มติ 8 ต่อ 1 ศาลรธน.ชี้ รัฐบาลออกพ.ร.ก.เลื่อนใช้กม.อุ้มหายฯ ไม่เป็นไปตามรธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3986367
มติศาลรธน. เสียงข้างมาก ชี้พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้กม.อุ้มหายฯ ไม่เป็นไปตามรธน. ไม่มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ต้น
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุมกรณีพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคหนึ่ง หรือไม่ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 99 คน เข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ตราขึ้นเพื่อขยายกำหนดเวลาการมีผลใช้บังคับของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24 และมาตรา 25 จากเดิมที่ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป คือวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 แก้ไขเป็น ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปโดยอ้างเหตุผลความไม่พร้อมด้านงบประมาณ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ และขั้นตอนการปฏิบัติงานในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องจึงส่งความเห็นดังกล่าวเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 วรรคหนึ่ง
ทั้งนี้ ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ซึ่งมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 173 วรรคสี่ วินิจฉัยว่าพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 กรณีไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรคหนึ่ง และให้พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 ไม่มีผลใช้บังคับมาแต่ต้น คือ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 วรรคสาม
เพิ่มอีกเสียง! ‘ประภาศรี’ สว.ยโสธร ประกาศจุดยืนหนุนโหวต ‘พิธา’ นั่งนายกฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3986539
เพิ่มอีกเสียง! ‘ประภาศรี’ สว.ยโสธร ประกาศจุดยืนหนุนโหวต ‘พิธา’ นั่งนายกฯ
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาง
ประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา ในพื้นจังหวัดยโสธร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
ประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา
ประกาศจุดยืนเคารพมติของประชาชน
เห็นชอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยโพสต์ดังกล่าวมีคนเข้ามาชื่นชมและกราบขอบพระคุณเป็นจำนวนมาก
https://www.facebook.com/psuchantabutr/posts/pfbid02ZTpo9oZyq1yUoqhBBqwtQuiZ26ZxQ1mbZB1aqwbZCaYWXDyC42bgB4VszpM9Enpal
ปธ.หอการค้าฯ หวัง ส.ส.ก้าวไกล พาเชียงใหม่ให้ดีขึ้น และขอตั้งรัฐบาลโดยเร็ว
https://www.thairath.co.th/news/local/localbusiness/2694926
ประธานหอการค้าเชียงใหม่ อยากให้ตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน และเข้ามาแก้ปัญหาปากท้อง และลดต้นทุนผู้ประกอบการท้องถิ่น ขณะที่ ส.ส.ก้าวไกลทั้ง 7 คน คาดว่าคนรุ่นใหม่จะทำให้เชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2566 นาย
จุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา และพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงและจำนวน ส.ส.มากที่สุด และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า ได้ให้ความคาดหวังว่าในตอนนี้ก็คงยังไม่อยากแสดงความคิดเห็นอย่างไรมากนัก หวังอยากจะให้มีการเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความชัดเจนได้แล้ว เราก็ต้องมาดูกันว่าพรรคไหนจะนั่งดูกระทรวงไหนมีนโยบายอย่างไร เพราะตอนนั้นก็คงจะมีความเห็นพร้อมนำเสนอได้มากกว่านี้
แต่ถ้าคาดหวังสิ่งที่รัฐบาลใหม่จะให้กับเชียงใหม่ ก็คงจะโฟกัสเรื่องของ 1.การแก้ไข PM 2.5 ให้ยั่งยืน เพราะตอนนี้ต้องขอบอกว่าช่วงที่ผ่านมารุนแรงมาก มันก็มีแนวโน้มว่าจากนี้ไปก็จะค่อนข้างรุนแรงมากขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและเรื่องสำคัญมากที่คนเชียงใหม่คงอยากจะเห็นนโยบายที่ชัดเจนของพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะเข้ามาดูแลในพื้นที่
ส่วนเรื่องที่ 2 ก็คงจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ จะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดต้นทุน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้กับผู้ประกอบการ หรือแม้กระทั่งเรื่องการสนับสนุน เรื่องแหล่งทุนที่ให้ผู้ประกอบการไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจอย่างเช่นการเข้าถึงพลังงานทางเลือกอย่างเช่นพลังงานโซลาร์เซลล์ หรือการใช้พลังงานทางเลือกอื่นๆ พวกนี้อาจจะต้องได้รับการสนับสนุนเป็นลักษณะของ Soft Loan พิเศษให้ผู้ประกอบการ
"
สำหรับด้านการท่องเที่ยว จริงๆ เชียงใหม่เองเรามีการปักหมุดเรื่องของการท่องเที่ยวในเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ “เวลล์เนส ทัวร์ริสซึ่ม” (Wellness Tourism) ซึ่งเรื่องพวกนี้ทางรัฐเองก็เข้ามาร่วมในการขับเคลื่อนเรื่องพวกนี้ว่าเชียงใหม่เองตอนนี้เราประกาศให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ หรือ Northern Economic Corridor : NEC เพราะฉะนั้นมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่ในระดับพื้นที่อยู่แล้ว และมีการส่งข้อมูลเข้าไปให้ในส่วนกลางอยู่ ก็เชื่อว่าจากนี้ไปภาคการท่องเที่ยวเอง การท่องเที่ยวเดิมๆ ก็คงจะเปลี่ยนรูปแบบไป ซึ่งถ้าเกิดภาครัฐเองมีนโยบายที่มันชัดเจน โดยเฉพาะกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และรวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. มีการเข้ามาร่วมกับภาคเอกชนในการขับเคลื่อนเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ “เวลล์เนส ทัวร์ริสซึ่ม” ว่าเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ หรือประเทศไทยเราไปในอนาคต" ประธานหอการค้ากล่าว
เมื่อถามที่ว่า จ.เชียงใหม่มี ส.ส.จากพรรคก้าวไกลถึง 7 คน จะส่งผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงเมืองเชียงใหม่อย่างไร นายจุลนิตย์ กล่าวว่า ตนก็หวังไว้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดี เพราะเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาดูแลเรื่องการเมืองมากขึ้น ก็จะมีมุมมอง หรือวิสัยทัศน์ที่มันแตกต่างไป ก็จะเป็นโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาก แต่ก็คงจะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลให้มันชัดเจน การวางตัวคนไปดูแลแต่ละกระทรวง และจากนั้นเราก็คงจะเป็นแล้วว่าทิศทางในการขับเคลื่อนว่าจะเป็นอย่างไร ความชัดเจนมันจะมีมากขึ้นอย่างไรในโอกาสต่อไป
JJNY : พ.ร.ก.เลื่อนใช้กม.อุ้มหายฯไม่เป็นไปตามรธน.│สว.ยโสธรโหวต‘พิธา’│หวังก้าวไกล พาเชียงใหม่ดีขึ้น│รัสเซีย“ถล่มเคียฟอีก”
https://www.matichon.co.th/politics/news_3986367
มติศาลรธน. เสียงข้างมาก ชี้พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้กม.อุ้มหายฯ ไม่เป็นไปตามรธน. ไม่มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ต้น
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุมกรณีพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคหนึ่ง หรือไม่ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 99 คน เข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ตราขึ้นเพื่อขยายกำหนดเวลาการมีผลใช้บังคับของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24 และมาตรา 25 จากเดิมที่ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป คือวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 แก้ไขเป็น ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปโดยอ้างเหตุผลความไม่พร้อมด้านงบประมาณ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ และขั้นตอนการปฏิบัติงานในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องจึงส่งความเห็นดังกล่าวเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 วรรคหนึ่ง
ทั้งนี้ ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ซึ่งมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 173 วรรคสี่ วินิจฉัยว่าพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 กรณีไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรคหนึ่ง และให้พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 ไม่มีผลใช้บังคับมาแต่ต้น คือ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 วรรคสาม
เพิ่มอีกเสียง! ‘ประภาศรี’ สว.ยโสธร ประกาศจุดยืนหนุนโหวต ‘พิธา’ นั่งนายกฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3986539
เพิ่มอีกเสียง! ‘ประภาศรี’ สว.ยโสธร ประกาศจุดยืนหนุนโหวต ‘พิธา’ นั่งนายกฯ
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา ในพื้นจังหวัดยโสธร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
ประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา
ประกาศจุดยืนเคารพมติของประชาชน
เห็นชอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยโพสต์ดังกล่าวมีคนเข้ามาชื่นชมและกราบขอบพระคุณเป็นจำนวนมาก
https://www.facebook.com/psuchantabutr/posts/pfbid02ZTpo9oZyq1yUoqhBBqwtQuiZ26ZxQ1mbZB1aqwbZCaYWXDyC42bgB4VszpM9Enpal
ปธ.หอการค้าฯ หวัง ส.ส.ก้าวไกล พาเชียงใหม่ให้ดีขึ้น และขอตั้งรัฐบาลโดยเร็ว
https://www.thairath.co.th/news/local/localbusiness/2694926
ประธานหอการค้าเชียงใหม่ อยากให้ตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน และเข้ามาแก้ปัญหาปากท้อง และลดต้นทุนผู้ประกอบการท้องถิ่น ขณะที่ ส.ส.ก้าวไกลทั้ง 7 คน คาดว่าคนรุ่นใหม่จะทำให้เชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2566 นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา และพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงและจำนวน ส.ส.มากที่สุด และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า ได้ให้ความคาดหวังว่าในตอนนี้ก็คงยังไม่อยากแสดงความคิดเห็นอย่างไรมากนัก หวังอยากจะให้มีการเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความชัดเจนได้แล้ว เราก็ต้องมาดูกันว่าพรรคไหนจะนั่งดูกระทรวงไหนมีนโยบายอย่างไร เพราะตอนนั้นก็คงจะมีความเห็นพร้อมนำเสนอได้มากกว่านี้
แต่ถ้าคาดหวังสิ่งที่รัฐบาลใหม่จะให้กับเชียงใหม่ ก็คงจะโฟกัสเรื่องของ 1.การแก้ไข PM 2.5 ให้ยั่งยืน เพราะตอนนี้ต้องขอบอกว่าช่วงที่ผ่านมารุนแรงมาก มันก็มีแนวโน้มว่าจากนี้ไปก็จะค่อนข้างรุนแรงมากขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและเรื่องสำคัญมากที่คนเชียงใหม่คงอยากจะเห็นนโยบายที่ชัดเจนของพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะเข้ามาดูแลในพื้นที่
ส่วนเรื่องที่ 2 ก็คงจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ จะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดต้นทุน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้กับผู้ประกอบการ หรือแม้กระทั่งเรื่องการสนับสนุน เรื่องแหล่งทุนที่ให้ผู้ประกอบการไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจอย่างเช่นการเข้าถึงพลังงานทางเลือกอย่างเช่นพลังงานโซลาร์เซลล์ หรือการใช้พลังงานทางเลือกอื่นๆ พวกนี้อาจจะต้องได้รับการสนับสนุนเป็นลักษณะของ Soft Loan พิเศษให้ผู้ประกอบการ
"สำหรับด้านการท่องเที่ยว จริงๆ เชียงใหม่เองเรามีการปักหมุดเรื่องของการท่องเที่ยวในเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ “เวลล์เนส ทัวร์ริสซึ่ม” (Wellness Tourism) ซึ่งเรื่องพวกนี้ทางรัฐเองก็เข้ามาร่วมในการขับเคลื่อนเรื่องพวกนี้ว่าเชียงใหม่เองตอนนี้เราประกาศให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ หรือ Northern Economic Corridor : NEC เพราะฉะนั้นมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่ในระดับพื้นที่อยู่แล้ว และมีการส่งข้อมูลเข้าไปให้ในส่วนกลางอยู่ ก็เชื่อว่าจากนี้ไปภาคการท่องเที่ยวเอง การท่องเที่ยวเดิมๆ ก็คงจะเปลี่ยนรูปแบบไป ซึ่งถ้าเกิดภาครัฐเองมีนโยบายที่มันชัดเจน โดยเฉพาะกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และรวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. มีการเข้ามาร่วมกับภาคเอกชนในการขับเคลื่อนเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ “เวลล์เนส ทัวร์ริสซึ่ม” ว่าเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ หรือประเทศไทยเราไปในอนาคต" ประธานหอการค้ากล่าว
เมื่อถามที่ว่า จ.เชียงใหม่มี ส.ส.จากพรรคก้าวไกลถึง 7 คน จะส่งผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงเมืองเชียงใหม่อย่างไร นายจุลนิตย์ กล่าวว่า ตนก็หวังไว้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดี เพราะเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาดูแลเรื่องการเมืองมากขึ้น ก็จะมีมุมมอง หรือวิสัยทัศน์ที่มันแตกต่างไป ก็จะเป็นโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาก แต่ก็คงจะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลให้มันชัดเจน การวางตัวคนไปดูแลแต่ละกระทรวง และจากนั้นเราก็คงจะเป็นแล้วว่าทิศทางในการขับเคลื่อนว่าจะเป็นอย่างไร ความชัดเจนมันจะมีมากขึ้นอย่างไรในโอกาสต่อไป