พอดีเราเป็นพนักงานเก็บรถเข็นในห้างดังแห่งหนึ่งในจังหวัด พระยาพิชัย ห้างสี🟩เข้ม แผนกเราจะมีอยู่ 4 คน แล้วจะแบ่งกันไปเดินเก็บ กันคนละจุดๆ
เมื่อก่อนตอนมาทำแรกเราก็ว่ามันก็โอเครมากกับงานนี้มีความสุขกับงานมาก มีอยู่วันหนึงเราเก็บกระเป๋าสตางค์ของลูกค้าได้แล้วเราจะเอาไปให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์แต่เพื่อนร่วมงานบอกว่าให้เอาเก็้บไว้ที่ตัวก่อนเดี๋ยวเขามาตามหาเราค่อยให้เขาแต่เราไม่ยอมเราเลยเดินเอาไปให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์เลย ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงลูกค้ากลับมาเอากระเป๋าแล้วฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็วอมาเรียกเราว่าให้เข้ามาพบลูกค้าลูกค้าคนนั้นก็ถ่ายรูปเราแล้วเอาเราไปโพสต์ในเพจจังหวัดเราก็ยินยอมและยินดีแต่มันติดที่ว่าเราเป็นคนเจอเราเป็นคนคืนลูกค้าคนเดียวแต่เพื่อนร่วมงานไม่พอใจที่เราได้น่าอยู่คนเดียว เราไม่ได้คิดอะไรตรงนั้นตั้งแต่นั้นมาเราก็เจอของที่ลูกค้าลืมไว้บนรถเข็นมาเรื่อยๆเจอ iPad บ้างเจอของที่ลูกค้าลืมไว้บ้างเราก็เอาไปส่งให้แผนกประชาสัมพันธ์ตลอด แต่เรารู้แค่ว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วแล้วเพื่อนร่วมงานก็เก็บกลับบ้านกัน มาโดยตลอด แถมเพื่อนร่วมงานบางคนยังเก็บกล่องกระดาษที่มีคนมาประมูลรายปีแอบนำกลับบ้านไปด้วยทุกวันเพื่อเอาไปขาย มีอยู่ครั้งหนึ่งเราโดนรถเฉี่ยวชนจนต้องเข้ารับการรักษาที่ขาแต่เรากลับต้องไปทำงานเพราะหัวหน้าแผนกเราสั่งให้มาทำงาน ส่วนหัวหน้าใหญ่บอกว่าให้เรากลับบ้านไปพักได้ตั้งแต่นั้นมาหัวหน้าก็เริ่มไม่คุยกับเรามาตลอดตั้งแต่วันนั้นเพื่อนร่วมงานของเราก็เริ่มคุยกับเราน้อยลงและโยนงานมาให้เราพอถึงเวลาเดินเก็บรถเข็นเพื่อนร่วมงานจะนั่งปั่นบาคาร่าไม่ออกไปเก็บรถเข็นส่วนเราต้องออกไปเดินเก็บพอถึงเวลาพักของเราเพื่อนร่วมงานก็ไม่ออกไปเก็บรอจนกว่าเราจะพักเสร็จถึงจะออกพอเราไปเข้าห้องน้ำหรือท้องเสียเพื่อนร่วมงานหาเราไม่เจอเขาจะเริ่มวอหาหัวหน้าแผนกหรือผู้จัดการๆก็เริ่มตักเตือนเราทั้งๆที่เราไม่ผิดและไม่ฟังเหตุผลของเราแผนกเราจะมีวออยู่แค่ 1 อันแต่คนใช้งานมีอยู่ 4 คนจนเราทนไม่ไหวเราถึงสั่งซื้อวอมาเองเพื่อที่จะได้ทำงานได้คล่องตัวแต่เพื่อนร่วมงานเรากลับว่าเราว่าเอาหน้าทำงานเอาหน้าทั้งๆที่เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยพอถึงเวลาพักเราไม่ได้กลับไปที่จุดที่เราทำงานเพราะแฟนเราทำกับข้าวมาให้แล้วเอามาวางไว้ที่ร้านคาร์แคร์ทุกวันเราก็จะเดินไปกินที่คาร์แคร์เพราะตรงนั้นเรามีคนรู้จักอยู่และเราก็จะกินอย่างนั้นอยู่ทุกวันจนกระทั่งหัวหน้าเปิดกล้องดูแล้วเห็นว่าเราเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้างแล้วไม่เก็บรถเข็นเราก็เลยบอกหัวหน้าไปว่ามันคือเวลาพักของผมครับผมเลยกำลังจะไปกินข้าวแล้วหัวหน้าก็ทักมาว่าเราว่าว่างมากหรอไม่อยากทำงานแล้วหรอแต่หัวหน้ากลับไม่ฟังคำอธิบายของเราเลยแต่กลับไปฟังเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย เป็นแบบนี้มาครั้งที่ 4แล้วครั้งแรกเราก็โดนว่าเฉยๆครั้งที่ 2 เราก็โดนเตือนปกติจนครั้งที่ 3 เราโดนใบเตือนแบบที่ว่าเราไม่ผิดแต่เราได้ใบเตือนทั้งๆที่เราก็อยู่ในเขตห้างและเราก็ไม่ได้ไปไหนเลยจนครั้งที่ 4 เราโดนเรียกเข้าห้องประชุมและมีฝ่ายบุคคลเข้ามาหัวหน้าเลยบอกว่าเดี๋ยวหาวันที่อยู่กันครบ 4 คนแล้วจะเรียกเข้าห้องประชุมแล้วให้ฝ่ายบุคคลเข้ามาแล้วอยู่ดีๆเพื่อนร่วมงานคนนึงพูดขึ้นว่าก็วันนี้ไงครับที่อยู่กันครบเอาเลยไหมครับจัดเลยไหมครับพยายามที่จะทำให้เราโดนไล่ออกอยู่ทุกวันเราไม่เข้าใจว่าเขาทำไปเพื่ออะไรเขาเกลียดเราเพราะอะไร วันนี้ล่ะครับคือวันชี้ชะตาของผมผมจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ (เป็นมนุษย์เงินเดือนก็เหนื่อยเนาะ) มีใครเจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้บ้างและหัวหน้าเฮงซวยแบบนี้บ้างฟังความข้างเดียว ก็นะทำงานแบบนี้มันต้องมีเส้นมีสายเป็นเรื่องปกติไปแล้วแหละก็แฟนหัวหน้าเขารู้จักกับเพื่อนร่วมงานแล้วไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยเมื่อก่อนเราก็ไปบ้านเพื่อนร่วมงานนะแล้วไปเจอแฟนหัวหน้ากับหัวหน้านั่งอยู่เราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่พอหลังๆเราเริ่มไม่ไปบ้านเพื่อนร่วมงานเขาก็เริ่มเตะเราออกจากกลุ่มแชทและก็เริ่มไม่คุยอะไรกับเรา
โดนพวกเพื่อนร่วมงานรวมหัวกลั่นแกล้ง(หัวหน้าไม่รับฟังเหตุผลเลย)
เมื่อก่อนตอนมาทำแรกเราก็ว่ามันก็โอเครมากกับงานนี้มีความสุขกับงานมาก มีอยู่วันหนึงเราเก็บกระเป๋าสตางค์ของลูกค้าได้แล้วเราจะเอาไปให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์แต่เพื่อนร่วมงานบอกว่าให้เอาเก็้บไว้ที่ตัวก่อนเดี๋ยวเขามาตามหาเราค่อยให้เขาแต่เราไม่ยอมเราเลยเดินเอาไปให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์เลย ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงลูกค้ากลับมาเอากระเป๋าแล้วฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็วอมาเรียกเราว่าให้เข้ามาพบลูกค้าลูกค้าคนนั้นก็ถ่ายรูปเราแล้วเอาเราไปโพสต์ในเพจจังหวัดเราก็ยินยอมและยินดีแต่มันติดที่ว่าเราเป็นคนเจอเราเป็นคนคืนลูกค้าคนเดียวแต่เพื่อนร่วมงานไม่พอใจที่เราได้น่าอยู่คนเดียว เราไม่ได้คิดอะไรตรงนั้นตั้งแต่นั้นมาเราก็เจอของที่ลูกค้าลืมไว้บนรถเข็นมาเรื่อยๆเจอ iPad บ้างเจอของที่ลูกค้าลืมไว้บ้างเราก็เอาไปส่งให้แผนกประชาสัมพันธ์ตลอด แต่เรารู้แค่ว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วแล้วเพื่อนร่วมงานก็เก็บกลับบ้านกัน มาโดยตลอด แถมเพื่อนร่วมงานบางคนยังเก็บกล่องกระดาษที่มีคนมาประมูลรายปีแอบนำกลับบ้านไปด้วยทุกวันเพื่อเอาไปขาย มีอยู่ครั้งหนึ่งเราโดนรถเฉี่ยวชนจนต้องเข้ารับการรักษาที่ขาแต่เรากลับต้องไปทำงานเพราะหัวหน้าแผนกเราสั่งให้มาทำงาน ส่วนหัวหน้าใหญ่บอกว่าให้เรากลับบ้านไปพักได้ตั้งแต่นั้นมาหัวหน้าก็เริ่มไม่คุยกับเรามาตลอดตั้งแต่วันนั้นเพื่อนร่วมงานของเราก็เริ่มคุยกับเราน้อยลงและโยนงานมาให้เราพอถึงเวลาเดินเก็บรถเข็นเพื่อนร่วมงานจะนั่งปั่นบาคาร่าไม่ออกไปเก็บรถเข็นส่วนเราต้องออกไปเดินเก็บพอถึงเวลาพักของเราเพื่อนร่วมงานก็ไม่ออกไปเก็บรอจนกว่าเราจะพักเสร็จถึงจะออกพอเราไปเข้าห้องน้ำหรือท้องเสียเพื่อนร่วมงานหาเราไม่เจอเขาจะเริ่มวอหาหัวหน้าแผนกหรือผู้จัดการๆก็เริ่มตักเตือนเราทั้งๆที่เราไม่ผิดและไม่ฟังเหตุผลของเราแผนกเราจะมีวออยู่แค่ 1 อันแต่คนใช้งานมีอยู่ 4 คนจนเราทนไม่ไหวเราถึงสั่งซื้อวอมาเองเพื่อที่จะได้ทำงานได้คล่องตัวแต่เพื่อนร่วมงานเรากลับว่าเราว่าเอาหน้าทำงานเอาหน้าทั้งๆที่เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยพอถึงเวลาพักเราไม่ได้กลับไปที่จุดที่เราทำงานเพราะแฟนเราทำกับข้าวมาให้แล้วเอามาวางไว้ที่ร้านคาร์แคร์ทุกวันเราก็จะเดินไปกินที่คาร์แคร์เพราะตรงนั้นเรามีคนรู้จักอยู่และเราก็จะกินอย่างนั้นอยู่ทุกวันจนกระทั่งหัวหน้าเปิดกล้องดูแล้วเห็นว่าเราเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้างแล้วไม่เก็บรถเข็นเราก็เลยบอกหัวหน้าไปว่ามันคือเวลาพักของผมครับผมเลยกำลังจะไปกินข้าวแล้วหัวหน้าก็ทักมาว่าเราว่าว่างมากหรอไม่อยากทำงานแล้วหรอแต่หัวหน้ากลับไม่ฟังคำอธิบายของเราเลยแต่กลับไปฟังเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย เป็นแบบนี้มาครั้งที่ 4แล้วครั้งแรกเราก็โดนว่าเฉยๆครั้งที่ 2 เราก็โดนเตือนปกติจนครั้งที่ 3 เราโดนใบเตือนแบบที่ว่าเราไม่ผิดแต่เราได้ใบเตือนทั้งๆที่เราก็อยู่ในเขตห้างและเราก็ไม่ได้ไปไหนเลยจนครั้งที่ 4 เราโดนเรียกเข้าห้องประชุมและมีฝ่ายบุคคลเข้ามาหัวหน้าเลยบอกว่าเดี๋ยวหาวันที่อยู่กันครบ 4 คนแล้วจะเรียกเข้าห้องประชุมแล้วให้ฝ่ายบุคคลเข้ามาแล้วอยู่ดีๆเพื่อนร่วมงานคนนึงพูดขึ้นว่าก็วันนี้ไงครับที่อยู่กันครบเอาเลยไหมครับจัดเลยไหมครับพยายามที่จะทำให้เราโดนไล่ออกอยู่ทุกวันเราไม่เข้าใจว่าเขาทำไปเพื่ออะไรเขาเกลียดเราเพราะอะไร วันนี้ล่ะครับคือวันชี้ชะตาของผมผมจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ (เป็นมนุษย์เงินเดือนก็เหนื่อยเนาะ) มีใครเจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้บ้างและหัวหน้าเฮงซวยแบบนี้บ้างฟังความข้างเดียว ก็นะทำงานแบบนี้มันต้องมีเส้นมีสายเป็นเรื่องปกติไปแล้วแหละก็แฟนหัวหน้าเขารู้จักกับเพื่อนร่วมงานแล้วไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยเมื่อก่อนเราก็ไปบ้านเพื่อนร่วมงานนะแล้วไปเจอแฟนหัวหน้ากับหัวหน้านั่งอยู่เราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่พอหลังๆเราเริ่มไม่ไปบ้านเพื่อนร่วมงานเขาก็เริ่มเตะเราออกจากกลุ่มแชทและก็เริ่มไม่คุยอะไรกับเรา