วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์พ่อมีอาการภาวะน้ำในเยื่อหุ้มปอดค่ะ
อาการของพ่อเราเริ่มแรก มีไข้ หนาวสั่น(ตัวสั่นเหมือนผีเข้า) และเจ็บซี่โครงด้านซ้าย เราก็พาไปรักษาโรงพยาบาลอำเภอแถวบ้าน หมอวิเคราะห์ดูว่าอาจจะกล้ามเนื้ออักเสบทำให้มีไข้ได้เลยได้ยาพาราและยาคลายกล้ามเนื้อมากิน แต่ในใจนี่เราอยากจะให้หมอเอกซเรย์ให้คุณพ่อ พอมาอีกวันหนึ่งโชคดีที่หมู่บ้านของเราจะมีใบนัดให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อให้ไปเอกซเรย์ปอดที่โรงพยาบาล ตอนแรกพ่อเราบอกจะไม่ไปเพราะว่าพึ่งเอกซเรย์ไปแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว เราเลยขอร้องให้ไปเพราะท่านมีอาการเจ็บซี่โครงบวกกับเป็นไข้นั้นแหละ (ที่โรงพยาบาลถ้าใครเอกซเรย์ปอดผิดปกติเค้าจะเรียกให้ไปเอกซเรย์ซ้ำ) พอตกเย็นเรารอไม่ไหว เราอยากจะเอกซเรย์ให้แน่ใจว่าท่านเป็นอะไรกันแน่เพราะกินยาเข้าไปก็ไม่ดีขั้น เราเลยพาท่านไปหาหมอคลินิคที่มีเครื่องเอกซเรย์ในตัว แต่ก็ยังไม่ได้เอกซเรย์เหมือนเดิม ได้ยาแก้ปวด ลดไข้ และยาแก้อักเสบมากิน พอกินได้ 1 วัน รู้สึกว่าอาการเจ็บซี่โ่ครงดีขึ้นนิดหน่อยแต่ยังมีไข้ต่ำๆ
- พอมาอีกวันได้รับใบนัดจากโรงพยาบาลเนื่องจากปอดผิดปกติ พ่อเราก็ไปตามนัดเพื่อเอกซเรย์อีกครั้งหนึ่งและพบหมอ ปรากฎหมอบอกว่าที่ปอดเหมือนมีน้ำเกาะที่ปอดด้านซ้าย หมอต้องให้ยาฆ่าเชื้อ 3 วัน และต้องเอาเลือดกับเสมหะไปตรวจ พอให้ยาฆ่าเชื้อครบแล้ว 3 วัน ไปเอกซเรย์อีกรอบหนึ่งผลออกมาคือในปอดมีน้ำเพิ่มขึ้นมาอีก หมอบอกว่าต้องแอดมิดโรงพยาบาลให้ยาฆ่าเชื้อแรงกว่าตัวเดิมอีก 3 วัน แล้วเอกซเรย์ซ้ำอีก ถ้าเอกซเรย์ปอดไม่ดีขึ้นอาจจะต้องส่งตัวพ่อเราเข้าไปโรงพยาบาลในเมืองต่อและถ้ามีน้ำในปอดมากกว่านี้อาจจะต้องทำการเจาะปอด ในระหว่างสามวันที่นอนโรงพยาบาลหมอก็เอาเลือดและเสมหะพ่อของเราไปตรวจเหมือนเดิม ตอนนั้นพ่อเราก็มีอาการเจ็บซี่โครงเหมือนเดิมแต่ไม่มากเค้าบอกว่าเวลาหายใจเข้าจะรู้สึกเจ็บ รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยและเริ่มไอ
- ยาฆ่าเชื้อครบ 3 วัน หมอให้กลับไปเอกซเรย์ปรากฎว่าน้ำในยังมีอยู่ (เราเริ่มใจไม่ดีละ) และเอาเลือดไปตรวจปอดก็ไม่ได้ติดเชื้อ เอาเสมหะไปตรวจก็ไม่ได้เป็นวัณโรค หมอบอกว่าต้องส่งตัวพ่อเราไปทำ CT Scan เพื่อดูว่ามีก้อนเนื้ออยู่ในปอดหรือไม่ที่มันอาจให้เกิดมีน้ำเกาะนอกปอด พอไปถึงโรงพยาบาลในเมืองประมาณบ่ายโมง พยาบาลก็มาให้น้ำเกลือและให้งดน้ำงดอาหารภายใน 5 - 6 ชม.(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วเจาะเลือดไปตรวจและมีขวดให้เก็บเสมหะไปตรวจอีก (ตรวจแบบละเอียดกว่าเดิม) รอประมาณ 8 ชม. ได้มีพนักงานเข็นเปลมารับเพื่อไปทำ CT Scan แล้วฟังผลจากหมอ รอสักประมาณ 30 นาที หมอก็เดินออกมาบอกผลว่าจากที่ได้ทำ CT Scan ปกติ น้ำในปอดก็มีไม่มาก ถ้าหากเจาะปอดอาจจะอันตรายอาจจะทำให้ไปทิ่มปอดได้ หมอเลยถามอาการพ่อเราว่าเป็นอย่างไรบ้างดีขั้นกว่าเดิมไหม?? พ่อเรามีอาการดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากได้ยาฆ่าเชื้อ ทีนี้หมอได้วิเคราะห์เบื้องต้นแล้วว่าอาจจะเป็นปอดอักเสบ เลยจะให้ยาฆ่าเชื้อต่อให้ครบแล้วมาเอกซเรย์ต่ออีกรอบหนึ่ง
**หมายเหตุ** เราสงสัยว่าสาเหตุที่แท้จริงพ่อเราเป็นอะไรกันแน่??? (ใบรับรองแพทย์หมอวินิจฉัยว่า ภาวะเยื่อในน้ำหุ้มปอด)
1.เราสงสัยว่าพ่อจะเป็นวัณโรคที่เยื่อหุ้มปอดหรือไม่ ซึ่งเราได้ถามหมอไปแล้วแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดเพราะว่าไม่ได้เจาะเอาน้ำที่ปอดไปตรวจ ที่เราสงสัยเพราะว่าแม่เราได้เสียชีวิตไปเมื่อ 3 เดือนก่อน เนื่องจากเป็นวัณโรคปอด
2. พ่อเราชอบใส่แมสซ้ำกัน 2 - 3 อาทิตย์ ซ้ำกันไปมา และชอบใส่ทั้งวัน ซึ่งอาจจะทำให้ปอดอักเสบได้
ขอแชร์ประสบการณ์ ภาวะน้ำในเยื่อหุ้มปอด
อาการของพ่อเราเริ่มแรก มีไข้ หนาวสั่น(ตัวสั่นเหมือนผีเข้า) และเจ็บซี่โครงด้านซ้าย เราก็พาไปรักษาโรงพยาบาลอำเภอแถวบ้าน หมอวิเคราะห์ดูว่าอาจจะกล้ามเนื้ออักเสบทำให้มีไข้ได้เลยได้ยาพาราและยาคลายกล้ามเนื้อมากิน แต่ในใจนี่เราอยากจะให้หมอเอกซเรย์ให้คุณพ่อ พอมาอีกวันหนึ่งโชคดีที่หมู่บ้านของเราจะมีใบนัดให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อให้ไปเอกซเรย์ปอดที่โรงพยาบาล ตอนแรกพ่อเราบอกจะไม่ไปเพราะว่าพึ่งเอกซเรย์ไปแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว เราเลยขอร้องให้ไปเพราะท่านมีอาการเจ็บซี่โครงบวกกับเป็นไข้นั้นแหละ (ที่โรงพยาบาลถ้าใครเอกซเรย์ปอดผิดปกติเค้าจะเรียกให้ไปเอกซเรย์ซ้ำ) พอตกเย็นเรารอไม่ไหว เราอยากจะเอกซเรย์ให้แน่ใจว่าท่านเป็นอะไรกันแน่เพราะกินยาเข้าไปก็ไม่ดีขั้น เราเลยพาท่านไปหาหมอคลินิคที่มีเครื่องเอกซเรย์ในตัว แต่ก็ยังไม่ได้เอกซเรย์เหมือนเดิม ได้ยาแก้ปวด ลดไข้ และยาแก้อักเสบมากิน พอกินได้ 1 วัน รู้สึกว่าอาการเจ็บซี่โ่ครงดีขึ้นนิดหน่อยแต่ยังมีไข้ต่ำๆ
- พอมาอีกวันได้รับใบนัดจากโรงพยาบาลเนื่องจากปอดผิดปกติ พ่อเราก็ไปตามนัดเพื่อเอกซเรย์อีกครั้งหนึ่งและพบหมอ ปรากฎหมอบอกว่าที่ปอดเหมือนมีน้ำเกาะที่ปอดด้านซ้าย หมอต้องให้ยาฆ่าเชื้อ 3 วัน และต้องเอาเลือดกับเสมหะไปตรวจ พอให้ยาฆ่าเชื้อครบแล้ว 3 วัน ไปเอกซเรย์อีกรอบหนึ่งผลออกมาคือในปอดมีน้ำเพิ่มขึ้นมาอีก หมอบอกว่าต้องแอดมิดโรงพยาบาลให้ยาฆ่าเชื้อแรงกว่าตัวเดิมอีก 3 วัน แล้วเอกซเรย์ซ้ำอีก ถ้าเอกซเรย์ปอดไม่ดีขึ้นอาจจะต้องส่งตัวพ่อเราเข้าไปโรงพยาบาลในเมืองต่อและถ้ามีน้ำในปอดมากกว่านี้อาจจะต้องทำการเจาะปอด ในระหว่างสามวันที่นอนโรงพยาบาลหมอก็เอาเลือดและเสมหะพ่อของเราไปตรวจเหมือนเดิม ตอนนั้นพ่อเราก็มีอาการเจ็บซี่โครงเหมือนเดิมแต่ไม่มากเค้าบอกว่าเวลาหายใจเข้าจะรู้สึกเจ็บ รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยและเริ่มไอ
- ยาฆ่าเชื้อครบ 3 วัน หมอให้กลับไปเอกซเรย์ปรากฎว่าน้ำในยังมีอยู่ (เราเริ่มใจไม่ดีละ) และเอาเลือดไปตรวจปอดก็ไม่ได้ติดเชื้อ เอาเสมหะไปตรวจก็ไม่ได้เป็นวัณโรค หมอบอกว่าต้องส่งตัวพ่อเราไปทำ CT Scan เพื่อดูว่ามีก้อนเนื้ออยู่ในปอดหรือไม่ที่มันอาจให้เกิดมีน้ำเกาะนอกปอด พอไปถึงโรงพยาบาลในเมืองประมาณบ่ายโมง พยาบาลก็มาให้น้ำเกลือและให้งดน้ำงดอาหารภายใน 5 - 6 ชม.(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วเจาะเลือดไปตรวจและมีขวดให้เก็บเสมหะไปตรวจอีก (ตรวจแบบละเอียดกว่าเดิม) รอประมาณ 8 ชม. ได้มีพนักงานเข็นเปลมารับเพื่อไปทำ CT Scan แล้วฟังผลจากหมอ รอสักประมาณ 30 นาที หมอก็เดินออกมาบอกผลว่าจากที่ได้ทำ CT Scan ปกติ น้ำในปอดก็มีไม่มาก ถ้าหากเจาะปอดอาจจะอันตรายอาจจะทำให้ไปทิ่มปอดได้ หมอเลยถามอาการพ่อเราว่าเป็นอย่างไรบ้างดีขั้นกว่าเดิมไหม?? พ่อเรามีอาการดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากได้ยาฆ่าเชื้อ ทีนี้หมอได้วิเคราะห์เบื้องต้นแล้วว่าอาจจะเป็นปอดอักเสบ เลยจะให้ยาฆ่าเชื้อต่อให้ครบแล้วมาเอกซเรย์ต่ออีกรอบหนึ่ง
**หมายเหตุ** เราสงสัยว่าสาเหตุที่แท้จริงพ่อเราเป็นอะไรกันแน่??? (ใบรับรองแพทย์หมอวินิจฉัยว่า ภาวะเยื่อในน้ำหุ้มปอด)
1.เราสงสัยว่าพ่อจะเป็นวัณโรคที่เยื่อหุ้มปอดหรือไม่ ซึ่งเราได้ถามหมอไปแล้วแต่ก็ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดเพราะว่าไม่ได้เจาะเอาน้ำที่ปอดไปตรวจ ที่เราสงสัยเพราะว่าแม่เราได้เสียชีวิตไปเมื่อ 3 เดือนก่อน เนื่องจากเป็นวัณโรคปอด
2. พ่อเราชอบใส่แมสซ้ำกัน 2 - 3 อาทิตย์ ซ้ำกันไปมา และชอบใส่ทั้งวัน ซึ่งอาจจะทำให้ปอดอักเสบได้