ญาติขายที่ดินราคา 40 ล้านค่ะ ซึ่งเป็นที่ดินมีโรงงานเล็กๆเช่าอยู่มานาน แต่เดิมผู้ทำโรงงาน เช่า  ค้างค่าเช่ามา 8 ปีไม่จ่ายสักบาท ค่ะ
อ้างปัณหาต่างๆ บอกว่าไม่ไหวจะย้าย เลยไม่จ่ายค่าเช่า ผ่านมานาน
พยายามบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมจ่ายค่าเช่า จนจะไม่ต่อสัญญาก็ต้องรอเพราะที่ดินนี้ทำสัญญาเช่านาน ครั้งละเป็นสิบปี
เจ้าของที่ดิน ขาดรายได้ ตอนนี้ ก็อายุมากแล้ว จึงอยากขายที่นั้นไป เพื่อตัดปัญหา ก่อนขายได้แจ้งผู้เช่าไปแล้วนะคะว่าให้ย้ายออก เพราะจะขายที่ แต่ผู้เช่าก็ไม่ย้ายออกทำเฉย  หลังจากปิดประกาศขายที่ให้เขารับทราบ ไม่นาน มีผู้ซื้อมาซื้อไป ผู้ซื้อบอกจะทำบ้านเช่า
แต่ก็เกิดปัญหา ผู้ที่ซื้อไปบอกมาว่า เข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะ  คนเช่าที่ดินนั้นๆ ไม่ยอมย้ายออกสักที  ฟ้องศาลแล้วก็ไม่ออก แจ้งความแล้วก็ไม่ยอมย้ายออก ผู้ซื้อที่ดินเลยมาขอ ให้เจ้าของที่ดินเดิมที่ขายที่ดินให้ไปแล้วรับผิดชอบด้วยการต้องไปช่วยไล่
ผู้เช่าในที่ดินเดิมให้ออกไป และบอก ให้เจ้าของที่เดิมที่ขายไปแล้วจ่ายค่าเยียวยาจิตใจและขาดรายได้ เดือนละ 3 หมื่นไปเรื่อยๆก่อน เพราะอ้างว่าเขาทำเป็นคอนโดบ้านเช่าย่อมมีรายได้ มากกว่า 3 หมื่นตรงนี้ ให้จ่ายค่าเยี่ยวยาที่ผู้ซื้อที่ดินเข้าใช้ที่ดินไม่ได้เป้นค่าเสียประโยชน์ไปค่ะ  จ่ายเพื่อเยี่ยวยาคุณธรรม จนกว่าคนเช่าที่ดินนั้นจะออกไป
เข้าอ้างว่าถ้าไม่จ่ายจะไปฟ้องศาลนะ ข้อหาที่ขายที่ดินมาให้ผู้รับซื้อ  ซื้อไปแล้วยังเข้าทำประโยชน์ไม่ได้ จึงให้จ่ายค่าเยี่ยวยาจิตใจและจ่ายค่าคุณธรรมที่ทำให้เขาเสียโอกาศการใช้ที่ดินยนนั้นๆ ไปก่อน
แต่เวลาผ่านมา 3 ปีคนที่เช่าที่ไม่ยอมออก คนที่เป็นเจ้าของที่ดินเดิมต้องจ่ายค่าเยี่ยวยาให้เจ้าของที่ดินคนใหม่มา 3 ปี ตกเดือนละ 3 หมื่น 3ปีก็ 1080000 บาท 
ตอนนี้ล่าสุดผู้เช่าเดิมในที่ดินนั่นก็ไม่ย้ายออกค่ะ  ที่ดินก็ขายไปแล้ว เจ้าของเดิมต้องรับผิดชอบ จ่ายค่าเยี่ยวยาให้เจ้าของใหม่เดือนละ 3 หมื่นไปเรื่อยๆอย่างนี้ ไปอย่างนี้เรื่อยๆเลยหรือคะ  แล้วการที่ขายที่ดินไปแล้วหากมีผู้เช่าที่ไม่ยอมย้ายออกแม๊ว่าจะมีผู้มาซื้อไป เจ้าของเดิมต้องรับผิดชอบต้องมาตาม จ่ายค่าเยี่ยวยาให้เจ้าของใหม่ใน ข้อหาที่ เจ้าของใหม่อ้างว่าเข้าทำประโยชน์ในที่ดินไม่ได้ แบบนี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะเจ้าของใหม่อ้างว่าถ้าไม่จ่ายค่าเยี่ยวยาเขาจะไปฟ้องศาลค่ะ เพราะเขาอ้างเสียประโยชน์ จากการที่ซื้อที่ไปแล้วไม่สามารถทำทุรกิจได้ อย่างนี้เราควรทำอย่างไรดีคะ