สิ่งที่ต้องทำเป็นวาระแรกหลังเรียกประชุมสภา ก็คือ การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งต้องการคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนฯ เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับ สว. เลย
ดังนั้น ฝ่ายที่กุมคะแนนเสียงได้มากที่สุด ก็จะได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร
และประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้มีหน้าที่ลงนามสนองรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ต่อให้ฝ่ายเสียงข้างน้อย + 250 เสียงของ ส.ว. จะรวมกันได้มากกว่า 376 เสียง และสามารถโหวตเลือกนายกฝ่ายตนได้
แต่ถ้าประธานสภาผู้แทนราษฎร เกิดป่วยกระทันหัน และป่วยระยะยาว หรือติดภาระกิจในต่างประเทศ ไม่อาจจะทำหน้าที่ลงนามสนองพระบรมราชโองการได้ ปัญหาจะทำอย่างไร
รัฐบาลประยุทธ์ อาจจะรักษาการณ์ต่อไป แต่ก็ไม่สามารถโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการได้ ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณรายจ่ายใดๆ ได้ เว้นแต่ที่ระบุไว้ในงบประมาณรายจ่ายเดิม แล้วงบประมาณรายจ่ายของปีต่อไป จะทำอย่างไร
ไม่ว่ายังไง รัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะฝ่ายที่ได้เสียงข้างมากจะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน
ซึ่งต้องการคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนฯ เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับ สว. เลย
ดังนั้น ฝ่ายที่กุมคะแนนเสียงได้มากที่สุด ก็จะได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร
และประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้มีหน้าที่ลงนามสนองรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
ต่อให้ฝ่ายเสียงข้างน้อย + 250 เสียงของ ส.ว. จะรวมกันได้มากกว่า 376 เสียง และสามารถโหวตเลือกนายกฝ่ายตนได้
แต่ถ้าประธานสภาผู้แทนราษฎร เกิดป่วยกระทันหัน และป่วยระยะยาว หรือติดภาระกิจในต่างประเทศ ไม่อาจจะทำหน้าที่ลงนามสนองพระบรมราชโองการได้ ปัญหาจะทำอย่างไร
รัฐบาลประยุทธ์ อาจจะรักษาการณ์ต่อไป แต่ก็ไม่สามารถโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการได้ ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณรายจ่ายใดๆ ได้ เว้นแต่ที่ระบุไว้ในงบประมาณรายจ่ายเดิม แล้วงบประมาณรายจ่ายของปีต่อไป จะทำอย่างไร