจำวันที่ทำเนียบขาว ในห้องประชุมคณะสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงในอาคารรัฐสภา และตามท้องถนน มีภาพของประชาชนได้รับข้อความ ที่มาพร้อมระบบสั่นและเสียงแจ้งเตือน

ขณะเดียวกัน ทุกช่องโทรทัศน์ และทุกคลื่นวิทยุ ยังมีการแจ้งเตือนข้อความฉุกเฉินไปพร้อม ๆ กัน เป็นเวลากว่า 1 นาที
 
แถลงการณ์จากฟีมา (FEMA) ระบุว่า นี่เป็นการทดสอบระบบแจ้งเตือนครั้งที่ 7 นับตั้งแต่เริ่มใช้งานระบบดังกล่าว โดยกฎหมายระบุไว้ว่า การทดสอบระบบต้องทำทุก ๆ 3 ปี เพื่อให้มั่นใจว่า ระบบเตือนภัยของประเทศยังทำงานได้ตามปกติ
 
สำหรับระบบนี้ จะใช้ได้กับเหตุฉุกเฉินหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือแม้แต่ประกาศตามหาคนหาย โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็สามารถใช้ช่องทางนี้ ส่งข้อความถึงประชาชนทุกคนในสหรัฐฯ ได้เช่นกัน
 
นอกจากสหรัฐฯ แล้ว เมื่อวานนี้ รัสเซียเองก็มีการซ้อมระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินทั่วประเทศเช่นกัน โดยบรรยากาศตามท้องถนน มีเสียงไซเรนดัง เช่นเดียวกับรายการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งจะถูกคั่นด้วยการเตือนภัยฉุกเฉิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่