ขอบอกก่อนปัจจุบันผมอายุ 57 ปีแล้ว ไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน ยังไม่เคยเป็นโควิด เคยเป็นไข้หวัดใหญ่ 1 ครั้ง ผมเริ่มมีอาการไข้เมื่อเย็นวันอังคารที่ 27 มิย 66 เลยทานยาพาราแล้วเข้นนอน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปหาหมอที่ รพ. ตอนนั้นต้วค่อนข้างร้อนและปวดหัวมาก คุณพยาบาลวัดไข้ได้ 39 องศา เพราะยังไม่ได้ทานยาพารามาจากบ้าน ไม่มีอาการเจ็บคอหรือไอ ก่อนไปพบหมอได้ตรวจ atk จากบ้านแล้ว ไม่ติดโควิด แต่หมอก็สั่งตรวจอีกรอบ ผลเป็น negative หมอเลยให้เจาะเลือดดูเม็ดเลือดขาวและเกล็ตเลือด ผลออกมาก็ปกติ ตอนนั้นค่าเกล็ตเลือดอยู่ที่ 270000 เลยให้กลับไปรอดูอาการที่บ้านก่อน กลับมาบ้านผมทานอาหารแทบไม่ได้ กินได้แค่นม กับน้ำ วันศุกร์ที่ 30 มิย. ผมกลับไปพบหมออีกรอบ วันนี้คุณพยาบาลวัดไข้ได้ 38 องศาหมอจับตรวจไข้หวัดใหญ่ ผลออกมาก็ไม่เป็นอีก ผมเลยเจาะเลือดทิ้งไว้ เพราะวันนี้จะรอผลนาน จากนั้นก็กลับมาพักที่บ้าน ประมาณเที่ยง หมอติดต่อมาบอกว่า ผลเลือดชี้ว่าน่าเป็นไข้เลือดออก เพราะค่าเกล็ตเลือดเหลือแค่ 120000 แต่ค่าเม็ดเลือดขาวยังปกติ หมอนัดไปพบวันอาทิตย์อีกครั้ง แต่ถ้าอาการไข้หายไปก็ไม่ต้องมาก็ได้ ผมกลับมาบ้านผมก็เริ่มทานข้าวได้มากขึ้น มีอาการเพลียมากแทบขยับตัวไม่ค่อยได้ ต้องฝืนมากๆ อาการปวดหัวยังเยอะอยู่ แต่ที่แปลกไปคืออาการไข้เริ่มห่างขึ้น ก่อนหน้านี้ต้องกินพารา 2 เม็ดทุก 5-6 ชม. วันนี้เหลือแค่ 2 มื้อเอง ส่วนน้ำผมทานเยอะมาตลอดคือวันละ 1.5 ลิตร วันเสาร์ไม่มีไข้แล้ว ปวดหัวยังมีบ้าง แต่น้อยลงเยอะ ทานข้าวได้มากขึ้น มีอาการคันตามแขนขา มือ เย็นวันเสาร์อาการทั้งหมดหายไป ยกเว้นอ่อนเพลีย เช้าวันอาทิตย์ ทุกอย่างกลับเป็นปกติเหมือนไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน สรุปใช้เวลาเป็นไข้เลือดออกทั้งหมด 5 วัน อาจจะเป็นครั้งแรก อาการเลยไม่รุนแรง
แชร์ประสบการณ์การเป็นไข้เลือดออกครั้งแรก