น้ำท่วมไม่ทันตั้งตัว ป้าได้แต่ทำใจ ปล่อยหมูกว่า 60 ตัวจม-ไก่ตายคาคอก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7743826
ป้าจำใจปล่อยหมูกว่า 60 ตัวให้จมอยู่ในน้ำ หลังท่วมคอกหมูสูงเกือบ 50 เซนติเมตร โดยมีหมูลอยไปกับน้ำแล้วหลายตัว บางตัวต้องเอาชีวิตรอดด้วยการยืนสองขา
วันที่ 2 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่3 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยผู้นำชุมชนและเจ้าของบ้าน กำลังเร่งหาทางขนย้ายหมูกว่า 60 ตัว ที่ถูกน้ำท่วมคอกทั้ง 6 คอก โดยระดับน้ำสูงตั้งแต่ 50-60 เซนติเมตร ทำให้หมูส่งเสียงร้องด้วยความตกใจกลัวตลอดเวลา โดยมีหมูบางส่วนลอยหายไปกับสายน้ำ ส่วนหมูที่ยังอยู่ในคอก บางตัวพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการยืนสองขา เพื่อเกาะถังใส่อาหารไม่ให้จมน้ำ และมีอีกหลายตัวระดับน้ำท่วมถึงจมูก จึงพากันเกาะกลุ่ม และเกาะฝาผนังเพื่อส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากหมูเกิดความตื่นกลัวและไม่มีอุปกรณ์ในการขนย้ายหมูที่มีมากกว่า 60 ตัว ประกอบกับเป็นหมูที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 40-80 กิโลกรัม ทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และหมูขุน ส่วนบริเวณบ้านถูกน้ำล้อมรอบสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้ถึงย้ายออกจากคอกได้ หมูก็ไม่มีที่อยู่อาศัย
เจ้าของบ้านคือ นาง
ยุพิน สุเหร็น อายุ 66 ปี จึงได้แต่ทำใจและปล่อยให้หมูถูกน้ำท่วมไปจนกว่าระดับน้ำจะลดลง แต่หากน้ำเพิ่มสูงขึ้นก็คงต้องปล่อยให้หมูจมน้ำตายไปในที่สุด เช่นเดียวกับไก่ไข่ที่เลี้ยงไว้ในคอกกว่า 30 ตัว ตอนนี้จมน้ำตายไปแล้วกว่า 20 ตัว โดยคอกไก่มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และครั้งนี้นับเป็นน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี
นาง
ยุพิน สุเหร็น อายุ 66 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ได้แต่ทำใจและปล่อยให้หมูถูกน้ำท่วมไปจนกว่าระดับน้ำจะลดลง แต่หากน้ำเพิ่มสูงขึ้นก็คงต้องปล่อยให้หมูจมน้ำตายไปในที่สุด น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ไก่ของตนตายไปแล้วกว่า 20 ตัว หมูกว่า 60 ตัวจมอยู่ในน้ำและบางตัวก็ว่ายน้ำลอยหายไป
นอกจากนี้ ยังมีวัสดุที่จะใช้ทำคอกหมู เช่น ทราย 1 คันรถและปูนซีเมนต์ 5 กระสอบจมหายไปกับสายน้ำ ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ตนไม่ทันตั้งตัว เพราะตอนออกไปทำธุระนอกบ้านตอนเช้ายังไม่มีน้ำ แต่พอกลับมาก็พบว่าน้ำท่วมบ้านแล้ว ซึ่งครั้งนี้นับเป็นน้ำท่วมหนักสุดในรอบหลายปี
ส่วนถนนสายห้วยเหรียง-ควนสระแก้ว หมู่ที่ 3 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 20-30 เซนติเมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ทำให้ต้องยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถกระบะ เพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งถนน บางคันขับลุยน้ำจนชิ้นส่วนของรถหลุดออกจากตัวรถก็มี
สำหรับ จ.ตรัง มีน้ำท่วมรวม 7 อำเภอ ได้แก่อ.เมือง,อ.สิเกา,อ.ห้วยยอด, อ.ย่านตาขาว, อ.ปะเหลียน, อ.วังวิเศษ และอ.กันตัง รวมกว่า 400 หลังคาเรือน โดยมี 5 อำเภอระดับน้ำลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากฝนหยุดตกตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้(1 ก.ค)
ยกเว้นที่ 2 อำเภอคือที่ตำบลนาโต๊ะหมิงและตำบลบางรัก อ.เมือง กับตำบลเขาวิเศษ อ.วังวิเศษ หลายหมู่บ้านยังมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากเป็นที่ราบลุ่ม อยู่ติดกับแม่น้ำตรังและเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเริ่มแจ่มใส และหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดระดับน้ำจะลดลงภายใน 1-2 วันนี้
เอกชนเรียกร้อง 188 ส.ส.ไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย – ขอส.ว.มองประโยชน์คนส่วนใหญ่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4058784
เอกชนเรียกร้อง 188 ส.ส.ไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย – ขอส.ว.มองประโยชน์คนส่วนใหญ่
นาย
อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นทางการเมือง ระบุว่า
“จากใจประชาชนคนหนึ่ง
นาทีนี้ !
อนาคตของประเทศ และชะตากรรมของประชาชน กำลังอยู่ในมือของพวกท่าน…
1) 500 ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยได้โปรด มองอนาคตของประเทศ มากกว่า ประโยชน์ส่วนตัว
ผมมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่คงอยากเห็น
1.1 กลุ่ม 312 ท่าน
ควรยึดมติพรรค ตามกรอบ MOU 8 พรรค และไม่ทำให้ กว่า 25 ล้านเสียง ของประชาชน(จาก 14 พค.66 ) ต้องสูญเปล่า !
1.2 กลุ่ม 188 ท่าน
ที่ได้โปรดมองอนาคตความเป็นประชาธิปไตย ด้วยการไม่ฝืนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้พรรคการเมืองของท่านอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี ของประเทศในระยะยาว
2) 250 ส.ว. ผู้ทรงเกียรติได้โปรดใช้วิจารณญาณและเป็นตัวของตัวเองในการโหวตเลือกผู้นำประเทศ ( ที่มีตัวเลือกมากกว่า 1 ท่าน) ด้วยวุฒิภาวะและมองประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
ท้ายนี้ ผมขอส่งแรงใจ และความปรารถนาดี ในนามประชาชนคนหนึ่ง สู่ 750 ท่านผู้ทรงเกียรติ และเป็นผู้ที่จะกำหนดอนาคตของประเทศจากนี้ไป
และขอภาวนาว่า ประเทศไทยของเราจะมีอนาคตที่ดีขึ้น
ด้วยการได้ผู้นำประเทศ และจัดตั้งรัฐบาล ด้วยทีมงานที่มีความรู้ มีความสามารถ มีคุณธรรม และมีความทุ่มเท แก้ไขปัญหา เพื่อให้เราได้ผ่านพ้นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และประชาชนจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีความหวังที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ประเทศไทยของเราจะได้ไม่กลับมาวนเวียนในวงจรเดิมๆ ที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สร้างความเกลียดชังกันและกัน ผูกขาดความรักชาติ ไม่ดึงฟ้าต่ำ ตลอดจนสร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมแบบในอดีตที่ผ่านมา
ขอบคุณครับ”
https://www.facebook.com/isares.rattanadilok/posts/pfbid0WNkFVXShGVv1ZGMoJ8ARuu3dJnW25og4MT1EZk3QZXtULHbbhWo91xV2q6Q1qUTsl
“พิธา” อุบหารือประธานสภาฯ แต่คุยปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_576882/
“พิธา” เข้าพรรคแล้ว รับเรื่องร้องเรียนชาวบ้านถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย อุบวันนี้หารือประธานสภาฯ แต่คุยปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง
นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้ารวมประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่ ท่ามกลางกลุ่มด้อมส้มที่จำทะเบียนรถของนายพิธาได้ ก็พร้อมใจตะโกนให้กำลังใจนายพิธาว่า “
พิธาสู้ๆ พิธานายกรัฐมนตรีคนที่ 30” และทันทีที่ประตูรถนายพิธาเปิด สื่อมวลชนกรูกันเข้าไป เพื่อสัมภาษณ์ แต่นาย
พิธาฝ่าวงล้อมสื่อ เดินไปที่บริเวณป้อมรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้า ซึ่งมีประชาชน 4 คน นั่งถือป้ายชูอยู่ มาร้องเรียนว่า ถูกตำรวจทำร้าย จนร่างกายพิการ และถูกไล่ที่ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งนาย
พิธาได้รับเรื่องร้องเรียน และซักถามรายละเอียดกว่า 10 นาที
ทั้งนี้ ในระหว่างการเดินเข้าประชุม นาย
พิธา ปฏิเสธ ตอบเรื่องประธานสภาฯ ที่จะมีการเจรจากับพรรคเพื่อไทยว่า จะมีการเจรจาใหม่ในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นาย
พิธาตอบเพียงว่า ขอขึ้นไปหารือกับ 8 พรรคร่วมก่อน และการประชุมในวันนี้จะเน้นหารือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ปัญหาเรื่องราคาน้ำมัน ปัญหาค่าไฟ ปัญหาเอสเอ็มอี และขอโฟกัสปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนก่อนเรื่องการเมือง
JJNY : น้ำท่วมไม่ทันตั้งตัว│เอกชนเรียกร้อง 188ส.ส.ไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย│“พิธา”อุบหารือประธานสภาฯ│รัสเซียเตือนสหรัฐฯ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7743826
ป้าจำใจปล่อยหมูกว่า 60 ตัวให้จมอยู่ในน้ำ หลังท่วมคอกหมูสูงเกือบ 50 เซนติเมตร โดยมีหมูลอยไปกับน้ำแล้วหลายตัว บางตัวต้องเอาชีวิตรอดด้วยการยืนสองขา
วันที่ 2 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่3 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยผู้นำชุมชนและเจ้าของบ้าน กำลังเร่งหาทางขนย้ายหมูกว่า 60 ตัว ที่ถูกน้ำท่วมคอกทั้ง 6 คอก โดยระดับน้ำสูงตั้งแต่ 50-60 เซนติเมตร ทำให้หมูส่งเสียงร้องด้วยความตกใจกลัวตลอดเวลา โดยมีหมูบางส่วนลอยหายไปกับสายน้ำ ส่วนหมูที่ยังอยู่ในคอก บางตัวพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการยืนสองขา เพื่อเกาะถังใส่อาหารไม่ให้จมน้ำ และมีอีกหลายตัวระดับน้ำท่วมถึงจมูก จึงพากันเกาะกลุ่ม และเกาะฝาผนังเพื่อส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากหมูเกิดความตื่นกลัวและไม่มีอุปกรณ์ในการขนย้ายหมูที่มีมากกว่า 60 ตัว ประกอบกับเป็นหมูที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 40-80 กิโลกรัม ทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และหมูขุน ส่วนบริเวณบ้านถูกน้ำล้อมรอบสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้ถึงย้ายออกจากคอกได้ หมูก็ไม่มีที่อยู่อาศัย
เจ้าของบ้านคือ นางยุพิน สุเหร็น อายุ 66 ปี จึงได้แต่ทำใจและปล่อยให้หมูถูกน้ำท่วมไปจนกว่าระดับน้ำจะลดลง แต่หากน้ำเพิ่มสูงขึ้นก็คงต้องปล่อยให้หมูจมน้ำตายไปในที่สุด เช่นเดียวกับไก่ไข่ที่เลี้ยงไว้ในคอกกว่า 30 ตัว ตอนนี้จมน้ำตายไปแล้วกว่า 20 ตัว โดยคอกไก่มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และครั้งนี้นับเป็นน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี
นางยุพิน สุเหร็น อายุ 66 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ได้แต่ทำใจและปล่อยให้หมูถูกน้ำท่วมไปจนกว่าระดับน้ำจะลดลง แต่หากน้ำเพิ่มสูงขึ้นก็คงต้องปล่อยให้หมูจมน้ำตายไปในที่สุด น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ไก่ของตนตายไปแล้วกว่า 20 ตัว หมูกว่า 60 ตัวจมอยู่ในน้ำและบางตัวก็ว่ายน้ำลอยหายไป
นอกจากนี้ ยังมีวัสดุที่จะใช้ทำคอกหมู เช่น ทราย 1 คันรถและปูนซีเมนต์ 5 กระสอบจมหายไปกับสายน้ำ ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ตนไม่ทันตั้งตัว เพราะตอนออกไปทำธุระนอกบ้านตอนเช้ายังไม่มีน้ำ แต่พอกลับมาก็พบว่าน้ำท่วมบ้านแล้ว ซึ่งครั้งนี้นับเป็นน้ำท่วมหนักสุดในรอบหลายปี
ส่วนถนนสายห้วยเหรียง-ควนสระแก้ว หมู่ที่ 3 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 20-30 เซนติเมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ทำให้ต้องยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถกระบะ เพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งถนน บางคันขับลุยน้ำจนชิ้นส่วนของรถหลุดออกจากตัวรถก็มี
สำหรับ จ.ตรัง มีน้ำท่วมรวม 7 อำเภอ ได้แก่อ.เมือง,อ.สิเกา,อ.ห้วยยอด, อ.ย่านตาขาว, อ.ปะเหลียน, อ.วังวิเศษ และอ.กันตัง รวมกว่า 400 หลังคาเรือน โดยมี 5 อำเภอระดับน้ำลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากฝนหยุดตกตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้(1 ก.ค)
ยกเว้นที่ 2 อำเภอคือที่ตำบลนาโต๊ะหมิงและตำบลบางรัก อ.เมือง กับตำบลเขาวิเศษ อ.วังวิเศษ หลายหมู่บ้านยังมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากเป็นที่ราบลุ่ม อยู่ติดกับแม่น้ำตรังและเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเริ่มแจ่มใส และหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดระดับน้ำจะลดลงภายใน 1-2 วันนี้
เอกชนเรียกร้อง 188 ส.ส.ไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย – ขอส.ว.มองประโยชน์คนส่วนใหญ่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4058784
เอกชนเรียกร้อง 188 ส.ส.ไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย – ขอส.ว.มองประโยชน์คนส่วนใหญ่
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นทางการเมือง ระบุว่า
“จากใจประชาชนคนหนึ่ง
นาทีนี้ !
อนาคตของประเทศ และชะตากรรมของประชาชน กำลังอยู่ในมือของพวกท่าน…
1) 500 ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยได้โปรด มองอนาคตของประเทศ มากกว่า ประโยชน์ส่วนตัว
ผมมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่คงอยากเห็น
1.1 กลุ่ม 312 ท่าน
ควรยึดมติพรรค ตามกรอบ MOU 8 พรรค และไม่ทำให้ กว่า 25 ล้านเสียง ของประชาชน(จาก 14 พค.66 ) ต้องสูญเปล่า !
1.2 กลุ่ม 188 ท่าน
ที่ได้โปรดมองอนาคตความเป็นประชาธิปไตย ด้วยการไม่ฝืนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้พรรคการเมืองของท่านอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี ของประเทศในระยะยาว
2) 250 ส.ว. ผู้ทรงเกียรติได้โปรดใช้วิจารณญาณและเป็นตัวของตัวเองในการโหวตเลือกผู้นำประเทศ ( ที่มีตัวเลือกมากกว่า 1 ท่าน) ด้วยวุฒิภาวะและมองประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
ท้ายนี้ ผมขอส่งแรงใจ และความปรารถนาดี ในนามประชาชนคนหนึ่ง สู่ 750 ท่านผู้ทรงเกียรติ และเป็นผู้ที่จะกำหนดอนาคตของประเทศจากนี้ไป
และขอภาวนาว่า ประเทศไทยของเราจะมีอนาคตที่ดีขึ้น
ด้วยการได้ผู้นำประเทศ และจัดตั้งรัฐบาล ด้วยทีมงานที่มีความรู้ มีความสามารถ มีคุณธรรม และมีความทุ่มเท แก้ไขปัญหา เพื่อให้เราได้ผ่านพ้นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และประชาชนจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีความหวังที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ประเทศไทยของเราจะได้ไม่กลับมาวนเวียนในวงจรเดิมๆ ที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สร้างความเกลียดชังกันและกัน ผูกขาดความรักชาติ ไม่ดึงฟ้าต่ำ ตลอดจนสร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมแบบในอดีตที่ผ่านมา
ขอบคุณครับ”
https://www.facebook.com/isares.rattanadilok/posts/pfbid0WNkFVXShGVv1ZGMoJ8ARuu3dJnW25og4MT1EZk3QZXtULHbbhWo91xV2q6Q1qUTsl
“พิธา” อุบหารือประธานสภาฯ แต่คุยปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_576882/
“พิธา” เข้าพรรคแล้ว รับเรื่องร้องเรียนชาวบ้านถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย อุบวันนี้หารือประธานสภาฯ แต่คุยปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางเข้ารวมประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่ ท่ามกลางกลุ่มด้อมส้มที่จำทะเบียนรถของนายพิธาได้ ก็พร้อมใจตะโกนให้กำลังใจนายพิธาว่า “พิธาสู้ๆ พิธานายกรัฐมนตรีคนที่ 30” และทันทีที่ประตูรถนายพิธาเปิด สื่อมวลชนกรูกันเข้าไป เพื่อสัมภาษณ์ แต่นายพิธาฝ่าวงล้อมสื่อ เดินไปที่บริเวณป้อมรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้า ซึ่งมีประชาชน 4 คน นั่งถือป้ายชูอยู่ มาร้องเรียนว่า ถูกตำรวจทำร้าย จนร่างกายพิการ และถูกไล่ที่ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งนายพิธาได้รับเรื่องร้องเรียน และซักถามรายละเอียดกว่า 10 นาที
ทั้งนี้ ในระหว่างการเดินเข้าประชุม นายพิธา ปฏิเสธ ตอบเรื่องประธานสภาฯ ที่จะมีการเจรจากับพรรคเพื่อไทยว่า จะมีการเจรจาใหม่ในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นายพิธาตอบเพียงว่า ขอขึ้นไปหารือกับ 8 พรรคร่วมก่อน และการประชุมในวันนี้จะเน้นหารือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ปัญหาเรื่องราคาน้ำมัน ปัญหาค่าไฟ ปัญหาเอสเอ็มอี และขอโฟกัสปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนก่อนเรื่องการเมือง