เท้ง ไม่หวั่น ‘ทักษิณ’ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง นายกอบจ.อุบลฯ มองเป็นสีสัน ทำสนามท้องถิ่นคึกคัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4931504

เท้ง ไม่ห่วง ‘ทักษิณ’ ช่วยผู้สมัคร นายก อบจ.อุบลฯ หาเสียง บอกไม่ต้องรับมือ ถือเป็นสีสัน ทำสนามท้องถิ่นคึกคัก ยันโจทย์ที่สำคัญกว่าของพรรคคือ รณรงค์ทางความคิด
 
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน  (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกฯ อบจ.) ใช้โลโก้คล้ายพรรคในการหาเสียง ว่า พรรค ปชน.ได้สื่อสารไปค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเราส่งกี่สนาม การเปิดตัว 12 จังหวัดเพิ่มเติมที่ผ่านมา รวมถึง 4-5 จังหวัดที่อาจจะมีการประกาศในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น จังหวัดอื่นที่มีสงสัยว่าเป็นตัวแทนจากพรรค ปชน.หรือไม่ ตนอยากให้ฟังการสื่อสารจากทางพรรค
 
เมื่อถามว่า สนาม อบจ. สามารถนำไปเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งใหญ่ได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ดูจากประวัติที่ผ่านมา การเลือกตั้งท้องถิ่นต่างจากการเลือกตั้งระดับประเทศอยู่แล้ว พรรค ปชน.ยืนยันว่าทุกสนามที่เราส่งเป็นโอกาสที่ประชาชนจะใช้ในการเปลี่ยนแปลงได้ โจทย์ที่สำคัญกว่าของพรรค ปชน.คือการรณรงค์ทางความคิด ทุกสนามที่เราลงสมัครเป็นโอกาสที่เราได้สื่อสารนโยบายให้กับประชาชน และผลลัพธ์ที่ผ่านมาจากอุดรธานีหรือหลายจังหวัด เราก็เห็นว่าสัดส่วนคะแนนของพรรค ปชน.ต่อจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
 
เมื่อถามว่า วันที่ 11 ธันวาคมนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายกอบจ.อุบลราชธานีหาเสียง พรรค ปชน.จะต้องแก้เกมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นสีสัน เป็นสิ่งที่ดีที่มีคนลงมาช่วยหาเสียง ทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจในการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรต้องรับมือเป็นพิเศษ เป็นสิ่งที่ทำให้สนามการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความคึกคัก
 
เมื่อถามว่า คะแนนเสียงของนายทักษิณจะเรียกกระแสได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าผลคะแนนเสียงจะออกมาเป็นอย่างไร จนกว่าจะถึงวันเข้าคูหา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่กระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันให้เยอะ
 

---

 
"เท้ง" สยบดรามาน้ำท่วมใต้ ชี้นายกฯ ไม่ต้องลงพื้นที่ แนะสิ่งสำคัญคือสั่งการเป็นระบบ
https://ch3plus.com/news/political/morning/426716

2 ธ.ค. 2567 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาการให้สัมภาษณ์ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงน้ำท่วมภาคใต้ ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ ตนคิดว่าคือการเรื่องการบริหารสถานการณ์ ถ้าดูจากการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนจากสำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ก็พบว่าอีกประมาณ 2-3 วันนี้ ฝนอาจจะกลับมาตกหนักด้วยซ้ำ วันนี้มีปริมาณฝนที่ลดลงบางส่วน ถนนหนทางในหลายทีเริ่มเปิด เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญคือการส่งทรัพยากร อุปกรณ์ ชูชีพ ข้าวสารอาหารแห้งเข้าไปยังชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
"ตอนที่ผมไปลงพื้นที่มา ยังเจอว่ามีพ่อเฒ่าแม่แก่หลายคนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องใช้เครื่องพยุงชีพในบ้านเรือน ก็ได้รับผลกระทบสูงหลายบ้าน ถูกตัดไฟ เราก็เคยเห็นข่าวกรณีที่ถูกตัดไฟแล้ว และผู้ป่วยได้รับผลกระทบ สิ่งที่สำคัญ ณ ตอนนี้ คือการช่วยเหลือคนที่มีความเปราะบางออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด ช่วงจังหวะนี้เป็นช่วงที่ถนนเริ่มเปิด เราสามารถดำเนินการได้ และรัฐบาลเองมีข้อมูลครบ ควรจะใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ในการบริหารสถานการณ์ได้อย่างดียิ่งขึ้น" นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ช้าไปหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าท่านคงมีภารกิจ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการสั่งงานอย่างเป็นระบบ นายกรัฐมนตรีอาจจะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทุกที่ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือมีตัวแทนที่เข้าไปบริหารจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"จากข้อมูลที่ผมได้รับมาล่าสุด อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น เป็นจังหวะที่น้ำทะเลหนุนสูงด้วย เพราะฉะนั้น จะมีความเสี่ยงมากขึ้นที่ทำให้น้ำไม่สามารถระบายออกสู่ทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ช่วงจังหวะนี้ รัฐบาลส่งเครื่องไม้เครื่องมือได้ อย่าทำให้เกิดเหตุซ้ำรอย ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะกลับมาเลวร้ายเหมือนเดิม และถ้าไม่มีการรับมือ เตรียมพร้อมให้ดียิ่งขึ้น ก็จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบโดยขาดการช่วยเหลือ" นายณัฐพงษ์ กล่าว

---

  
ปะกาฮารังปีนี้หนัก หมู่บ้านจมบาดาล ปัตตานีสังเวยแล้ว7ราย
https://siamrath.co.th/n/584555

ปะกาฮารังปีนี้หนัก หมู่บ้านจมบาดาล ปัตตานีสังเวยแล้ว7ราย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 2 ธ.ค. 2567 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังคงเป็นพื้นที่สีแดง หลายพื้นที่ยังมีท่วมสูง แม้ว่าในช่วงกลางดึกน้ำลดลงไปบ้างแล้ว ประมาน20 เปอร์เซ็น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เขือนบางลางได้มีการปล่อยน้ำ ใน 2 ช่วงเวลา คือ 01.00 น. 12 ล้าน ลบ.ม และ เวลา12.00 น. 14ล้าน ลบ.ม และจะปล่อยอีกครั้ง วันที่ 2 ธ.ค. 16 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากระดับน้ำในเขือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกรงว่าเขือนจะได้รับผลกระทบต่อความมั่นคงของเขือน ทำให้จังหวัดปัตตานีกำชับไปยังประชาชนให้เฝ้าระวังน้ำอย่างใกล้ชิด
 
ขณะที่ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่แรกๆที่ถูกน้ำท่วมของอำเภอเมือง เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ ติดกับริมแม่น้ำ ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านมีน้ำท่วมสูง 1 เมตรครึ่ง ส่วนภายในหมู่บ้าน 2-3เมตร บางหลังอพยพไปนอนบ้านญาติที่มีชั้น2 ทำให้ทางเข้าหมู่บ้านกลายเป็นท่าเทียบเรือขนาดเล็ก มีเรือของชาวบ้านที่เข้าออกเป็นจำนวนมากจอดนิ่งรอรับส่งคนและเสบียง โดยส่วนใหญ่จะออกไปทำงาน และออกมาซื้อเสบียง แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มีเรือใช้ ทำให้ผู้นำชุมชน ต.ปะกาฮารังจึงต้องจัดหาเรือดูแลประชาชน ทำให้ขณะนี้ขาดแคลนน้ำมันเป็นอย่างมาก เพราะต้องใช้จ่ายน้ำมันดูแลชาวบ้าน 2000 บาทต่อวัน ในการซื้อน้ำมันแจกจ่าย ซึ่งเรือถือว่าเป็นกระดูกสำคัญในการขนสะเสบียงและขนคนเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ทางผู้ขับเรือต้องควักเงินเองจนเกลี้ยง จึงออกมาวอนให้รัฐเข้ามาดูแลเรื่องนี้ด้วย
 
โรงเรียนบ้านปะกาฮารัง ก็เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนของที่นี่น้ำได้เข้าท่วมภายในโรงเรียน ทั้งลานหน้าเสาธง ภายใยห้องเรียนชั้นล้าง ส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆและหนังสื่อได้รับความเสียหาย ซึ่งทางโรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอนจนกว่าระดับน้ำจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
 
อย่างไรก็ตามขณะนี้มีมีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย 12 อำเภอ 647  หมู่บ้าน 46 ชุมชน 147,002 ครัวเรือน ราษฎรได้รับผลกระทบ 417,351 คน เสียชีวิต 7 ราย  และมีสัตว์จำนวนสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 362,203 ตัว