ปธ.หอการค้า” คาด ตั้งรบ.ใหม่ไม่ทัน ส.ค-ก.ย.ชี้ยาวยิ่งกระทบศก.-ลงทุน ล่าสุดนักลงทุนจีนชะลอเข้าไทยแล้ว
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตร TEPCIAN รุ่น 3 โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) ถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาล ว่าการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายคอยเฝ้าดูอยู่ ไม่ใช่เฉพาะคนไทย เพราะคนต่างชาติก็เช่นเดียวกัน ขณะนี้หอการค้าในต่างประเทศและสถานทูตต่างๆ ที่ทางหอการค้าที่ได้เจรจากัน ต่างถามไถ่ถึงประเด็นการเมืองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหอการค้าตอบว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายที่มีอยู่แล้ว
สำคัญที่สุดคืออยากเห็นการจัดรัฐบาลให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากล่าช้าจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และการลงทุนชะงักด้วย ซึ่งตอนนี้ยังรอความชัดเจนอยู่ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากๆ สำหรับประเทศไทย” นายสนั่นกล่าว
นายสนั่นกล่าวว่า ส่วนกำหนดการจัดตั้งรัฐบาลจะจัดตั้งได้ทันตามไทม์ไลน์ในเดือนสิงหาคมนั้น เชื่อว่าจะไม่ทัน แม้ว่าหลายฝ่ายจะพยายามอยู่ และจะทันเดือนกันยายนหรือไม่ ตรงนี้ก็ยังสงสัยอยู่เช่นกัน
ในวันที่คุณพิธาเดินทางเข้ามาพบกับหอการค้าไทยก็ได้ทำไทม์ไลน์ไว้ในเดือนกันยายน แล้วก็หวังว่าในเดือนกันยายนถ้าตั้งได้ก็จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนในชาติทั้งประเทศไทยของเราจริงๆ” นายสนั่นกล่าว
นายสนั่นกล่าวว่า ในส่วนประเด็นหุ้นไอทีวีนั้น หลังจากที่ได้คุยกับนายพิธาแล้วก็ได้รับการยืนยันว่า ถ้าเห็นประเด็นแล้วสามารถที่จะตอบข้อซักถาม หรือข้อสงสัยที่อยากทราบได้ มองว่าเขาสามารถตอบคำถามได้ทุกคำถาม ซึ่งก็ต้องคอยดู เพราะส่วนตัวตอนนี้จะตอบคำถามแทนใครคงไม่ได้เพราะเร็วเกินไป
นายสนั่นกล่าวว่า สำหรับการลงทุนระหว่างประเทศไทย-จีน ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จีนเข้าลงทุนในไทยถือว่าเป็นอันดับที่ 6 ในประเทศอาเซียนรวม 10 ประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในไทย แต่เมื่อปี 2565 ปรากฏว่าทางหอการค้าและสถานทูตจีนมีการทำเรื่องการเซอร์เวย์อุปสรรค ปัญหา และสามารถสร้างโอกาสอย่างไรบ้าง โดยที่หอการค้าได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำบทวิจัย และทางสถานทูตจีนได้มอบให้มหาวิทยาลัยทางยูนนาน ได้ทำผลการศึกษา ปรากฏว่าปี 2566 มีนักลงทุนจากจีนมาขอวิธีการลงทุนกับทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นอันดับแรก ซึ่งแซงทั้งประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐ
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จากปัญหาการเมืองของไทยส่งผลให้การลงทุนของจีนชะลอตัวลง เพราะกำลังติดตามว่าการฟอร์มรัฐบาลจะจัดทำได้เมื่อไหร่ อีกทั้งนโยบาย หรือแนวทางการบริหารจะเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากๆ อยากจะให้มีการจัดตั้งรัฐบาลไทยได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายสนั่นกล่าว
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่ทางประเทศจีนให้ความสนใจเข้าลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งถือเป็นการลงทุนใหญ่ และยังมีกลุ่มเทคโนโลยี และมีความสนใจเข้ามาตั้งนิคมคู่แฝดกับประเทศไทยด้วย
นายสนั่นกล่าวว่า นอกจากนี้ เรื่องการลงทุนระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบียมีความน่าสนใจมาก ซึ่งแน่นอนฝั่งของประเทศซาอุฯ มีนโยบายปลูกต้นไม้ 10,000 ล้านต้น ตอนนี้ของไทยได้ส่งออกต้นหูกระจงไป 200,000 กว่าต้นแล้ว ซึ่งยังคงมีความต้องการอีกเป็นล้านต้นจากไทย ขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนไทยอยากไปลงทุนที่ซาอุฯ และซาอุฯก็อยากมาลงทุนในไทยเช่นกัน
อีกทั้งจะเห็นความชัดเจนว่ามีนักท่องเที่ยวซาอุฯเดินทางเข้าไทยปี 2565 จำนวน 97,000 คน ส่วนปี 2566 คาดว่าจะเข้ามาเพิ่มเป็น 200,000 คน ซึ่งเป็นประโยชน์มาก รวมถึงอีกประการหนึ่งประชากรในซาอุฯมี 35 ล้านคน สัดส่วน 65% อายุเฉลี่ยแล้ว 30 ขึ้นไป มีความต้องการโปรโมตเรื่องสตาร์ตอัพกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่
“ได้มีการประสานงาน โดยการให้ผู้ประกอบการไทยมีความเชื่อมโยงกับซาอุฯ ทำให้เกิดการร่วมทุนกัน ส่งผลประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย ภายใต้การดำเนินงานของหอการค้าไทย” นายสนั่นกล่าว
นายสนั่นกล่าวว่า สำหรับงานเปิดตัวหลักสูตร TEPCIAN รุ่น 3 โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) เป็นหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านองค์ความรู้และความร่วมมือทางธุรกิจจีน ที่นำเอาความสุดยอดขั้นเซียนของแต่ละองค์กรมาบูรณาการร่วมกันจนกลายเป็นหลักสูตรที่เชื่อมเครือข่ายธุรกิจสานสัมพันธ์ไทย-จีน ให้เกิดความเข้าใจอันดี และมีการต่อยอดทางธุรกิจร่วมกัน
“หอการค้าไทยมีมุมมองว่าเศรษฐกิจจีนมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ซึ่งจีนยังเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยคือเศรษฐกิจภายในของจีนยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนที่เป็นสิ่งสำคัญจะทำให้ประเทศไทยเติบโตได้อีกมากในอนาคต” นายสนั่นกล่าว
https://www.matichon.co.th/economy/news_4026735
หอการค้าไทยประเมินรัฐบาลใหม่อาจตั้งไม่ทันในเดือน ส.ค.นี้ หวั่นฉุดการค้า-ลงทุน ตปท.
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ว่า นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ต่างติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างใกล้ชิด โดยมองว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายอยู่แล้ว ในส่วนของภาคเอกชนอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จโดยเร็ว หากล่าช้าจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ เบื้องต้นประเมินว่ารัฐบาลใหม่อาจจัดตั้งไม่ทันในช่วงเดือนส.ค.นี้ และอาจจะลากยาวไปถึงเดือนก.ย.66 ซึ่งจะต้องติดตามต่อไป ส่วนกรณีหุ้น ITV มองว่า นายพิธา มีข้อมูลครบถ้วน สามารถตอบได้ทุกข้อซักถามอยู่แล้ว
โดยในปีนี้มีนักลงทุนจากจีนขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มากที่สุด แซงหน้าญี่ปุ่นและอเมริกา แต่ขณะเดียวกันนักลงทุนจีนยังคงติดตามการจัดตั้งรัฐบาลในไทย รวมทั้งรอดูท่าทีการบริหารและการดำเนินนโยบายต่างๆว่า จะกระทบต่อการลงทุนในระยะต่อไปอย่างไร จึงควรเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
https://siamrath.co.th/n/454290
..บรรยากาศไม่ค่อยจะดี
นายกฯทิพย์ก็เอาแต่เดินสายโชว์ตัว กลัวจะไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดดด เรียกพ่อส้ม!
เอกชนยังไม่แน่ใจ ประชาชนยิ่งหวั่นใจ
เศรษฐกิจกำลังจะดี แต่พอมีรัฐบาลทิพย์เริ่มจะมีปัญหาอีกแล้ว
น่าเบื่อจริงๆค่ะ
💙มาลาริน💙แย่จริง!..ปธ.หอการค้า” คาด ตั้งรบ.ใหม่ไม่ทัน ส.ค-ก.ย.ชี้ยาวยิ่งกระทบศก.-ลงทุน ล่าสุดนักลงทุนจีนชลอเข้าไทยแล้ว
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตร TEPCIAN รุ่น 3 โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) ถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาล ว่าการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายคอยเฝ้าดูอยู่ ไม่ใช่เฉพาะคนไทย เพราะคนต่างชาติก็เช่นเดียวกัน ขณะนี้หอการค้าในต่างประเทศและสถานทูตต่างๆ ที่ทางหอการค้าที่ได้เจรจากัน ต่างถามไถ่ถึงประเด็นการเมืองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหอการค้าตอบว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายที่มีอยู่แล้ว
สำคัญที่สุดคืออยากเห็นการจัดรัฐบาลให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากล่าช้าจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และการลงทุนชะงักด้วย ซึ่งตอนนี้ยังรอความชัดเจนอยู่ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากๆ สำหรับประเทศไทย” นายสนั่นกล่าว
นายสนั่นกล่าวว่า ส่วนกำหนดการจัดตั้งรัฐบาลจะจัดตั้งได้ทันตามไทม์ไลน์ในเดือนสิงหาคมนั้น เชื่อว่าจะไม่ทัน แม้ว่าหลายฝ่ายจะพยายามอยู่ และจะทันเดือนกันยายนหรือไม่ ตรงนี้ก็ยังสงสัยอยู่เช่นกัน
ในวันที่คุณพิธาเดินทางเข้ามาพบกับหอการค้าไทยก็ได้ทำไทม์ไลน์ไว้ในเดือนกันยายน แล้วก็หวังว่าในเดือนกันยายนถ้าตั้งได้ก็จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนในชาติทั้งประเทศไทยของเราจริงๆ” นายสนั่นกล่าว
นายสนั่นกล่าวว่า ในส่วนประเด็นหุ้นไอทีวีนั้น หลังจากที่ได้คุยกับนายพิธาแล้วก็ได้รับการยืนยันว่า ถ้าเห็นประเด็นแล้วสามารถที่จะตอบข้อซักถาม หรือข้อสงสัยที่อยากทราบได้ มองว่าเขาสามารถตอบคำถามได้ทุกคำถาม ซึ่งก็ต้องคอยดู เพราะส่วนตัวตอนนี้จะตอบคำถามแทนใครคงไม่ได้เพราะเร็วเกินไป
นายสนั่นกล่าวว่า สำหรับการลงทุนระหว่างประเทศไทย-จีน ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จีนเข้าลงทุนในไทยถือว่าเป็นอันดับที่ 6 ในประเทศอาเซียนรวม 10 ประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในไทย แต่เมื่อปี 2565 ปรากฏว่าทางหอการค้าและสถานทูตจีนมีการทำเรื่องการเซอร์เวย์อุปสรรค ปัญหา และสามารถสร้างโอกาสอย่างไรบ้าง โดยที่หอการค้าได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำบทวิจัย และทางสถานทูตจีนได้มอบให้มหาวิทยาลัยทางยูนนาน ได้ทำผลการศึกษา ปรากฏว่าปี 2566 มีนักลงทุนจากจีนมาขอวิธีการลงทุนกับทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เป็นอันดับแรก ซึ่งแซงทั้งประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐ
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จากปัญหาการเมืองของไทยส่งผลให้การลงทุนของจีนชะลอตัวลง เพราะกำลังติดตามว่าการฟอร์มรัฐบาลจะจัดทำได้เมื่อไหร่ อีกทั้งนโยบาย หรือแนวทางการบริหารจะเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากๆ อยากจะให้มีการจัดตั้งรัฐบาลไทยได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายสนั่นกล่าว
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่ทางประเทศจีนให้ความสนใจเข้าลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งถือเป็นการลงทุนใหญ่ และยังมีกลุ่มเทคโนโลยี และมีความสนใจเข้ามาตั้งนิคมคู่แฝดกับประเทศไทยด้วย
นายสนั่นกล่าวว่า นอกจากนี้ เรื่องการลงทุนระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบียมีความน่าสนใจมาก ซึ่งแน่นอนฝั่งของประเทศซาอุฯ มีนโยบายปลูกต้นไม้ 10,000 ล้านต้น ตอนนี้ของไทยได้ส่งออกต้นหูกระจงไป 200,000 กว่าต้นแล้ว ซึ่งยังคงมีความต้องการอีกเป็นล้านต้นจากไทย ขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนไทยอยากไปลงทุนที่ซาอุฯ และซาอุฯก็อยากมาลงทุนในไทยเช่นกัน
อีกทั้งจะเห็นความชัดเจนว่ามีนักท่องเที่ยวซาอุฯเดินทางเข้าไทยปี 2565 จำนวน 97,000 คน ส่วนปี 2566 คาดว่าจะเข้ามาเพิ่มเป็น 200,000 คน ซึ่งเป็นประโยชน์มาก รวมถึงอีกประการหนึ่งประชากรในซาอุฯมี 35 ล้านคน สัดส่วน 65% อายุเฉลี่ยแล้ว 30 ขึ้นไป มีความต้องการโปรโมตเรื่องสตาร์ตอัพกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่
“ได้มีการประสานงาน โดยการให้ผู้ประกอบการไทยมีความเชื่อมโยงกับซาอุฯ ทำให้เกิดการร่วมทุนกัน ส่งผลประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย ภายใต้การดำเนินงานของหอการค้าไทย” นายสนั่นกล่าว
นายสนั่นกล่าวว่า สำหรับงานเปิดตัวหลักสูตร TEPCIAN รุ่น 3 โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) เป็นหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านองค์ความรู้และความร่วมมือทางธุรกิจจีน ที่นำเอาความสุดยอดขั้นเซียนของแต่ละองค์กรมาบูรณาการร่วมกันจนกลายเป็นหลักสูตรที่เชื่อมเครือข่ายธุรกิจสานสัมพันธ์ไทย-จีน ให้เกิดความเข้าใจอันดี และมีการต่อยอดทางธุรกิจร่วมกัน
“หอการค้าไทยมีมุมมองว่าเศรษฐกิจจีนมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ซึ่งจีนยังเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยคือเศรษฐกิจภายในของจีนยังมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนที่เป็นสิ่งสำคัญจะทำให้ประเทศไทยเติบโตได้อีกมากในอนาคต” นายสนั่นกล่าว
https://www.matichon.co.th/economy/news_4026735
หอการค้าไทยประเมินรัฐบาลใหม่อาจตั้งไม่ทันในเดือน ส.ค.นี้ หวั่นฉุดการค้า-ลงทุน ตปท.
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยขณะนี้ว่า นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ต่างติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างใกล้ชิด โดยมองว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายอยู่แล้ว ในส่วนของภาคเอกชนอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จโดยเร็ว หากล่าช้าจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ เบื้องต้นประเมินว่ารัฐบาลใหม่อาจจัดตั้งไม่ทันในช่วงเดือนส.ค.นี้ และอาจจะลากยาวไปถึงเดือนก.ย.66 ซึ่งจะต้องติดตามต่อไป ส่วนกรณีหุ้น ITV มองว่า นายพิธา มีข้อมูลครบถ้วน สามารถตอบได้ทุกข้อซักถามอยู่แล้ว
โดยในปีนี้มีนักลงทุนจากจีนขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มากที่สุด แซงหน้าญี่ปุ่นและอเมริกา แต่ขณะเดียวกันนักลงทุนจีนยังคงติดตามการจัดตั้งรัฐบาลในไทย รวมทั้งรอดูท่าทีการบริหารและการดำเนินนโยบายต่างๆว่า จะกระทบต่อการลงทุนในระยะต่อไปอย่างไร จึงควรเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
https://siamrath.co.th/n/454290
..บรรยากาศไม่ค่อยจะดี
นายกฯทิพย์ก็เอาแต่เดินสายโชว์ตัว กลัวจะไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดดด เรียกพ่อส้ม!
เอกชนยังไม่แน่ใจ ประชาชนยิ่งหวั่นใจ
เศรษฐกิจกำลังจะดี แต่พอมีรัฐบาลทิพย์เริ่มจะมีปัญหาอีกแล้ว
น่าเบื่อจริงๆค่ะ