มีพบต้องมีจากเหลือไว้แค่ความทรงจำ 400 พนง.เคว้งบริษัทดังปิดกิจการ
https://www.dailynews.co.th/news/2701067/

เหลือไว้แค่ความทรงจำ! บริษัทผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ภายในนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ปิดกิจการ พนักงานกว่า 400 คนเคว้ง อาลัยจากนี้ไม่มีอีกแล้ว ขอบคุณบริษัทอู่ข้าวอู่น้ำ
 
 
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นผู้ผลิต จำหน่าย ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ถนนกบินทร์บุรี-โคราช ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ ถึงการปิดตัวของบริษัทแห่งนี้ในวันที่ 30 ก.ย.ที่จะถึงนี้

โดยพนักงานรายหนึ่ง ระบุว่า เหลือไว้เพียงความทรงจำบ้านหลังที่สอง 3 มี.ค. 47 – 30 ก.ย. 66 ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ มีพบก็ต้องมีจาก 19 ปี 6 เดือน 22 วัน แยกย้ายกันไปเติบโต ปิดกิจการ , ขอบคุณบริษัท อู่ข้าวอู่น้ำของเรา สิ้นสุดการทำงาน 8/9/66 ต่อจากนี้ไม่มีอีกแล้ว เก็บไว้เตือนความทรงจำ

ทั้งนี้ บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทจากญี่ปุ่นเปิดดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 38 มีพนักงานประมาณ 400 กว่าคน.

---

สมชัย ชี้ ดิจิทัลวอลเล็ต งบ 5 แสนล้าน ถ้าไม่กู้ หาเงินได้จากไหน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7857553

สมชัย โพสต์ปม ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น ชี้ งบ 5 แสนล้าน ถ้าไม่กู้ จะหาเงินได้จากไหน ระบุ ต้องตัดงบรายจ่ายทุกหน่วยงาน ชี้ พิสูจน์ความสามารถ รมต. กล้าทุบหรือไม่
 
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2566 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะอดีตคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงกรณีนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า 560,000 ล้านบาท หากไม่กู้ จะหาเงินได้จากไหน

ทางหนึ่งที่จะทำให้รัฐบาลสามารถทำได้จริงในเดือน ก.พ. 2567 คือการทบทวน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 งบประมาณประจำปี ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ รายจ่ายประจำ ประมาณ ร้อยละ 75 รายจ่ายลงทุน ประมาณร้อยละ 20 และรายการสำรองจ่ายอื่นๆ ร้อยละ 5 เงิน 560,000 ล้าน เป็นยอดราวร้อยละ 17 ของงบประมาณประจำปี งบลงทุนต้องร้อยละ 20 ตามกฎหมาย ตัดไม่ได้ สำรองจ่ายร้อยละ 5 ก็ต้องมีไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน จึงต้องไปตัดจากรายจ่ายประจำที่มีอยู่ ร้อยละ 75
 
ถ้าจะเอาเงินมา โดยไม่ต้องกู้ ก็ใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการตัดงบรายการประจำทุกหน่วยงาน across the board ประมาณร้อยละ 15-17 ก็น่าจะมีเงินมาแจกชาวบ้านได้ทันในเดือน ก.พ. 2567
 
หากทำได้จริง เท่ากับรัฐบาลเพื่อไทย ทำให้ราชการทำงานมีประสิทธิภาพ เพราะลดงบประมาณ ร้อยละ 15-17 แล้ว ยังสามารถทำงานได้เท่าเดิม

“ว่าแต่ แต่ละกระทรวง เขาจะว่าอย่างไร ยอมให้ตัดรายจ่ายประจำลงขนาดนี้หรือไม่ พิสูจน์ความสามารถของ รมต. แต่ละกระทรวงแล้ว จะกล้าทุบไหม” นายสมชัย ระบุ

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/856090722750214

---

เศรษฐา ฮึ่มงบจัดพืชสวนโลก งอกเท่าตัว 3 พันล้าน ชื่นชมได้สิทธิจัด แต่รับเรื่องนี้ไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4171498

เศรษฐา ฮึ่มจังหวัดอุดร งบงอกจัดพืชสวนโลกงอก เท่าตัวเกือบ 3 พันล้าน ยันชื่นชมได้สิทธิ แต่รับเรื่องนี้ไม่ได้
 
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 กันยายน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569- 14 มีนาคม 2570 โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี, นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมด้วย ส.ส.อุดรธานี  หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชน และประชาชน ให้การต้อนรับ
 
 ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้รับการชี้แจงความคืบหน้า “งานมหกรรมพืชสวนโลก” ภายในเต้นชั่วคราว บนถนนคอนกรีตทางเข้าพื้นที่จัดงาน ซึ่งเป็นที่สามารถเห็นพื้นที่จัดงานทั้งหมด มีการนำภาพกราฟฟิกผังการจัดงาน ที่บริษัทที่ปรึกษาจัดทำผังแม่บททำขึ้น และได้เสนอผังให้กับสมาคมพืชสวนนานาชาติ หรือ AIPH ไปแล้วมาแสดงเป็นฉากหลัง
 
โดย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจ.อุดรธานี รายงานว่า ภาครัฐและเอกชนอุดรธานี ได้ร่วมกับผลักดันเป็นเจ้าภาพ จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด 1,030 ไร่ และได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ในกรอบวงเงิน 2,500 ล้านบาท ก่อนจะเดินทางไปเสนอตัวกับ AIPH และได้รับการคัดเลือกให้จัดงาน อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสาร เพื่อขอใช้พื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับท้องถิ่น จะต้องขอยกเว้นระเบียบจาก ครม. โดยว่า จ้างที่ปรึกษาออกแบบผังแม่บท คาดว่าจะเริ่มปรับพื้นที่ได้ปี 2567
 
นายวิเชียร ขาวขำ นายก บจ.อุดรธานี กล่าวว่า อุดรฯร่วมขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี 63 พบอุปสรรคก็ฝ่าฟันกันมาได้ จนกระทั่ง AIPH ให้สิทธิเราจัดงาน ปัญหาอุปสรรคก็ยังมีอยู่ รวมทั้งช่องทางงบประมาณ ซึ่ง อบจ.อุดรธานี ไม่ได้รับงบประมาณจากกรอบ 2,500 ล้านบาท แต่เป็นหน่วยงานที่เข้ามาสนับสนุน ให้เกิดความพร้อมมากขึ้น ซึ่งในการเดินทางมาล่าสุดของ AIPH เข้ามองว่างบประมาณ 2,500 ล้านบาทมาจัดงาน อาจจะไม่เพียงพอกับงานนี้ จึงอยากจะขอเพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อให้งานเกิดความสมบูรณ์
 
“มีอดีต ส.ส.ท่านหนึ่ง ไปร้องเรียน ปปช. กล่าวหาว่ามีการทุจริตการจ้างที่ปรึกษา 55 ล้านบาท และกล่าวหาว่ามีการใช้เงิน เดินทางไปต่างประเทศไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท เหลือเงินจัดไม่เท่าไหร่ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อยากจะให้มาฟังความจริงกันหน่อย ไปพูดแล้วเกิดความเสียหาย โดยขณะนี้มีเพียงการจ้างที่ปรึกษา ที่สามารถตรวจสอบได้ ส่วนการไปต่างประเทศ 2 ครั้ง เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ แต่ละหน่วยงานให้งบตัวเอง อบจ.ใช้เงิน อบจ. ภาคเอกชนเขาออกเงินเอง” นายวิเชียร ระบุ 

ด้าน นายเศรษฐา กล่าวตอบว่า อุดรธานีเป็นจังหวัดมีศักยภาพสูง มีความพร้อมในหลายด้าน งานพืชสวนโลกจะต้องเชื่อมโยงกับการใช้สาธารณูปโภคพื้นฐาน จังหวัดอุดรธานีจึงมีความได้เปรียบ งานพืชสวนโลกจะเป็นอีเว้นแรกๆ ที่เป็นอีเว้นระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งก็ต้องชื่นชมคณะทำงานที่ไป “บิท” เอามาได้ที่โดฮา ถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศชาติ และชาวอีสานตอนบนเป็นอย่างมาก เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้และโดยเร็ว ถ้าเราทำได้ดีก็จะส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.อุดรธานีให้ยั่งยืน
 
“ผมไม่อยากจะกล่าวเฉพาะงานพืชสวนโลก การท่องเที่ยวที่จะยั่งยืน เราต้องสอดแทรกวัฒนธรรมอันดี ของชาวอีสานลงไปด้วย เป็นโอกาสดีที่จะโชว์ให้ชาวโลกได้เห็น อีก 3 ปีงานก็จะเกิดขึ้นแล้ว ปัญหาสังคม ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานมีอยู่ ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่อยากให้ชาวต่างชาติที่มาที่นี่ แล้วมาประสบปัญหายาเสพติด เรามีเวลาอีก 2-3 ปีจะกำจัดยาเสพติดให้สิ้นซากลงไป ”
 
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ได้ยินท่านนายก อบจ.อุดรธานี เรื่องการจัดสรรงบประมาณ จึงเรียนก่อนว่า ไม่ได้มาหาเสียง วันนี้มาพูดจากับตรงไปตรงมา ให้เข้าใจถึงภารกิจของรัฐบาลของประชาชน ที่เราจะต้องดูแลหลายภาคส่วน ปัญหานี้คือกรอบวงเงินมีไว้ 2,500 ล้านบาท จะขอเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท มันกระโดดมาได้ยังไง จะเอางบมาจากไหน เพราะเรื่องอื่นๆรัฐบาลก็มีภาระ ยินดีที่มีการจัดงานระดับโลก แต่การที่งบประมาณงอกไปกว่า 1 เท่าตัวเรารับไม่ได้ เราต้องมีวินัยการเงินการคลังที่ดี น่าจะต้องใช้การบริหารจัดการ ภายใต้กรอบงบประมาณ อาจจะปรับขึ้นได้หากค่าแรงขึ้น หรือปรับลงได้ในการใช้วัสดุราคาถูกลง แต่คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์เดิม โดยจะเร่งรัดให้งบคลอดออกมาโดยเร็ว รัฐบาลจะทำงานนี้ให้ได้ ทำให้ทันเวลา ในราคาที่เหมาะสมถูกต้อง