โอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง



น้ำมันปลา เป็นกรดไขมัน โอไมก้า 3 ที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ ต้องบริโภคเท่านั้น ประกอบไปด้วย

- EPA (Eicosapentaenoic acid) และ DHA (Docosahexaenoic acid) ทั้งสองตัวนี้ ได้จาก ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาแอนโชวี่ ปลาซาดีน ปลาซาบะ ปลาดุกทะเล
- ALA (Alpha-Linolenic acid) ได้จากถั่วและเมล็ดพืช วอลนัท ถั่วแระ ถั่วเหลือง เมล็ดเจีย เมล็ดแฟร็กซีด

ประโยชน์ของน้ำมันปลา

- ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด ไปลดไขมันตัวร้าย ไตรกลีเซอไรด์ ลดได้ 20-50 % ใช้ร่วมกับยาลดไขมันได้ ช่วยลด LDL และเพิ่ม HDL ได้ด้วย
- EPA ช่วยสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด และหัวใจ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ลดความดัน ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ลดการอุดตัน
- EPA มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ รักษาภาวะการเจ็บป่วยเรื้อรัง, โรคข้ออักเสบรูมาตอย,โรคสะเก็ดเงิน
- DHA เป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์สอง ประสาท และจอประสาทตา ช่วยให้การจดจำดีขึ้น เหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ที่ต้องการบำรุงสมอง
- กรด โอเมก้า 3 ช่วยลดภาวะอาการซึมเศร้าและอาการทางจิตใจ
- ช่วยรักษาสิว บำรุงผิว และลดการอักเสบของผิวหนัง EPA, DHA ช่วยผลิตสารสำคัญที่มีหน้าที่ในการรักษาระดับของฮอร์โมน ไม่ทำให้เกิดการอุดตันเนื่องจากการผลิตไขมันที่มากเกินไป
- ช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก เพราะจะทำให้ความอยากอาหารลดลง ช่วยเพิ่มอัตราการเผาพลาญ
- ประโยชน์ต่อตา มีส่วนสำคัญช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ และบรรเทาอาการตาแห้ง
- ช่วยลดภาวะไขมันพอกตับ ลดการอักเสบของเนื้อเยื้อในตับ ไม่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ช่วยให้การทำงานของ แคลเซี่ยม วิตามินดี และแมกนีเซี่ยม ช่วทำงานได้ดี และช่วยให้มวลกระดูกแข็งแรงมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ดีขึ้น  ต่อสู้กับไวรัสและแบคทีเรียได้ดีขึ้น

ปริมาณที่แนะนำในการบริโภค 1000 มก.ต่อวัน สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ และมีไขมันในเลือดสูง แนะนำ 2000-4000 มก.ต่อวัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่