แบบ เป็นคลิปVDO ก็มีนะคะ
https://youtu.be/AY56KHcalc0
น้ำมันปลา คืออะไร
น้ำมันปลา คือ กรดไขมันชนิดไม่อิ่ม ตัว สกัด มาจาก หนัง เนื้อ หัว หางของปลา ซึ่งมีกรดไขมันอยู่หลายชนิดทีร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่ที่สำคัญมี 2 ชนิด คือ EPA DHA
EPA ช่วยในเรื่อง ลดการเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดการอักเสบของข้อรูมาตอยด์ ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (TG) เพิ่มไขมันตัวดีหรือ HDL ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดความถี่ในการปวดไมเกรน บำรุงผิว ผม เล็บให้มีสุขภาพดี
DHA จำเป็นต้องการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของสมอง และ การมองเห็นในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กในช่วง 3 เดือนก่อนคลอด หรือ ช่วง1-3 ปีแรกหลังคลอด ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาทองเลยทีเดียว และยังพบอีกว่า เด็กที่มีปัญหาเรื่องอารมรื การเรียนรู้ การนอน จะมีสาร DHA ในร่างกางต่ำอีกดวย
DHA กับคนท้อง
จากงานวิจัยนักโภชนาการ มหาวิทยาลัย Kansas ประเทศ สหรัฐอเมริกา พบว่า ให้หญิงตั้งครรภ์รับประทาน DHA วันละ 600 mg โดยแบ่งให้วันละ 3 มื้อต่อวัน พบว่าเด็กมีน้ำหนักตัวหลังคลอดมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับ DHA และคลอดช้ากว่ากำหนด ดังนั้นควรให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานปลาทะเลอย่างน้อย 2 ครั้งต่อ สัปดาห์ และควรงดน้ำมันปลาก่อนคลอด 1 เดือน เพราะจะทำให้เลือดหยุดไหลช้า
วิธีเลือกซื้อน้ำมันปลา
1.ควรเลือกซื้อจากปลาที่มาจากเขต เช่น เขตแอตแลนติก เนื่องจาก จะมีชั้นไขมันที่หนากว่า และมีสารปรอทตกค้างน้อยกว่า
2.ควรมี วิตามิน อี ผสมในน้ำมันปลา ช่วยทำให้ ไม่เหม็นหืน เพราะ น้ำมันปลาที่เสื่อมสภาพ จะถูกจับ เม็ดเลือดขาวในร่างกายเรา เป้นกลุ่มก้อนแข็งอุดตันในเส้นเลือด ดังนั้น น้ำมันที่หมดอายุไม่ควรนำมารับประทาน
ขนาดในการรับประทาน
1.เด็กในวัยเรียน ควรได้รับ DHA 20 mg ต่อ น้ำหนักตัว 1 kg ตอวัน
2.วัยทำงาน ควรได้รับ DHA 300 mg ต่อวัน หรือ สองเม็ด ต่อวัน
3. หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร ควรได้รับ DHA 600 mg ต่อวัน หรือ 5 เม็ด ต่อวัน
4.สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรได้รับ EPA 1 กรัมต่อวัน หรือ 5 เม็ดต่อวัน
ข้อควรระวัง
1.ห้ามใช้ในผู้ที่ทานยาละลายลิ่มเลือด
2.ควรหยุดน้ำมันปลาก่อนผ่าตัด 14 วัน
3.ควรหยุดน้ำมันปลาก่อนคลอด 1 เดือน
แหล่งปลาที่มี โอเมก้า 3 สูง
ปลาแซลมอล ปลาซาร์ดีน ปลาดุกทะเล หอยนางรม ปลาตาเดียว
ส่วนปลาที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากมีสารปรอทสูงในตัวปลา
ปลาฉลาม ปลาอินทรีย์ ปลาทูน่า ปลาเก๋า
เอกสารอ้างอิง
1.คู่มืออาหารเสริม ฉบับสมบูรณื ดร.เริงฤทธิ์ สัปปพันธ์
2.วิตามินไบเบิล
3.คู่มือดูแลสุขภาพด้วย วิตามินและเกลือแร่ AMANA URSELL
4.
http://oknation.nationtv.tv/blog/DIVING/2009/03/14/entry-1
[img]
https://f.ptcdn.info/351/050/000/oo15pzcgtBP2f1aXThb-o.jpg
[CR] รีวิว น้ำมันปลา ช่วยบำรุงสมองได้จริงหรือไม่ ?
https://youtu.be/AY56KHcalc0
น้ำมันปลา คืออะไร
น้ำมันปลา คือ กรดไขมันชนิดไม่อิ่ม ตัว สกัด มาจาก หนัง เนื้อ หัว หางของปลา ซึ่งมีกรดไขมันอยู่หลายชนิดทีร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่ที่สำคัญมี 2 ชนิด คือ EPA DHA
EPA ช่วยในเรื่อง ลดการเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดการอักเสบของข้อรูมาตอยด์ ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (TG) เพิ่มไขมันตัวดีหรือ HDL ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลดความถี่ในการปวดไมเกรน บำรุงผิว ผม เล็บให้มีสุขภาพดี
DHA จำเป็นต้องการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของสมอง และ การมองเห็นในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กในช่วง 3 เดือนก่อนคลอด หรือ ช่วง1-3 ปีแรกหลังคลอด ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาทองเลยทีเดียว และยังพบอีกว่า เด็กที่มีปัญหาเรื่องอารมรื การเรียนรู้ การนอน จะมีสาร DHA ในร่างกางต่ำอีกดวย
DHA กับคนท้อง
จากงานวิจัยนักโภชนาการ มหาวิทยาลัย Kansas ประเทศ สหรัฐอเมริกา พบว่า ให้หญิงตั้งครรภ์รับประทาน DHA วันละ 600 mg โดยแบ่งให้วันละ 3 มื้อต่อวัน พบว่าเด็กมีน้ำหนักตัวหลังคลอดมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับ DHA และคลอดช้ากว่ากำหนด ดังนั้นควรให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานปลาทะเลอย่างน้อย 2 ครั้งต่อ สัปดาห์ และควรงดน้ำมันปลาก่อนคลอด 1 เดือน เพราะจะทำให้เลือดหยุดไหลช้า
วิธีเลือกซื้อน้ำมันปลา
1.ควรเลือกซื้อจากปลาที่มาจากเขต เช่น เขตแอตแลนติก เนื่องจาก จะมีชั้นไขมันที่หนากว่า และมีสารปรอทตกค้างน้อยกว่า
2.ควรมี วิตามิน อี ผสมในน้ำมันปลา ช่วยทำให้ ไม่เหม็นหืน เพราะ น้ำมันปลาที่เสื่อมสภาพ จะถูกจับ เม็ดเลือดขาวในร่างกายเรา เป้นกลุ่มก้อนแข็งอุดตันในเส้นเลือด ดังนั้น น้ำมันที่หมดอายุไม่ควรนำมารับประทาน
ขนาดในการรับประทาน
1.เด็กในวัยเรียน ควรได้รับ DHA 20 mg ต่อ น้ำหนักตัว 1 kg ตอวัน
2.วัยทำงาน ควรได้รับ DHA 300 mg ต่อวัน หรือ สองเม็ด ต่อวัน
3. หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร ควรได้รับ DHA 600 mg ต่อวัน หรือ 5 เม็ด ต่อวัน
4.สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรได้รับ EPA 1 กรัมต่อวัน หรือ 5 เม็ดต่อวัน
ข้อควรระวัง
1.ห้ามใช้ในผู้ที่ทานยาละลายลิ่มเลือด
2.ควรหยุดน้ำมันปลาก่อนผ่าตัด 14 วัน
3.ควรหยุดน้ำมันปลาก่อนคลอด 1 เดือน
แหล่งปลาที่มี โอเมก้า 3 สูง
ปลาแซลมอล ปลาซาร์ดีน ปลาดุกทะเล หอยนางรม ปลาตาเดียว
ส่วนปลาที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากมีสารปรอทสูงในตัวปลา
ปลาฉลาม ปลาอินทรีย์ ปลาทูน่า ปลาเก๋า
เอกสารอ้างอิง
1.คู่มืออาหารเสริม ฉบับสมบูรณื ดร.เริงฤทธิ์ สัปปพันธ์
2.วิตามินไบเบิล
3.คู่มือดูแลสุขภาพด้วย วิตามินและเกลือแร่ AMANA URSELL
4.http://oknation.nationtv.tv/blog/DIVING/2009/03/14/entry-1
[img]https://f.ptcdn.info/351/050/000/oo15pzcgtBP2f1aXThb-o.jpg