ดูเหมือนจะมีความพยายามดึงผู้คนให้หลงประเด็นออกทะเล ไปตีความกันในเรื่องปัญหาเรื่อง คลิป ซึ่งเอาจริงมันไม่มีอะไรจะไปเปลี่ยนข้อเท็จจริงทางกฎหมายที่ปรากฏได้
การตีความเรื่อง itv ยังเป็นสื่ออยู่หรือไม่ ไม่มีอะไรซับซ้อนที่จะต้องไปตีความในเรื่องเจตนาตามลักษณะพฤติกรรม เพราะข้อมูลการ “เป็นสื่อ” หรือ “ไม่เป็นสื่อ” ศาลท่านจะพินิจในสาระสำคัญที่ปรากฏตามหนังสือบริคณห์ หรือพูดง่าย ๆ คือ ถ้าไม่เป็น ก็ต้องแจ้งจดยกเลิก แต่ตราบเท่าที่ยังไม่ยอมแจ้งยกเลิก ก็คงไมต้องไปดึงเรื่องอื่นมาพิจารณาให้มันวกวน เพราะไม่งั้นเราจะมีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไว้รับจด รับแจ้งสารพันเอาไว้ทำไม?
ตัวอย่าง นาย ก. ตั้งบริษัทแล้วเปิดโรงหนัง วันดีคืนดี มีคนไปร้องว่ามันสกปรก มีเหลือบริ้น ดูไปคันคะเยอกัน ....ก็มีคนไปฟ้องร้องกันขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ศาลท่านก็สั่งให้หยุดกิจการไปก่อนจนกว่าจะสู้กันได้ชัดว่า ตกลงโรงหนังเองมันสกปรกจริงหรือไม่ ?
ปัญหาคือ ตกลงว่า โรงหนัง นาย ก. หลังนี้ มันแค่หยุดดำเนินการ แต่มันไม่ได้เลิกกิจการ เพราะวัตถุประสงค์มันยังโชว์หราในหนังสือจดทะเบียน
ส่วนปัญหาเรื่อง คลิป ถ้ามันตัดต่อ แบบนี้คนนำมาเผยแพร่ ก็มีสิทธิซวย แต่ถ้าไม่ได้ตัดต่อแต่มีการบันทึกการประชุมที่ส่อว่าเป็นเท็จ แบบนี้เป็นปัญหาของ itv แต่มันก็ไมได้ทำให้สาระสำคัญแห่งคดีที่ว่ากันตาม มาตรา 41,42(3) ประกอบ 151 เสียไป เพราะองค์ประกอบมันสมบูรณ์ทุกอย่างอยู่แล้ว
แถมพฤติกรรมที่มีการรีบโอนหุ้นออก เพราะคิดว่าจะเอาหลักกฎหมายแพ่งว่ด้วยมรดก มาหักล้างอีกกฎหมายหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องของคุณสมบัติจำเพาะ ยิ่งมองได้สองประการคือ "วางหมากเดินทางกฎหมายได้อ่อนหัด" กับ "มันก็ต้องลองแหละถ้าไม่ลองก็ไม่รู้"
ใจเย็น ๆ ครับ..... ท้ายสุด ประเด็นจะลงถนนกันหรือไม่ นั่นน่าจะเป็นเรื่องข้ามช็อตที่ลองมาคิดกันดีกว่าว่า จะลงถนนแล้วเดินไปต่อที่ไหน?
อย่าลืมว่า บนถนนไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียวนะครับ คฝ, แถมทหารที่มาพร้อมกฎอัยการศึก นี่เค้าก็ยังไม่ได้เลิกนะครับ!!
.
หุ้น itv อย่าหลงประเด็น!
การตีความเรื่อง itv ยังเป็นสื่ออยู่หรือไม่ ไม่มีอะไรซับซ้อนที่จะต้องไปตีความในเรื่องเจตนาตามลักษณะพฤติกรรม เพราะข้อมูลการ “เป็นสื่อ” หรือ “ไม่เป็นสื่อ” ศาลท่านจะพินิจในสาระสำคัญที่ปรากฏตามหนังสือบริคณห์ หรือพูดง่าย ๆ คือ ถ้าไม่เป็น ก็ต้องแจ้งจดยกเลิก แต่ตราบเท่าที่ยังไม่ยอมแจ้งยกเลิก ก็คงไมต้องไปดึงเรื่องอื่นมาพิจารณาให้มันวกวน เพราะไม่งั้นเราจะมีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไว้รับจด รับแจ้งสารพันเอาไว้ทำไม?
ตัวอย่าง นาย ก. ตั้งบริษัทแล้วเปิดโรงหนัง วันดีคืนดี มีคนไปร้องว่ามันสกปรก มีเหลือบริ้น ดูไปคันคะเยอกัน ....ก็มีคนไปฟ้องร้องกันขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ศาลท่านก็สั่งให้หยุดกิจการไปก่อนจนกว่าจะสู้กันได้ชัดว่า ตกลงโรงหนังเองมันสกปรกจริงหรือไม่ ?
ปัญหาคือ ตกลงว่า โรงหนัง นาย ก. หลังนี้ มันแค่หยุดดำเนินการ แต่มันไม่ได้เลิกกิจการ เพราะวัตถุประสงค์มันยังโชว์หราในหนังสือจดทะเบียน
ส่วนปัญหาเรื่อง คลิป ถ้ามันตัดต่อ แบบนี้คนนำมาเผยแพร่ ก็มีสิทธิซวย แต่ถ้าไม่ได้ตัดต่อแต่มีการบันทึกการประชุมที่ส่อว่าเป็นเท็จ แบบนี้เป็นปัญหาของ itv แต่มันก็ไมได้ทำให้สาระสำคัญแห่งคดีที่ว่ากันตาม มาตรา 41,42(3) ประกอบ 151 เสียไป เพราะองค์ประกอบมันสมบูรณ์ทุกอย่างอยู่แล้ว
แถมพฤติกรรมที่มีการรีบโอนหุ้นออก เพราะคิดว่าจะเอาหลักกฎหมายแพ่งว่ด้วยมรดก มาหักล้างอีกกฎหมายหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องของคุณสมบัติจำเพาะ ยิ่งมองได้สองประการคือ "วางหมากเดินทางกฎหมายได้อ่อนหัด" กับ "มันก็ต้องลองแหละถ้าไม่ลองก็ไม่รู้"
ใจเย็น ๆ ครับ..... ท้ายสุด ประเด็นจะลงถนนกันหรือไม่ นั่นน่าจะเป็นเรื่องข้ามช็อตที่ลองมาคิดกันดีกว่าว่า จะลงถนนแล้วเดินไปต่อที่ไหน?
อย่าลืมว่า บนถนนไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียวนะครับ คฝ, แถมทหารที่มาพร้อมกฎอัยการศึก นี่เค้าก็ยังไม่ได้เลิกนะครับ!!
.