อาจารย์ ม.อ.ปัตตานี ซัดไม่มี ‘คำขอโทษ’ จากภาครัฐ เหตุโกดังประทัดระเบิด ชี้วัฒนธรรมลอยตัว
https://www.matichon.co.th/local/news_4110530
อาจารย์ ม.อ.ปัตตานี ซัดไม่มี ‘คำขอโทษ’ จากภาครัฐ เหตุโกดังประทัดระเบิด ชี้วัฒนธรรมลอยตัว
จากเหตุการณ์โกดังประทัดร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ระเบิด ที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บ 121 ราย บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 200 หลัง ในรัศมี 500 เมตร
รศ.
เอกรินทร์ ต่วนศิริ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โพสต์เฟซบุ๊ก
Ekkarin Tuansiri ระบุว่า
ไม่มี “คำขอโทษ” ต่อประชาชนหมู่บ้านมูโนะ
เหตุการณ์ระเบิดที่โกดังพลุดอกไม้ไฟที่หมู่บ้านมูโนะ จังหวัดนราธิวาส เป็นหมู่บ้านที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสิบสองคน บาดเจ็บร้อยกว่าคน บ้านเรือนเสียหายมากกว่าสองร้อยหลังคาเรือน
ผ่านไปแล้ว 4 วัน ยังไม่มี “คำขอโทษ” จากเจ้าหน้าที่รัฐแม้แต่สักหน่วยงานเดียว ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี (รักษาการ) รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด กองทัพ หน่วยความมั่นคง กอ.รมน.ภาค 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบอยู่ในพื้นที่ มิพักต้องเอ่ยถึงเจ้าของกิจการโกดังที่หายตัวไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว
ต้องไม่ลืมว่าพื้นที่นี้เป็น “พื้นที่พิเศษ” ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานความมั่นคง เต็มเมืองเต็มถนน เห็นได้ชัดจากด่านตรวจบนท้องถนนที่มีอยู่จำนวนมากในพื้นที่ ระดับความเข้มงวดของด่านตรวจแม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันก็ต้องถูกตรวจอย่างละเอียด และด้วยคำถามของเจ้าหน้าที่ที่ว่า มาจากไหน ไปไหน ไปทำอะไร
การขนส่งสินค้าจำพวกพลุดอกไม้ไฟจำนวนหลายตัน หลายคันรถสิบล้อแบบนี้ ต้องผ่านด่านตรวจในพื้นที่ไม่ต่ำว่าสิบด่านแน่นอน คำถามคือแล้วรถบรรทุกสินค้าจำนวนมากผ่านเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างไร
แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุของโกดังเอกชน แต่ก็อย่าลืมว่ากิจการประเภทจัดจำหน่ายพลุดอกไม้ไฟ ต้องมีการขอใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่รัฐ ยิ่งเป็นพื้นที่พิเศษ มีกฎหมายพิเศษ ที่เป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ ยิ่งต้องทำงานอย่างเข้มงวดในการตรวจสอบ แต่กลับพบว่ามีโกดังพิเศษตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนอย่างโจ่งแจ้ง
การไม่ตระหนักของผู้นำประเทศและหน่วยงานของรัฐ การไม่สำนึกว่าตัวเองบกพร่องต่อหน้าที่จนเป็นเหตุทำให้คนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เราจึงเห็น “วัฒนธรรมลอยตัว” ของหน่วยงานรัฐที่ปราศจากความรับผิดชอบ
“คำขอโทษ” จากผู้นำประเทศ หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบ ควรเป็นการกระทำสิ่งแรกของผู้ที่รู้ว่าตัวเองบกพร่องต่อหน้าที่ เพื่อจะทำหน้าที่ในการแก้ไขต่อไป ให้คนในชุมชนไว้เนื้อเชื่อใจและร่วมมือกันได้อีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูหมู่บ้านกลับมาอีกครั้ง
https://www.facebook.com/ekkarin.tuansiri.7/posts/pfbid0onXE3jsKuzy96JHB2ZW3eEYw28vJT3DQcNYrr1vS9pQhT4GdJ4mr3rBGLsMGxvUal
อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย โพสต์สั้นๆ 'จุกอก' ชาวเน็ตแห่เมนต์ชวน 'ย้ายพรรค'
https://www.matichon.co.th/politics/news_4110223
อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย โพสต์สั้นๆ ‘จุกอก’ ชาวเน็ตแห่เมนต์ชวน ‘ย้ายพรรค’
หลังจากที่ นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. ได้ออกมาแถลงข่าว ภายหลังหารือร่วมกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าพรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษาหารือกับพรรคก้าวไกลขอถอนตัวจากการร่วมมือกันและเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อ “นาย
เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
และขอยืนยันชัดเจนว่า เราจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วม
พรรคเพื่อไทยจะใช้ความพยายามรวบรวมเสียง ให้เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และ พรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านและยืนยันจะทำงานการเมืองในมิติใหม่
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ ระบุว่า “
จุกอก”
หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น “
ย้ายไปก้าวไกลครับ ขอร้อง” “
ใบลาออกสมาชิกพรรค คือคำตอบที่สง่างามสำหรับ ส.ส.น้ำดีอย่างคุณกุ้งครับ”
“
เป็นเรื่องน่าเสียใจและเสียดาย แต่ไม่อยากให้คุณทัศนีย์ซึ่งยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการอย่างเด็ดเดี่ยวเสียกำลังใจไปนะครับ โลกภายนอกของการต่อสู้มีขึ้นมีลง สมหวังผิดหวัง แต่จุดยืนและจิตใจของนักสู้ผู้ยืนหยัดท่ามกลางความลำบากอันตรายเหมือนเพชรแท้เสมอ หวังว่าคุณทัศนีย์จะเป็นเพชรแท้ต่อไป” “
ย้ายพรรคไหมพี่” “รั
กพี่กุ้งนะครับ ถ้าอึดอัดย้ายพรรคได้นะครับพี่ ผมไม่เคยเคลือบแคลงหลักการพี่กุ้งแม้แต่นาทีเดียวเลย” เป็นต้น
‘เอกชน’ ขอทีมศก.หล่อๆ มั่นใจ รบ.เพื่อไทย รอถกเคลียร์ปมค่าแรง 600 บาท-แจกเงินดิจิทัล
https://www.matichon.co.th/economy/news_4110847
‘เอกชน’ ขอทีมศก.หล่อๆ มั่นใจ รบ.เพื่อไทย รอถกเคลียร์ปมค่าแรง 600 บาท-แจกเงินดิจิทัล
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นาย
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศถอนตัวจาก 8 พรรคการเมือง ว่า ในสถานการณ์ตอนนี้ เชื่อว่าหากทุกคนยอมถอยคนละครึ่งก้าว ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่อยากให้ตอบสนองคนส่วนใหญ่ ส่วนคนส่วนเล็กอาจจะมีเสียงไม่ชอบบ้าง หรือบางคนรู้อยู่แล้วจะมีกลุ่มไหนออกมา มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้อยากให้เร่งขบวนการ และรีบจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเรื่องภัยแล้งที่เริ่มลุกลามแล้ว จึงหวังว่า วันที่ 4 สิงหาคมนี้ เราจะได้เห็นหน้าตานายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็นำไปสู่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหลังจากจบขบวนการหานายกฯ เราจะได้เห็นหน้าตาของทีมรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ก็อยากเห็นความหล่อของ ครม.เศรษฐกิจว่าจะมีหน้าตาอย่างไร ต้องเป็นบุคคลที่สร้างความเชื่อมั่น และมีฝีมือทางด้านเศรษฐกิจ
“
ซึ่งเชื่อว่าหากเป็นพรรคเพื่อไทยคุมกระทรวงเศรษฐกิจ ผมก็เชื่อมั่นในฝีมือพรรคเพื่อไทย ทั้งโจทย์เศรษฐกิจระดับโลก โจทย์ในประเทศ หนี้ครัวเรือน โครงสร้างหนี้สินที่เป็นหัวใจสำคัญ ต่อระบบเศรษฐกิจต้องได้รับการแก้ไขหากดูจากทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เพื่อไทยมีจุดเเข็งเรื่องของประสบการณ์ทำงานด้านเศรษฐกิจ และนโยบายกระจายรายได้และขับเคลื่อน ที่ถือว่าก้าวหน้า ประเด็นนโยบายเศรษฐกิจถือว่าเพื่อไทยมีจุดขายการทำงานมากว่า 20 ปี เพราะฉะนั้นเอกชนมั่นใจในที่มเศรษฐกิจ เพียงแต่การขับเคลื่อนโครงสร้างกระทรวงต่างๆ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลต้องลงไปดู มีส่วนไหนอย่างไรบ้าง” นาย
เกรียงไกร กล่าว
นาย
เกรียงไกร กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอยู่ในกรอบ 600 บาทต่อคน ภายในระยะเวลา 4 ปี นั้น มองว่าถึงเวลานั้นคงต้องคุยกัน ในมุมของ กกร. และภาคเอกชน เรามีกลไกลคือไตรภาคีดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว มองว่าเมื่อถึงเวลานั้น ภาครัฐ เอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐต้องมีคุยกัน พอถึงวันนั้นก็ต้องมาดูเรื่องความยืดหยุ่นกันอีกครั้ง
นาย
เกรียงไกร กล่าวว่า ส่วนกรณีหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจำตั้งรัฐบาล และได้นำในเรื่องของดิจิทัลมาใช้ ในมุมมองที่ได้ฟังจากช่วงหาเสียง แต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แม่นยำขึ้น และใช้วงเงินมหาศาลในการกระชากโมเมนตั้มทางเศรษฐกิจให้วิ่งขึ้น โดยคาดหวังว่าจะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนที่เศรษฐกิจไม่ใช่ออกนอกเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาเป็นกระกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหว่านปุ๋ย ซึ่งบางแห่งไม่จำเป็น แต่นโยบายของเพื่อไทย มีความชัดเจน แม่นยำ และอยู่ในบริเวณที่ควบคุมได้ และเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ
JJNY : ซัดไม่มี ‘คำขอโทษ’จากภาครัฐ│อดีตส.ส.เชียงใหม่พท.โพสต์สั้นๆ'จุกอก'│‘เอกชน’มั่นใจรบ.เพื่อไทย│คณะรปห.ไนเจอร์ไม่หวั่น
https://www.matichon.co.th/local/news_4110530
อาจารย์ ม.อ.ปัตตานี ซัดไม่มี ‘คำขอโทษ’ จากภาครัฐ เหตุโกดังประทัดระเบิด ชี้วัฒนธรรมลอยตัว
จากเหตุการณ์โกดังประทัดร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ระเบิด ที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บ 121 ราย บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 200 หลัง ในรัศมี 500 เมตร
รศ.เอกรินทร์ ต่วนศิริ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โพสต์เฟซบุ๊ก Ekkarin Tuansiri ระบุว่า
ไม่มี “คำขอโทษ” ต่อประชาชนหมู่บ้านมูโนะ
เหตุการณ์ระเบิดที่โกดังพลุดอกไม้ไฟที่หมู่บ้านมูโนะ จังหวัดนราธิวาส เป็นหมู่บ้านที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสิบสองคน บาดเจ็บร้อยกว่าคน บ้านเรือนเสียหายมากกว่าสองร้อยหลังคาเรือน
ผ่านไปแล้ว 4 วัน ยังไม่มี “คำขอโทษ” จากเจ้าหน้าที่รัฐแม้แต่สักหน่วยงานเดียว ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี (รักษาการ) รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด กองทัพ หน่วยความมั่นคง กอ.รมน.ภาค 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบอยู่ในพื้นที่ มิพักต้องเอ่ยถึงเจ้าของกิจการโกดังที่หายตัวไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว
ต้องไม่ลืมว่าพื้นที่นี้เป็น “พื้นที่พิเศษ” ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานความมั่นคง เต็มเมืองเต็มถนน เห็นได้ชัดจากด่านตรวจบนท้องถนนที่มีอยู่จำนวนมากในพื้นที่ ระดับความเข้มงวดของด่านตรวจแม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันก็ต้องถูกตรวจอย่างละเอียด และด้วยคำถามของเจ้าหน้าที่ที่ว่า มาจากไหน ไปไหน ไปทำอะไร
การขนส่งสินค้าจำพวกพลุดอกไม้ไฟจำนวนหลายตัน หลายคันรถสิบล้อแบบนี้ ต้องผ่านด่านตรวจในพื้นที่ไม่ต่ำว่าสิบด่านแน่นอน คำถามคือแล้วรถบรรทุกสินค้าจำนวนมากผ่านเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างไร
แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุของโกดังเอกชน แต่ก็อย่าลืมว่ากิจการประเภทจัดจำหน่ายพลุดอกไม้ไฟ ต้องมีการขอใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่รัฐ ยิ่งเป็นพื้นที่พิเศษ มีกฎหมายพิเศษ ที่เป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ ยิ่งต้องทำงานอย่างเข้มงวดในการตรวจสอบ แต่กลับพบว่ามีโกดังพิเศษตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนอย่างโจ่งแจ้ง
การไม่ตระหนักของผู้นำประเทศและหน่วยงานของรัฐ การไม่สำนึกว่าตัวเองบกพร่องต่อหน้าที่จนเป็นเหตุทำให้คนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เราจึงเห็น “วัฒนธรรมลอยตัว” ของหน่วยงานรัฐที่ปราศจากความรับผิดชอบ
“คำขอโทษ” จากผู้นำประเทศ หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบ ควรเป็นการกระทำสิ่งแรกของผู้ที่รู้ว่าตัวเองบกพร่องต่อหน้าที่ เพื่อจะทำหน้าที่ในการแก้ไขต่อไป ให้คนในชุมชนไว้เนื้อเชื่อใจและร่วมมือกันได้อีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูหมู่บ้านกลับมาอีกครั้ง
https://www.facebook.com/ekkarin.tuansiri.7/posts/pfbid0onXE3jsKuzy96JHB2ZW3eEYw28vJT3DQcNYrr1vS9pQhT4GdJ4mr3rBGLsMGxvUal
อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย โพสต์สั้นๆ 'จุกอก' ชาวเน็ตแห่เมนต์ชวน 'ย้ายพรรค'
https://www.matichon.co.th/politics/news_4110223
อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย โพสต์สั้นๆ ‘จุกอก’ ชาวเน็ตแห่เมนต์ชวน ‘ย้ายพรรค’
หลังจากที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. ได้ออกมาแถลงข่าว ภายหลังหารือร่วมกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าพรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษาหารือกับพรรคก้าวไกลขอถอนตัวจากการร่วมมือกันและเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
และขอยืนยันชัดเจนว่า เราจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในพรรคร่วม
พรรคเพื่อไทยจะใช้ความพยายามรวบรวมเสียง ให้เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเหมาะสม และ พรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านและยืนยันจะทำงานการเมืองในมิติใหม่
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ ระบุว่า “จุกอก”
หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น “ย้ายไปก้าวไกลครับ ขอร้อง” “ใบลาออกสมาชิกพรรค คือคำตอบที่สง่างามสำหรับ ส.ส.น้ำดีอย่างคุณกุ้งครับ”
“เป็นเรื่องน่าเสียใจและเสียดาย แต่ไม่อยากให้คุณทัศนีย์ซึ่งยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการอย่างเด็ดเดี่ยวเสียกำลังใจไปนะครับ โลกภายนอกของการต่อสู้มีขึ้นมีลง สมหวังผิดหวัง แต่จุดยืนและจิตใจของนักสู้ผู้ยืนหยัดท่ามกลางความลำบากอันตรายเหมือนเพชรแท้เสมอ หวังว่าคุณทัศนีย์จะเป็นเพชรแท้ต่อไป” “ย้ายพรรคไหมพี่” “รักพี่กุ้งนะครับ ถ้าอึดอัดย้ายพรรคได้นะครับพี่ ผมไม่เคยเคลือบแคลงหลักการพี่กุ้งแม้แต่นาทีเดียวเลย” เป็นต้น
‘เอกชน’ ขอทีมศก.หล่อๆ มั่นใจ รบ.เพื่อไทย รอถกเคลียร์ปมค่าแรง 600 บาท-แจกเงินดิจิทัล
https://www.matichon.co.th/economy/news_4110847
‘เอกชน’ ขอทีมศก.หล่อๆ มั่นใจ รบ.เพื่อไทย รอถกเคลียร์ปมค่าแรง 600 บาท-แจกเงินดิจิทัล
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศถอนตัวจาก 8 พรรคการเมือง ว่า ในสถานการณ์ตอนนี้ เชื่อว่าหากทุกคนยอมถอยคนละครึ่งก้าว ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่อยากให้ตอบสนองคนส่วนใหญ่ ส่วนคนส่วนเล็กอาจจะมีเสียงไม่ชอบบ้าง หรือบางคนรู้อยู่แล้วจะมีกลุ่มไหนออกมา มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้อยากให้เร่งขบวนการ และรีบจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเรื่องภัยแล้งที่เริ่มลุกลามแล้ว จึงหวังว่า วันที่ 4 สิงหาคมนี้ เราจะได้เห็นหน้าตานายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็นำไปสู่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหลังจากจบขบวนการหานายกฯ เราจะได้เห็นหน้าตาของทีมรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ก็อยากเห็นความหล่อของ ครม.เศรษฐกิจว่าจะมีหน้าตาอย่างไร ต้องเป็นบุคคลที่สร้างความเชื่อมั่น และมีฝีมือทางด้านเศรษฐกิจ
“ซึ่งเชื่อว่าหากเป็นพรรคเพื่อไทยคุมกระทรวงเศรษฐกิจ ผมก็เชื่อมั่นในฝีมือพรรคเพื่อไทย ทั้งโจทย์เศรษฐกิจระดับโลก โจทย์ในประเทศ หนี้ครัวเรือน โครงสร้างหนี้สินที่เป็นหัวใจสำคัญ ต่อระบบเศรษฐกิจต้องได้รับการแก้ไขหากดูจากทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เพื่อไทยมีจุดเเข็งเรื่องของประสบการณ์ทำงานด้านเศรษฐกิจ และนโยบายกระจายรายได้และขับเคลื่อน ที่ถือว่าก้าวหน้า ประเด็นนโยบายเศรษฐกิจถือว่าเพื่อไทยมีจุดขายการทำงานมากว่า 20 ปี เพราะฉะนั้นเอกชนมั่นใจในที่มเศรษฐกิจ เพียงแต่การขับเคลื่อนโครงสร้างกระทรวงต่างๆ ที่จะจัดตั้งรัฐบาลต้องลงไปดู มีส่วนไหนอย่างไรบ้าง” นายเกรียงไกร กล่าว
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอยู่ในกรอบ 600 บาทต่อคน ภายในระยะเวลา 4 ปี นั้น มองว่าถึงเวลานั้นคงต้องคุยกัน ในมุมของ กกร. และภาคเอกชน เรามีกลไกลคือไตรภาคีดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว มองว่าเมื่อถึงเวลานั้น ภาครัฐ เอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐต้องมีคุยกัน พอถึงวันนั้นก็ต้องมาดูเรื่องความยืดหยุ่นกันอีกครั้ง
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ส่วนกรณีหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจำตั้งรัฐบาล และได้นำในเรื่องของดิจิทัลมาใช้ ในมุมมองที่ได้ฟังจากช่วงหาเสียง แต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แม่นยำขึ้น และใช้วงเงินมหาศาลในการกระชากโมเมนตั้มทางเศรษฐกิจให้วิ่งขึ้น โดยคาดหวังว่าจะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนที่เศรษฐกิจไม่ใช่ออกนอกเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาเป็นกระกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหว่านปุ๋ย ซึ่งบางแห่งไม่จำเป็น แต่นโยบายของเพื่อไทย มีความชัดเจน แม่นยำ และอยู่ในบริเวณที่ควบคุมได้ และเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ