คือ ญี่ปุ่นบูชาคนเก่ง ครอบครัวคาดหวังให้ลูกเก่ง ในญี่ปุ่นต้องเป็นคนเก่งที่มีที่ยืนในสังคม หลายๆ องค์กรเปิดกว้างให้คนเก่งเข้ามา(ไม่ทั้งหมด) มีการแข่งขันระหว่างคนเก่งๆ
ไทยบูชา ผลประโยชน์ อำนาจ โชค ครอบครัวหวังให้ลูกมีตำแหน่งเพื่อที่จะสบาย(อาจจะไม่ต้องเก่งก็ได้) ในไทยมีเงิน มีตำแหน่งสูงๆ ถึงจะมีที่ยืนในสังคม หลายๆ องค์กรจำกัดให้คนมีอำนาจและพวกพ้องเข้ามา(ไม่ทั้งหมด) คนไม่มีอำนาจ ไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจหมดสิทธิแข่งขันทั้งภาคการศึกษาและธุรกิจ เช่น อยากเรียนเก่งๆต้องมีเงินเรียนเอกชน หรือมีเงินไปเรียนพิเศษ ไปติว ไปกวดวิชา ทั้งที่การศึกษาเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศ แต่หน่วยงานในไทยกลับไม่สนใจยกระดับและมาตราฐานขึ้น
หลายคนชอบบอกญี่ปุ่นความกดดันและการแข่งขันสูง ประเทศไทยยืดหยุ่นกว่า แต่อย่างลืมว่าประเทศเราตัดโอกาสใครหลายคนและปล่อยให้มีใครหลายขาดโอกาส
คนไทยที่เก่งมีเยอะมาก ผมเห็นคนได้หลายคนมีเครดิตในการสร้างหนังฮอลลิวูด สร้างเกมเกรดสูง (เป็นส่วนหนึ่งของแผนกต่างๆนะ) ถามว่าเขามีโอกาส เขาเลือกจะทำงานที่ไหน ก็ต้องเลือกที่ๆ ดีที่สุด
ผมมองในภาพรวมนะ มันไม่มีอะไรขาวสะอาดไปทั้งหมดหรอก
ไทยและญี่ปุ่นก่อนปฏิรูปการเมืองต่างก็เคยใช้ระบบศักดินา แต่มีจุดหนึ่งที่เปลี่ยนให้ 2 ประเทศเติบโตไม่เหมือนกัน
ไทยบูชา ผลประโยชน์ อำนาจ โชค ครอบครัวหวังให้ลูกมีตำแหน่งเพื่อที่จะสบาย(อาจจะไม่ต้องเก่งก็ได้) ในไทยมีเงิน มีตำแหน่งสูงๆ ถึงจะมีที่ยืนในสังคม หลายๆ องค์กรจำกัดให้คนมีอำนาจและพวกพ้องเข้ามา(ไม่ทั้งหมด) คนไม่มีอำนาจ ไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจหมดสิทธิแข่งขันทั้งภาคการศึกษาและธุรกิจ เช่น อยากเรียนเก่งๆต้องมีเงินเรียนเอกชน หรือมีเงินไปเรียนพิเศษ ไปติว ไปกวดวิชา ทั้งที่การศึกษาเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศ แต่หน่วยงานในไทยกลับไม่สนใจยกระดับและมาตราฐานขึ้น
หลายคนชอบบอกญี่ปุ่นความกดดันและการแข่งขันสูง ประเทศไทยยืดหยุ่นกว่า แต่อย่างลืมว่าประเทศเราตัดโอกาสใครหลายคนและปล่อยให้มีใครหลายขาดโอกาส
คนไทยที่เก่งมีเยอะมาก ผมเห็นคนได้หลายคนมีเครดิตในการสร้างหนังฮอลลิวูด สร้างเกมเกรดสูง (เป็นส่วนหนึ่งของแผนกต่างๆนะ) ถามว่าเขามีโอกาส เขาเลือกจะทำงานที่ไหน ก็ต้องเลือกที่ๆ ดีที่สุด
ผมมองในภาพรวมนะ มันไม่มีอะไรขาวสะอาดไปทั้งหมดหรอก