ไอติม วอน ส.ว. เลือก พิธา เป็นนายกฯ ยึดหลักการเหมือนตอนโหวต ‘บิ๊กตู่’ ปี 62
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7679573
 
 
ไอติม วอน ส.ว. เลือก พิธา เป็นนายกฯ หลังรวมเสียงได้ 313 เสียง เชื่อเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เคารพเสียงประชาชน ขอให้ยึดหลักการเหมือนตอนโหวต ‘บิ๊กตู่’ ปี 62
 
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2566 ที่พรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลว่า พรรคก้าวไกลได้ให้ความชัดเจน 2 เรื่องคือ 

1. การลงนามเอ็มโอยูร่วมกัน 8 พรรค 313 เสียง ถือว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ  มีส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร
  
2. การลงนามร่วมกันว่า ประเด็นวาระขั้นต่ำที่นำเสนอผ่านเอ็มโอยู มีอะไรบ้าง พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับจำนวนสิ่งสนับสนุนที่เพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล หากต้องการให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น เรียกร้องให้ ส.ว.ออกมายืนยันพร้อมเคารพเสียงข้างมากของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง และสนับสนุน นายกรัฐมนตรีและพรรคการเมืองที่รวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภา ตามหลักประชาธิปไตยสากล
 
เชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ทำให้ทุกคนมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลและแสดงความพร้อมที่จะพูดคุย ชี้แจง คลายข้อกังวลที่ส.ว.บางคนอาจจะมี โดยย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ต้องการเรียกร้องให้ ส.ว. ต้องชื่นชอบพรรคก้าวไกลเป็นการเฉพาะ แต่ขอเพียงเคารพเสียงของประชาชน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขออ้างถึงเหตุผลที่ ส.ว.เคยโหวตพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เมื่อปี 2562 เพราะพล.อ.ประยุทธ์ รวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภา จึงขอให้ยึดหลักการเดิมที่ ส.ว.เคยให้ไว้ โดยเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีฯ และรัฐบาลผสมที่มี 8 พรรค โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ

---

ชลน่าน ลั่นขอให้เชื่อมั่นเพื่อไทย ไม่ใช่ถือมีดแทงกัน ฟาด ศิธา ถามไร้มารยาท
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7679462

ชลน่าน ลั่นขอให้เชื่อมั่นกัน ไม่ใช่ถือมีดแทงหลังกันเอง ยอมรับไม่สบายใจข้อเสนอ‘ศิธา’ มองเสียมารยาท สุดารัตน์ ชี้ ศิธา เจตนาดี อยากเอาเผด็จการออกไป
 
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 พ.ค.2566 ข่าวสดออนไลน์ เชิญ 3 พรรคใหญ่ที่ร่วมเซ็น MOU มาร่วมพูดคุยในรายการ “อยากมีเรื่องคุย” นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ
 
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงข้อเสนอ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย อยากเห็นเอ็มโอยูแอดวานซ์ให้ 8 พรรคสัญญาจะจับมือกันต่อไป แม้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ หรือเป็นฝ่ายค้านร่วมกันว่า ประเด็นนี้จริงๆแล้ว น.ต.ศิธา เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคร่วม ตนไม่สบายใจเท่าไหร่สำหรับคำถามของน.ต.ศิธา เพราะไม่ได้เป็นสื่อ แต่ไปคาดคั้นอย่างนี้ อีกทั้งตัวเองเป็นพรรคร่วม ตนคิดว่า เสียมารยาทอย่างยิ่ง ฝากคุณหญิงสุดารัตน์ด้วย
 
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ขอตอบชัดเจนว่า เราจะจับมือเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราถือเสียงข้างมากอยู่ ตราบใดเราเกาะเกี่ยวกันอย่างนี้ ไม่มีทางเป็นพรรคฝ่ายค้าน ใครจะมาตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่งกับเรา ซึ่งคำถามพุ่งเป้ามาที่พรรคเพื่อไทย ถูกสังคมข่าวสารกระหน่ำซ้ำเติมตลอด ตนตอบครั้งที่ 501 เรายืนยันสนับสนุนพรรคก้าวไกล ข่าวที่ออกมาไม่เป็นประเด็น ความจริงพรรคเพื่อไทยบวกกับก้าวไกล 293 เสียง มันไม่มีทางเป็นฝ่ายค้าน เป็นรัฐบาลได้อย่างเดียว พรรคไหนจะมาแย่งจัด เอาความเป็นจริง อย่ามโน
 
เมื่อถามว่าคาดการณ์หรือไม่ว่าพูดขนาดนี้แล้ว สังคมยังปล่อยข่าวปั่นอยู่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่อยากตอบ ต้องให้สังคมพูดกันเอง เพื่อไทยมีหน้าที่แสดงเจตนารมณ์ของเราตามที่ประชาชนคาดหวัง เหมือนที่เรากับก้าวไกล 293 เสียง ยิ่งบวกซีกประชาธิปไตยก็เกิน 300 เสียง ถือเป็นเจตนารมณ์มุ่งมั่นของประชชน เราต้องยึดเป็นหลัก
 
สิ่งที่เขาวิจารณ์ หรือที่มีข่าวพรรคพลังประชารัฐจะยุบมารวมกับเพื่อไทย เพื่อตั้งรัฐบาลใหม่นั้น ตนให้คำมั่นว่าเพื่อไทยมุ่งมั่นสนับสนุนพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ถึงเรามี 300 เสียงก็ยังยึดมั่น ใครจะมารวมกับเราก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะอ้างว่าเป็นพรรคอันดับ 1 ยืนยันเพื่อไทย เราไม่ทำ เรื่องเหล่านี้เป็นมิติการสร้างความเชื่อ นวัตกรรมการเมือง ยังไม่จบ กกต.ยังไม่ประกาศผล อะไรก็เกิดขึ้นได้ เขาก็หวังว่าจะทำลายฝ่ายประชาธิปไตยให้แยกสลายมากที่สุด
 
“ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญมากที่สุดก็คือเพื่อไทย ไม่ใช่เพื่อไทยเป็นตัวละครที่จะเล่นในเกมนี้ เราอย่าไปหลงกล อย่าไปเออออห่อหมกเล่นตามเขา เขาจะจัดฉากให้เราแสดงแล้วเราแสดง ก็จะเข้าทางเขาหมด เราต้องยึดมั่น เชื่อมั่นในตัวพวกเรากันเอง ไม่ใช่ว่าเชื่อมั่นแล้ว มืออีกข้างหนึ่งถือมีดแทงอยู่ข้างหลัง มันไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเราจะตกเป็นเบี้ยล่างเขาอยู่อย่างนี้ เพราะการชิงดีชิงเด่นอยากมีอำนาจมันยิ่งใหญ่กว่าบ้านเมือง เราไม่ได้ใส่ใจคำพูดอย่างนั้น อยู่ที่เราต้องแสดงเจตนารมณ์ให้ชัด” นพ.ชลน่าน กล่าว
 
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า น.ต.ศิธา เป็นคนที่ตั้งใจอยากให้ฝั่งประชาธิปไตยจับมือกันให้แน่น อยากเอาชนะเผด็จการให้ได้ในรอบนี้ ซึ่งน.ต.ศิธา พูดเรื่องนี้หลายครั้ง เขายืนยันว่าเราต้องช่วยกันเอาเผด็จการออกไปให้ได้ ตนคิดว่าสิ่งที่เขาเสนอ ออกมาจากความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ว่าถึงเวลา และมันเป็นโอกาสที่ใกล้ที่สุดที่จะเอาเผด็จการออกไป
 
ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยจับมือกันแน่นและยืนสู้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะยกมือผ่านหรือไม่ผ่าน เราก็ยืนสู้แบบนี้ โดยที่เรามีความมุ่งมั่นแนวแน่ ไม่ใช่ว่าถึงเวลาแล้วเกิดมีการเปลี่ยนแปลง ท้ายที่สุดเผด็จการกลับมา แม้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม ตนคิดว่าสิ่งที่น.ต.ศิธา ถามขึ้นมา คงจะเป็นความกังวลและเป็นความมุ่งมั่น เป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้ฝ่ายเผด็จการออกไปได้ ใกล้ความจริงมากที่สุด
 
“ถ้าคำถามเขา ทำความไม่สบายใจให้เพื่อไทย ก็ขออภัยด้วย แต่เท่าที่พูดคุย มีเจตนาแค่ว่าอยากให้ฝั่งประชาธิปไตยรวมตัวกันให้แน่น และอยากให้เราเอาชนะเผด็จการ จบการสืบทอดอำนาจแบบจำแลงแปลงกาย หรือการปฏิวัติรัฐประหารอีก คิดว่าทุกพรรคจะเห็นตรงกัน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
 
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอให้กำลังใจทั้งเพื่อไทยและคุณหญิงสุดารัตน์ แต่ชื่นชมพรรคเพื่อไทยมีสปิริตมาก ในระบอบประชาธิปไตย พรรคเสียงข้างมากต้องจัดตั้งรัฐบาล อารมณ์หลายคนพยายามยุงในฝ่ายที่ไม่อยากให้เราตั้งรัฐบาล ใช้เงื่อนไขต่างๆ ทำให้เราแตกแยกกัน แต่เท่าที่อยู่ด้วยกันทั้ง 8 พรรคมีความรักสามัคคีกัน เอ็มโอยูเรายังยอมกันได้ เราคิดว่ากระบวนการประชาธิปไตยจะต้องเกิดขึ้น
 

---

 
ท่องเที่ยวเหงาเข้าหน้าโลว์ การเดินทางทั้งไทย-ต่างชาติชะลอตัวหนัก
https://www.matichon.co.th/economy/news_3994028

ท่องเที่ยวเหงาเข้าหน้าโลว์ การเดินทางทั้งไทย-ต่างชาติชะลอตัวหนัก
 
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ภาพการท่องเที่ยวไทย เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น หรือนอกฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ทำให้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวลง แม้บางพื้นที่ อาทิ กรุงเทพฯ อาจชะลอตัวลงไม่มาก เพราะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบหลากหลาย ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้เข้ามาติดต่อธุรกิจ หรือคนทำงานเชิงท่องเที่ยว โดยหากเป็นการพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติจริงๆ น่าจะมีเพียงภูเก็ตที่ถูกกระทบน้อย เพราะยังมีเที่ยวบินเข้ามามากพอสมควร แต่จุดหมายปลายทางอื่นๆ ถือว่าเข้าสู่หน้าโลว์แบบจริงจังแล้ว ซึ่งกลับไปชะลอตัวเหมือนช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 ด้วยซ้ำ

นายธเนศ กล่าวว่า เมื่อหมดหน้าหนาวแล้วเห็นการลดลงของนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปแบบเห็นได้อย่างชัดเจน รวมถึงมีเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำจากรัสเซียที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยนั้น หลังจากวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จะหมดลงแล้ว เริ่มอีกครั้งประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ทำให้ที่ตลาดต่างชาติที่ยังเหลืออยู่เป็นตลาดเอเชียเท่านั้น รวมถึงตลาดไทยเที่ยวไทยด้วย แต่คนไทยยังติดข้อจำกัดเที่ยวได้เฉพาะวันหยุด ส่วนเอเชียที่เข้ามาเที่ยวไทยหลักๆ อย่างชาวจีน ตอนนี้ยังไม่เห็นการฟื้นตัวตามที่คาดหวังไว้ เพราะจำนวนเที่ยวบินยังน้อยอยู่ ราคาตั๋วแพง การเข้มงวดเรื่องการออกวีซ่า ทำให้จำนวนการฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน
 
“ต้องรอติดตามว่า หลังจากเดือนมิถุนายนนี้ เป็นต้นไป จะมีการเพิ่มเที่ยวบินได้อีกประมาณ 400 เที่ยวบินนั้น จะสามารถทำได้อย่างนั้นหรือไม่ เพราะหากทำได้จะถือว่าเป็นส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้สูงมาก ส่วนตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดแรกๆ ที่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงหลังเปิดประเทศ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ดีมากนัก ตัวเลขชะลอตัวลง ไม่ได้เข้ามาเยอะๆ เหมือนเดิมแล้ว” นายธเนศ กล่าว
 
นายธเนศ กล่าวว่า สำหรับกรณีการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมนั้น เห็นการเข้ามาซื้อค่อนข้างเยอะมากขึ้น โดยเฉพาะจีนและรัสเซีย แต่เป็นกลุ่มที่เข้ามาซื้อเพื่ออยู่อาศัย ไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง แต่เป็นการเข้ามาเพื่อตั้งรกรากในไทยแทน เป็นผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อยู่ยาวไม่ได้เป็นการเข้ามาพักแบบ 1-2 สัปดาห์แล้วเดินทางกลับเหมือนเดิม ในส่วนของการเข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือลงทุนอย่างโรงแรม มองว่าของที่อยู่ในตลาดแบบทำเลดีๆ ราคาดีๆ จบการเจรจาไปตั้งแต่ช่วงโควิดแล้ว จึงไม่เห็นแรงซื้อแต่มีแรงขายอยู่บ้าง
  
นายธเนศ กล่าวว่า ความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น สิ่งที่ต้องการให้แก้ไขเร็วที่สุด เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวเดินหน้าและฟื้นตัวอย่างเต็มศักยภาพ เป็นเรื่องการเพิ่มเที่ยวบิน เพราะถือเป็นประตูในการเข้ามาท่องเที่ยวไทย แม้มีการเดินทางเข้ามาผ่านทางบกหรือน้ำบ้าง แต่ทางอากาศเป็นช่องทางหลักๆ ทำให้หากสามารถเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น สอดรับกับความต้องการ (ดีมานด์) ที่ยังมีอยู่และมีเพิ่มขึ้น ราคาตั๋วเครื่องบินกลับไปสู่จุดที่มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น รวมถึงวีซ่าเข้าเมืองของไทย จะเป็นไปได้หรือไม่ในการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมไปก่อน เพราะต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมีการใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งมากกว่าค่าธรรมเนียมที่เก็บได้แน่นอน
 

---

ร้านอาหารร้องขึ้นค่าแรงแก้ปัญหาไม่ตรงจุด อ้อนรัฐบาลใหม่เร่งแก้ปมต้นทุนแพง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3994032

ธุรกิจร้านอาหารร้องขึ้นค่าแรงแก้ปัญหาไม่ตรงจุด อ้อนรัฐบาลใหม่แก้ต้นทุนแพงก่อนอย่างแรก
 
นางสาวประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด (ครัวชมทะเล) เปิดเผยว่า นโยบายการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่หลายพรรคการเมืองชูขึ้นมานั้น มองว่าส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการโดยตรงแบบที่ไม่สามารถหาทางออกได้ เนื่องจากเป็นต้นทุนหลักของการทำธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ซึ่งอยากให้รัฐบาลประเมินภาพที่มีความสอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะทุกคนก็อยากมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งนั้น แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง เพื่อไม่ให้ต้องเกิดการแบกรับภาระของฝ่ายใดเพียงฝ่ายเดียว รวมถึงอาจมีคนตกงานมากขึ้นด้วย เพราะทักษะที่มีไม่สอดคล้องกับราคาที่ต้องจ่าย