กระทือ ที่เกิดเองตามธรรมชาติ ในช่วงหน้าแล้งนั้นลำต้นของเขาจะแห้งและตายลง แต่จะคงไว้เหลือเพียงหัวหรือเหง้าที่ยังอยู่ใต้ดิน เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หรือเป็นช่วงที่ฝนตกชุกๆติดต่อกันหลายวัน เขาก็จะแตกลำต้นขึ้นมาใหม่ค่ะ
นอกจากกระทือที่จะขึ้นตามธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีกระทือที่ชาวบ้านนำมาเพาะปลูกกันไว้ตามบ้าน ซึ่งตลาดใหญ่ในตัวเมืองจังหวัดระยอง ถ้าเราเดินตามร้านแผงผักดู ก็อาจจะได้พบเจอกระทือมาวางขายเหมือนกันค่ะ
.
.
.
.
เมื่อเข้าหน้าฝน เขาจะเริ่มแตกต้นขึ้นมา
ส่วนหน้าตาของลำต้น ถ้าดูเผินๆก็จะคล้ายข่า แต่ถ้าเทียบกันจริงๆ จะมีความต่างกันที่ลักษณะของใบ ความสูงของลำต้น กลิ่น และรสชาติค่ะ
.
.
.
.
ลำต้นของกระทือ เขาจะไม่สูงเหมือนข่านะคะ
เต็มที่ก็จะสูงแค่ประมาณ 1เมตรเท่านั้นเอง
นอกจากเหง้าและลำต้น(ที่ถูกลอกเอาส่วนที่อ่อน)มากินแล้ว ดอกของเขา ก็นำมากินได้อร่อยไม่แพ้กันค่ะ
แต่เมนูที่เราชอบที่สุดจริงๆ คือ... นำมาต้ม (ต้มให้สุก) แล้วกินกับน้ำพริกกะปิค่ะ อร่อยที่สุด
.
.
.
.
สำหรับกลิ่นของกระทือ เขาไม่เหมือนข่านะคะ
นี่คือความแตกต่าง และถ้าเทียบกัน กลิ่นของกระทือจะไม่แรงเท่ากลิ่นของข่า รสชาติเองก็ไม่เผ็ดร้อนเหมือนข่า แต่จะออกหอมอ่อนๆและกินง่ายค่ะ
.
.
.
.
วันนี้ตำน้ำพริกแกงเองเหมือนเดิมค่ะ เป็นน้ำพริกแกงสูตรทางบ้านสามีของเราเอง เวลาที่บ้านเราทำทีนึง จะทำทีละเยอะๆ ทำเสร็จแล้วแบ่งแพคเป็นส่วนๆ (ปริมาณพอดีใช้ทำอาหารในแต่ละครั้ง)แช่ฟรีซไว้ค่ะ
วัตถุดิบสำหรับน้ำพริกแกง ของเราก็จะมี...
พริกแห้ง พริกขี้หนูสวน
กระเทียม หอมแดง กระชาย
พริกไทยเม็ด ตะไคร้ หัวไพล
ข่า ขิงแห้ง เร่ว รากผักชี ดอกผักชีไร่
ผิวมะกรูด ดอกกะเพรา ดอกผักชีฝรั่งค่ะ
⭐ นอกจากวัตดุดิบสดพวกนี้ ก็จะมีกะปิด้วยนะคะ
.
.
.
.
วัตถุดิบชนิดอื่นก็คงจะพอรู้จักและเห็นกันได้ทั่วไปแล้ว เราเลยอยากนำวัตถุดิบบางอย่าง ที่บางพื้นที่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นมาแนะนำให้รู้จักนะคะ
สำหรับ
ขิงแห้ง จริงๆไม่ใช่ขิงที่นำไปตากแห้งนะคะ
เขามีชื่อเรียกว่า
ขิงแห้ง แต่เป็นคนละชนิดกับขิงทั่วไปที่เอามาทำข้าวมันไก่ และไก่ผัดขิงค่ะ
รูปลักษณ์ภายนอก จะดูคล้ายๆขมิ้น แต่เปลือกจะสีขาวคล้ายขิง ถ้าผ่าด้านในออกมา จะเป็นสีขาวหม่นๆออกม่วงนิดๆค่ะ
.
.
.
.
ไพล อันนี้ก็จะมีกลิ่นเฉพาะและหอมแรงค่ะ ดมน้อยๆจะหอม ถ้าดมมากๆก็ทำให้เวียนหัวได้เหมือนกัน และถ้าใส่ในเครื่องแกงเยอะมากเกินไป กลิ่นไพลก็จะกลบของอย่างอื่นจนหมดค่ะ หากผ่าเนื้อด้านในออกมา เขาจะมีเนื้อสีเหลือง
อ้อ... กลิ่นของเขาก็จะแอบคล้ายๆกันกับขิงแห้งนะคะ แต่ขิงแห้งเขาจะไม่แรงเท่าไพลค่ะ
.
.
.
.
เร่ว หากดมดู เราจะได้กลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ เพราะเขาจะหอมซ่าๆ แล้วรู้สึกหอมเย็นๆค่ะ ถ้าลองกัดเคี้ยวชิมสดๆ เขาจะออกซ่าๆหอมๆและมีความหวานที่ปลายลิ้นนิดๆ เป็นกลิ่นที่ไม่คล้ายใครเลย
ในอาหารทางภาคตะวันออก โดยเฉพาะเมนูก๋วยเตี๋ยวเลียงของทางจันทบุรี จะมีเร่วนี่แหละค่ะ เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการทำก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง
.
.
.
.
ดอกผักชีไร่ อันนี้ก็คนละชนิดกับผักชีทั่วไปนะคะ
และสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเทศ ร้านพริกแกงในตัวเมืองระยอง กลิ่นของเขาจะเป็นเอกลักษณ์เช่นกันค่ะ
.
.
.
.
ส่วน
ดอกกะเพรา และ
ดอกผักชีฝรั่ง อันนี้ก็เห็นได้ง่ายทั่วไปเลยค่ะ แต่ขอบอกว่าร้านผัดบางร้านในตัวเมืองรระยอง เขาจะเก็บมาขายกันโดยเฉพาะเลยนะคะ
จะให้ดีมากกว่านี้ ถ้าได้ดอกกะเพราและดอกโหระพาที่แก่ๆออกแห้งสีน้ำตาล เพราะจะหอมมากกว่าแบบสดค่ะ
.
.
.
.
วัตถุดิบเมนูผัดพริกแกงหมูใส่หน่อกระทือ
- เนื้อหมู
- หน่อและต้นกระทือ
- น้ำพริกแกง
- น้ำปลา
- น้ำตาล
- ใบมะกรูดฉีก
⭐ แต่ก็ขอแอบบอกหน่อยค่ะว่า...
ส่วนของหัวของกระทือนั้น ถึงแม้จะไม่เผ็ด ไม่มีกลิ่นแรงเหมือนข่า แต่เขาจะมีรสชาติติดเฝื่อนนิดๆค่ะ ฉะนั้นถ้านำส่วนโคนลำต้นหรือส่วนหัว มาทำเมนูประเภทผัดๆหรือจะใส่เยอะๆในเมนูแกง แนะนำให้หั่นแล้วนำมาขยำล้างกับน้ำเกลือก่อนสัก 3-5นาทีนะคะ
แต่ถ้าเอามาต้มกินเป็นผักแนมน้ำพริกเลย อันนี้ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำเกลือก็ได้ค่ะ สามารถกินได้เลยไม่เฝื่อน แต่ต้องต้มให้สุกแบบ 100%นะคะ จะลวกแบบผักอื่นที่กึ่งสุกกึ่งดิบไม่ได้ ไม่งั้นจะมีความเฝื่อนหลงเหลืออยู่นิดๆค่ะ
.
.
.
.
วิธีทำผัดพริกแกงหมูใส่หน่อกระทือ
ตั้งกระทะใส่น้ำพริกแกงลงไป เปิดไฟอ่อน
ระหว่างนี้หมั่นเติมน้ำเปล่าลงไปทีละนิด เพื่อรวนน้ำพริกแกงให้หอม และป้องกันการไหม้ขมค่ะ
⭐ ถ้าเป็นเมนูประเภทแบบนี้ ทางบ้านสามีเราเขาจะไม่ใช่น้ำมันในการผัดค่ะ แต่จะใช้การผัดด้วยน้ำแทน
.
.
.
.
หากมีกลิ่นหอมแล้ว ทำการใส่เนื้อหมูลงไปผัดค่ะ
.
.
.
.
เมื่อเนื้อหมูเริ่มสุกแล้ว
ใส่กระทือลงไปแล้วผัดต่อได้เลยค่ะ
.
.
.
.
เมื่อกระทือเริ่มสลดลง สามารถปรุงรสชาติด้วยน้ำปลาได้เลย
ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนสักพัก แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปหน่อยนึง จากนั้นเร่งไฟให้แรงขึ้นได้เลยค่ะ เพื่อรอให้กระทือสุกดีค่ะ
.
.
.
.
เมื่อกระทือสุกและน้ำงวดลงแล้ว ทำการชิมอีกครั้ง ถ้ายังไม่ได้รสชาติที่ต้องการ สามารถเพิ่มน้ำปลาลงไป และตัดด้วยน้ำตาลนิดหน่อยเพื่อให้กลมกล่อมได้ค่ะ
จากนั้นใส่ใบมะกรูดฉีก ก็เป็นอันเสร็จ
.
.
.
.
🧡❤️ ทำเสร็จแล้วจะได้ประมาณนี้ค่ะ 🧡❤️
.
.
.
.
.
.
... ผัดพริกแกงหมูใส่หน่อกระทือ วัตถุดิบธรรมชาติหน้าฝน เมนูรสจัดจ้านหอมกลิ่นสมุนไพรมากๆค่ะ 🧡💛💚
นอกจากกระทือที่จะขึ้นตามธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีกระทือที่ชาวบ้านนำมาเพาะปลูกกันไว้ตามบ้าน ซึ่งตลาดใหญ่ในตัวเมืองจังหวัดระยอง ถ้าเราเดินตามร้านแผงผักดู ก็อาจจะได้พบเจอกระทือมาวางขายเหมือนกันค่ะ
แต่เมนูที่เราชอบที่สุดจริงๆ คือ... นำมาต้ม (ต้มให้สุก) แล้วกินกับน้ำพริกกะปิค่ะ อร่อยที่สุด
สำหรับ ขิงแห้ง จริงๆไม่ใช่ขิงที่นำไปตากแห้งนะคะ
เขามีชื่อเรียกว่า ขิงแห้ง แต่เป็นคนละชนิดกับขิงทั่วไปที่เอามาทำข้าวมันไก่ และไก่ผัดขิงค่ะ
รูปลักษณ์ภายนอก จะดูคล้ายๆขมิ้น แต่เปลือกจะสีขาวคล้ายขิง ถ้าผ่าด้านในออกมา จะเป็นสีขาวหม่นๆออกม่วงนิดๆค่ะ
อ้อ... กลิ่นของเขาก็จะแอบคล้ายๆกันกับขิงแห้งนะคะ แต่ขิงแห้งเขาจะไม่แรงเท่าไพลค่ะ
ในอาหารทางภาคตะวันออก โดยเฉพาะเมนูก๋วยเตี๋ยวเลียงของทางจันทบุรี จะมีเร่วนี่แหละค่ะ เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการทำก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง
และสามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเทศ ร้านพริกแกงในตัวเมืองระยอง กลิ่นของเขาจะเป็นเอกลักษณ์เช่นกันค่ะ
จะให้ดีมากกว่านี้ ถ้าได้ดอกกะเพราและดอกโหระพาที่แก่ๆออกแห้งสีน้ำตาล เพราะจะหอมมากกว่าแบบสดค่ะ
ส่วนของหัวของกระทือนั้น ถึงแม้จะไม่เผ็ด ไม่มีกลิ่นแรงเหมือนข่า แต่เขาจะมีรสชาติติดเฝื่อนนิดๆค่ะ ฉะนั้นถ้านำส่วนโคนลำต้นหรือส่วนหัว มาทำเมนูประเภทผัดๆหรือจะใส่เยอะๆในเมนูแกง แนะนำให้หั่นแล้วนำมาขยำล้างกับน้ำเกลือก่อนสัก 3-5นาทีนะคะ
แต่ถ้าเอามาต้มกินเป็นผักแนมน้ำพริกเลย อันนี้ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำเกลือก็ได้ค่ะ สามารถกินได้เลยไม่เฝื่อน แต่ต้องต้มให้สุกแบบ 100%นะคะ จะลวกแบบผักอื่นที่กึ่งสุกกึ่งดิบไม่ได้ ไม่งั้นจะมีความเฝื่อนหลงเหลืออยู่นิดๆค่ะ
⭐ ถ้าเป็นเมนูประเภทแบบนี้ ทางบ้านสามีเราเขาจะไม่ใช่น้ำมันในการผัดค่ะ แต่จะใช้การผัดด้วยน้ำแทน
ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนสักพัก แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปหน่อยนึง จากนั้นเร่งไฟให้แรงขึ้นได้เลยค่ะ เพื่อรอให้กระทือสุกดีค่ะ