- ไข้วันแรก
ลูกคนเล็กมีไข้วันแรกช่วงหัวค่ำ กินยา เช็ดตัว จับแยกห้องนอนกับตัวพี่ พี่ไปนอนกับพ่อ แม่มานอนกับลูกคนเล็ก
คืนนั้น คือแม่ไม่ได้นอน กินยาแล้วไข้ไม่ลง 38องศากว่าๆ ตลอด ต้องเช็ดตัวทั้งคืน หนาวสั่น
ตื่นเช้ามา ไข้ก็ยังไม่ลง เลยพาไปหาหมอที่คลินิกก่อน อาการก็มีแค่ไอแบบมีเสมหะ น้ำมูก ไข้ ปวดหัว
คุณหมอเลยให้ x-ray ไซนัส กับตรวจ FluA+B ผลเป็นลบ หมอบอกไซนัสอักเสบ จ่ายยากลับบ้าน ยังกินข้าวได้
ก็ยังถามหมอเลยว่า ไซนัสไข้ขึ้นด้วยหรอคะ เพราะลูกคนโตไม่เคยมีไข้เลย จนถึงบ่าย ไข้ก็ไม่ลง เริ่มบ่นปวดหัว บ่นอยากนอน แต่ไม่ถึงกับซึม นอนจนแม่ต้องปลุก เช็ดตัววนไป
ประมาณ 4โมงเย็น ไข้พุ่งจาก 38กว่าๆ เป็น 39.5องศา ทั้งๆ ที่เพิ่งกินยาและเช็ดตัวเสร็จ เลยเดินไปบอกพ่อ ไป รพ. เหอะ เกินลิมิตแม่ละ
เดินไป รพ พบหมอ ซักประวัติ เอายาติดไปด้วย
ไปถึง รพ ไข้ 40องศา หมอให้แอดมิท ตรวจเลือด รอขึ้นห้องพัก
พอขึ้นห้องไปได้แป๊ปเดียวเอง ผลออกมาว่าไข้เลือดออกจ่ะแม่!!! ตกใจละหนึ่ง เพราะไข้เลือดออกไม่อยู่ในความคิด คิดว่า RSV มากกว่า
ตกใจที่สอง คือ ผลบอกว่าไม่ได้ติดครั้งแรก ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง WHAT!!! ครั้งแรกเป็นตอนไหน?? ซึ่งอาการจะเยอะมากกว่าครั้งแรก
ตอนที่ติดเชื้อครั้งแรก อาการอาจจะน้อยมากจนคิดว่าไข้หวัดธรรมดาก็ได้
สรุป แอทมิดรักษาทั้งไข้เลือดออก และไซนัสอักเสบ ไปด้วยกันเลย
หมายเหตุ
1. ไข้เลือดออก ไม่มียารักษาโดยเฉพาะเหมือนไข้หวัดใหญ่ ได้แต่กินยา+เช็ดตัว และรักษาตามอาการ งดของกินสีดำสีแดงเพื่อสังเกตสีของฉี่หรืออึ๊หากมีสีผิดปกติ, ห้ามแปรงฟันแรงๆ, ห้ามแคะจมูกแรงๆ
2. การติดเชื้อครั้งที่ 2 อาการจะรุนแรงมากกว่าการติดเชื้อครั้งแรก
3. ครั้งแรกติดตอนไหน? คุณหมอบอกว่า ครั้งแรกอาการอาจจะน้อยมากจนคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ได้
4. การดำเนินของโรคไข้เลือดออก จะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงไข้สูง, ช่วงเฝ้าระวังช็อก 24ชั่วโมง หลังจากไข้ลง, ช่วงฟื้นตัว
ส่วนไซนัส ให้ยาฆ่าเชื้อทางสาย
- ช่วงไข้สูง
ลูกมีไข้อยู่ทั้งหมด 4 วัน แบบไข้สูงลอยยยย ไม่ลงต่ำว่า 38.5องศา เลย ทั้งๆ ที่เพิ่งกินยาหรือเช็ดตัวไป
ความอยากอาหารหายไปเลย มีอาการปวดท้องร่วมด้วย
เอาเป็นว่าเช็ดตัวทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะคืนช่วงวันที่ 3-4 ลูกถึงกับนอนน้ำตาไหลตอนที่โดนปลุกมาเช็ดตัว
ปกติ เวลานอน รพ ลูกจะเด็กที่ให้ความร่วมมือทุกอย่าง เจาะเลือด,แทงเข็มน้ำเกลือไม่ร้อง ต้องเช็ดตัวก็เดินไปเช็ดไม่อิดออด
แต่รอบนี้ไม่จ่ะ เพราะความไข้สูง 30-40องศา ตลอด พาราก็กินได้ทุก 4 ชม. เลยต้องลุกเช็ดตัวถี่มาก นอนหลับได้แป๊ปนึง โดนปลุกไปเช็ดตัวอีกแล้ว
ตาโบ๋ทั้งคนป่วย,คนเฝ้า ลูกนี่ใต้ตาดำคล้ำไปเลย กลางคืนกลายเป็นคนที่ไม่มีแรงแม้แต่จะลุก ลูกดูโทรมมากๆ
ต้องเจาะเลือดทุกเช้า เพื่อเช็คเกร็ดเลือด เม็ดเลือดขาว เกลือแร่ทุกวัน วันแรกลูกขาดเกลือแร่ไปตัวนึงคือ โปรแตสเซียม ก็ต้องกินซึ่งไม่อร่อยอย่างแรง แต่ยอมกินแบบเสียไม่ได้ เพราะพี่พยาบาลมาป้อนเอง
พยายามบิ้วท์ให้กินน้ำ พี่พยาบาลจะจดปริมาณน้ำที่เติมในเหยือก นม และคนเฝ้าจะต้องตวงฉี่จดทุกครั้ง เพื่อระวังร่างกายขาดน้ำ
แต่โชคดีที่เกร็ดเลือดลูกไม่ได้ลดมาก แต่เม็ดเลือดขาวลดลงเยอะ จนหมอต้องเพิ่มย่าฆ่าเชื้ออีกตัว ก็ดำเนินโรคอยู่ยั่งงี้ จนถึงในวันที่ 5
- ช่วงเฝ้าระวัง 24ชั่วโมง หลังจากไข้ลง ดำเนินโรคเข้าสู่วันที่ 5
ตื่นมาคือ ไข้หายเฉยๆ หายไปเลยจริงๆ จากที่เมื่อคืนไข้ยัง 39-40องศาตลอดคืนอยู่เลย หายวับ
และเหงื่อเริ่มออกแล้ว รู้สึกว่าออกมากจนหมอนเปียก จากที่ไม่เห็นเหงื่อมา 4 วันแล้ว
หมอมาตอนเช้าแล้วบอกว่าตอนนี้ วันนี้ เข้าสู่ช่วงระยะเฝ้าระวังช็อกนะแม่ อย่าให้ขาดน้ำ
หมอจะเร่งน้ำเกลือจาก 35 เป็น 50 เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ขอเจาะเลือดเก็บฉี่ทุกเช้า-เย็น วัดความดันทุก 2 ชม. ซึ่งตอนกลางวันคุณหมอมาดูเองทุก 2 ชม. ด้วย
ตอนบ่าย พี่พยาบาลมาเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเพื่อดูว่าข้นไหม ข้นจ่ะ ถึงกับต้องเค้นรีดเลือดที่นิ้ว พอเลือดข้นก็ต้องเก็บฉี่อีก
คุณหมอต้องเพิ่มอัตราการเร่งน้ำเกลือจาก 50 เป็น 80
ส่วนไข้ หายไปเลยจ่ะทั้งวัน เหมือน Heater ในร่างกายหยุดทำงานไปเฉยๆ ซะงั้น แต่มือเย็น ตัวเย็น
ตอนบ่ายๆ เริ่มมีอาการคันที่ขา หมอจ่ายยาแก้คันให้กิน
ข้าวเย็น รู้สึกกินได้เยอะขึ้น เห็นได้จากอาการที่ตักข้าวเข้าปาก จากที่แทบไม่กินอะไรเลย
ตอนนอน รู้สึกว่าหลับๆ ตื่นๆ กระสับกระส่าย จนตี 3 ลุกมานั่งชวนแม่คุยเฉย (แม่ง่วงเด้!!!)
ถามว่าทำไมช่วงนี้ต้องเฝ้าระวัง ตามการดำเนินของโรค หลังจากพ้นช่วงไข้สูงอาจเกิดการช็อกได้ เนื่องจากอาจเกิดสารน้ำในหลอดเลือดรั่วไหลออกจากหลอดเลือด
และจะนำพาไปสู่ทำให้เลือดออกในร่างกาย แต่ของลูกโชคดี ไม่รุนแรง
- ช่วงฟื้นตัว หลังจากพ้นระยะไข้สูงมาแล้ว 24 ชม. เข้าสู่วันที่ 6
หมอมาตอนเช้า และบอกว่าพ้นระยะเฝ้าระวังแล้วนะแม่ อาการไข้เลือดออกลูกดีมากกกกกกก ไม่ขาดน้ำ สบายใจได้
แต่ก็ยังไม่ได้ออกจาก รพ. เพราะค่าเม็ดเลือดขาวยังต่ำอยู่ หมอขอดูต่ออีก 1 วัน
กินข้าวได้เยอะ คุยได้เยอะขึ้น แต่ยังคงเพลียและง่วงนอน
- วันที่ 7 กลับบ้าน
]พี่พยาบาลมาเจาะเลือดเก็บฉี่ตั้งแต่เช้า สรุปได้กลับบ้านซักที
บิลมา นอน รพ 5 วัน ยอดเกือบ 73,000 บาท ประกันปิดจบ!!!
ขอบคุณค่ะ
แชร์ประสบการณ์ ลูกป่วยไข้เลือดออก ติดเชื้อครั้งที่ 2 โดยไม่รู้ตัวว่าติดครั้งแรกตอนไหน
ลูกคนเล็กมีไข้วันแรกช่วงหัวค่ำ กินยา เช็ดตัว จับแยกห้องนอนกับตัวพี่ พี่ไปนอนกับพ่อ แม่มานอนกับลูกคนเล็ก
คืนนั้น คือแม่ไม่ได้นอน กินยาแล้วไข้ไม่ลง 38องศากว่าๆ ตลอด ต้องเช็ดตัวทั้งคืน หนาวสั่น
ตื่นเช้ามา ไข้ก็ยังไม่ลง เลยพาไปหาหมอที่คลินิกก่อน อาการก็มีแค่ไอแบบมีเสมหะ น้ำมูก ไข้ ปวดหัว
คุณหมอเลยให้ x-ray ไซนัส กับตรวจ FluA+B ผลเป็นลบ หมอบอกไซนัสอักเสบ จ่ายยากลับบ้าน ยังกินข้าวได้
ก็ยังถามหมอเลยว่า ไซนัสไข้ขึ้นด้วยหรอคะ เพราะลูกคนโตไม่เคยมีไข้เลย จนถึงบ่าย ไข้ก็ไม่ลง เริ่มบ่นปวดหัว บ่นอยากนอน แต่ไม่ถึงกับซึม นอนจนแม่ต้องปลุก เช็ดตัววนไป
ประมาณ 4โมงเย็น ไข้พุ่งจาก 38กว่าๆ เป็น 39.5องศา ทั้งๆ ที่เพิ่งกินยาและเช็ดตัวเสร็จ เลยเดินไปบอกพ่อ ไป รพ. เหอะ เกินลิมิตแม่ละ
เดินไป รพ พบหมอ ซักประวัติ เอายาติดไปด้วย
ไปถึง รพ ไข้ 40องศา หมอให้แอดมิท ตรวจเลือด รอขึ้นห้องพัก
พอขึ้นห้องไปได้แป๊ปเดียวเอง ผลออกมาว่าไข้เลือดออกจ่ะแม่!!! ตกใจละหนึ่ง เพราะไข้เลือดออกไม่อยู่ในความคิด คิดว่า RSV มากกว่า
ตกใจที่สอง คือ ผลบอกว่าไม่ได้ติดครั้งแรก ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง WHAT!!! ครั้งแรกเป็นตอนไหน?? ซึ่งอาการจะเยอะมากกว่าครั้งแรก
ตอนที่ติดเชื้อครั้งแรก อาการอาจจะน้อยมากจนคิดว่าไข้หวัดธรรมดาก็ได้
สรุป แอทมิดรักษาทั้งไข้เลือดออก และไซนัสอักเสบ ไปด้วยกันเลย
หมายเหตุ
1. ไข้เลือดออก ไม่มียารักษาโดยเฉพาะเหมือนไข้หวัดใหญ่ ได้แต่กินยา+เช็ดตัว และรักษาตามอาการ งดของกินสีดำสีแดงเพื่อสังเกตสีของฉี่หรืออึ๊หากมีสีผิดปกติ, ห้ามแปรงฟันแรงๆ, ห้ามแคะจมูกแรงๆ
2. การติดเชื้อครั้งที่ 2 อาการจะรุนแรงมากกว่าการติดเชื้อครั้งแรก
3. ครั้งแรกติดตอนไหน? คุณหมอบอกว่า ครั้งแรกอาการอาจจะน้อยมากจนคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ได้
4. การดำเนินของโรคไข้เลือดออก จะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงไข้สูง, ช่วงเฝ้าระวังช็อก 24ชั่วโมง หลังจากไข้ลง, ช่วงฟื้นตัว
ส่วนไซนัส ให้ยาฆ่าเชื้อทางสาย
- ช่วงไข้สูง
ลูกมีไข้อยู่ทั้งหมด 4 วัน แบบไข้สูงลอยยยย ไม่ลงต่ำว่า 38.5องศา เลย ทั้งๆ ที่เพิ่งกินยาหรือเช็ดตัวไป
ความอยากอาหารหายไปเลย มีอาการปวดท้องร่วมด้วย
เอาเป็นว่าเช็ดตัวทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะคืนช่วงวันที่ 3-4 ลูกถึงกับนอนน้ำตาไหลตอนที่โดนปลุกมาเช็ดตัว
ปกติ เวลานอน รพ ลูกจะเด็กที่ให้ความร่วมมือทุกอย่าง เจาะเลือด,แทงเข็มน้ำเกลือไม่ร้อง ต้องเช็ดตัวก็เดินไปเช็ดไม่อิดออด
แต่รอบนี้ไม่จ่ะ เพราะความไข้สูง 30-40องศา ตลอด พาราก็กินได้ทุก 4 ชม. เลยต้องลุกเช็ดตัวถี่มาก นอนหลับได้แป๊ปนึง โดนปลุกไปเช็ดตัวอีกแล้ว
ตาโบ๋ทั้งคนป่วย,คนเฝ้า ลูกนี่ใต้ตาดำคล้ำไปเลย กลางคืนกลายเป็นคนที่ไม่มีแรงแม้แต่จะลุก ลูกดูโทรมมากๆ
ต้องเจาะเลือดทุกเช้า เพื่อเช็คเกร็ดเลือด เม็ดเลือดขาว เกลือแร่ทุกวัน วันแรกลูกขาดเกลือแร่ไปตัวนึงคือ โปรแตสเซียม ก็ต้องกินซึ่งไม่อร่อยอย่างแรง แต่ยอมกินแบบเสียไม่ได้ เพราะพี่พยาบาลมาป้อนเอง
พยายามบิ้วท์ให้กินน้ำ พี่พยาบาลจะจดปริมาณน้ำที่เติมในเหยือก นม และคนเฝ้าจะต้องตวงฉี่จดทุกครั้ง เพื่อระวังร่างกายขาดน้ำ
แต่โชคดีที่เกร็ดเลือดลูกไม่ได้ลดมาก แต่เม็ดเลือดขาวลดลงเยอะ จนหมอต้องเพิ่มย่าฆ่าเชื้ออีกตัว ก็ดำเนินโรคอยู่ยั่งงี้ จนถึงในวันที่ 5
- ช่วงเฝ้าระวัง 24ชั่วโมง หลังจากไข้ลง ดำเนินโรคเข้าสู่วันที่ 5
ตื่นมาคือ ไข้หายเฉยๆ หายไปเลยจริงๆ จากที่เมื่อคืนไข้ยัง 39-40องศาตลอดคืนอยู่เลย หายวับ
และเหงื่อเริ่มออกแล้ว รู้สึกว่าออกมากจนหมอนเปียก จากที่ไม่เห็นเหงื่อมา 4 วันแล้ว
หมอมาตอนเช้าแล้วบอกว่าตอนนี้ วันนี้ เข้าสู่ช่วงระยะเฝ้าระวังช็อกนะแม่ อย่าให้ขาดน้ำ
หมอจะเร่งน้ำเกลือจาก 35 เป็น 50 เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ขอเจาะเลือดเก็บฉี่ทุกเช้า-เย็น วัดความดันทุก 2 ชม. ซึ่งตอนกลางวันคุณหมอมาดูเองทุก 2 ชม. ด้วย
ตอนบ่าย พี่พยาบาลมาเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเพื่อดูว่าข้นไหม ข้นจ่ะ ถึงกับต้องเค้นรีดเลือดที่นิ้ว พอเลือดข้นก็ต้องเก็บฉี่อีก
คุณหมอต้องเพิ่มอัตราการเร่งน้ำเกลือจาก 50 เป็น 80
ส่วนไข้ หายไปเลยจ่ะทั้งวัน เหมือน Heater ในร่างกายหยุดทำงานไปเฉยๆ ซะงั้น แต่มือเย็น ตัวเย็น
ตอนบ่ายๆ เริ่มมีอาการคันที่ขา หมอจ่ายยาแก้คันให้กิน
ข้าวเย็น รู้สึกกินได้เยอะขึ้น เห็นได้จากอาการที่ตักข้าวเข้าปาก จากที่แทบไม่กินอะไรเลย
ตอนนอน รู้สึกว่าหลับๆ ตื่นๆ กระสับกระส่าย จนตี 3 ลุกมานั่งชวนแม่คุยเฉย (แม่ง่วงเด้!!!)
ถามว่าทำไมช่วงนี้ต้องเฝ้าระวัง ตามการดำเนินของโรค หลังจากพ้นช่วงไข้สูงอาจเกิดการช็อกได้ เนื่องจากอาจเกิดสารน้ำในหลอดเลือดรั่วไหลออกจากหลอดเลือด
และจะนำพาไปสู่ทำให้เลือดออกในร่างกาย แต่ของลูกโชคดี ไม่รุนแรง
- ช่วงฟื้นตัว หลังจากพ้นระยะไข้สูงมาแล้ว 24 ชม. เข้าสู่วันที่ 6
หมอมาตอนเช้า และบอกว่าพ้นระยะเฝ้าระวังแล้วนะแม่ อาการไข้เลือดออกลูกดีมากกกกกกก ไม่ขาดน้ำ สบายใจได้
แต่ก็ยังไม่ได้ออกจาก รพ. เพราะค่าเม็ดเลือดขาวยังต่ำอยู่ หมอขอดูต่ออีก 1 วัน
กินข้าวได้เยอะ คุยได้เยอะขึ้น แต่ยังคงเพลียและง่วงนอน
- วันที่ 7 กลับบ้าน
]พี่พยาบาลมาเจาะเลือดเก็บฉี่ตั้งแต่เช้า สรุปได้กลับบ้านซักที
บิลมา นอน รพ 5 วัน ยอดเกือบ 73,000 บาท ประกันปิดจบ!!!
ขอบคุณค่ะ