ถ้าให้ผมวันนี้พูดอย่าง รุ่งขึ้นพูดอีกอย่างที่ตรงข้ามกันแบบหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วไปโทษสื่อทั้งๆที่มีคลิป ผมคงทำไม่ได้อย่างแน่นอนเลยครับ
ถ้าให้ผมมาหลั่งน้ำตาหน้าจอทีวี แล้วโทษบุญโทษวาสนาที่มีคนต่อต้านการเข้าตำรวจแบบเหม่งๆ
ทั้งๆที่เกิดจากการกระทำของตัวเองล้วนๆแบบนี้ ผมคงทำไม่ได้อย่างแน่นอนเลยครับ
ถ้าให้ผมตะโกนเปาๆว่า ต้องการปฏิรูปนักการเมืองไม่ให้เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง แล้วกลับมาตั้งญาติสนิทมิตรสหายมารับตำแหน่งใกล้ชิด ผมคงทำไม่ได้อย่างแน่นอนครับ
ถ้าให้ผมตอบแทนคุณแผ่นดิน ด้วยการรับผลตอบแทนจากเงินแผ่นดินมากมายอย่างนั้น ผมคงทำไม่ได้เช่นกันครับ
ถ้าให้ผมเสียสละเพื่อชาติ ด้วยการรับตำแหน่งใหญ่ๆโตๆ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากคนทั้งชาติ แบบนี้ผมก็คงเสียสละไม่ไหวเช่นกันครับ
ถ้าให้ผมเที่ยวอโหสิกรรมใครต่อใคร เมื่องานของผมไม่ผ่านความเห็นชอบ แล้วประกาศจะไม่ร่วมสังฆกรรมอีกต่อไป แต่คล้อยหลังไม่กี่วัน กลับกลืนน้ำลายตัวเอง แบบนี้ผมก็ทำไม่ได้เหมือนกันครับ
ถ้าให้ผมพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พรรคตัวเองได้เปรียบ แต่เมื่อไม่สามารถชนะอีก ก็บอยคอตการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลกติกาไม่เป็นธรรม ผมคงไม่หน้าหนาได้ขนาดนี้หรอกครับ
ถ้าให้ผมทำตัวเป็นคนเชื่อมั่นระบอบรัฐสภามาตลอด แต่กลับนำมวลชนออกสู่ท้องถนน เมื่อต้องพ่ายแพ้มติเสียงส่วนใหญ่ในสภา แบบนี้ผมก็คงทำไม่ได้อีกเช่นกันครับ
ถ้าให้ผมประกาศชัดเจนว่าจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่กลับตั้งมูลนิธิมหาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย คงหวังจะได้รับการลากตั้งแทนการเลือกตั้งที่ไม่ชนะ ผมคงไม่กล้าคาดหวังเช่นนั้นหรอกครับ
ถ้าให้ผมไปขัดขวางการเลือกตั้ง เพื่อต้องการให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง โดยไม่รู้ว่าปฏิรูปกันแบบไหน ใครจะเป็นคนปฏิรูป ปฏิรูปแล้วดีกว่าเก่าหรือไม่อย่างไร ผมคงไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอกครับ
ถ้าให้ผมรู้จักประชาธิปไตยให้ดีขึ้น ด้วยการให้คนไทยมีสิทธิ์ไม่เท่ากัน ให้คนลากตั้งมีอำนาจกว่าคนเลือกตั้ง แบบนี้ผมคงเป็นคนดีไม่ได้เช่นกันครับ
ถ้าให้ผมฟ้องเรียกเงินงบประมาณคืนจากรัฐบาลที่ทำตามนโยบายที่ผ่านความเห็นชอบจากคนส่วนใหญ่ แถมยังแถลงต่อสภา ผมคงทำอย่างหมาป่ากับลูกแกะแบบนี้ไม่ได้หรอกครับ
ถ้าให้ผมที่ทำให้องค์กรถูกจัดอันดับเกือบบ๊วยสุด เพราะมองว่าเป็นเพียงองค์กรทางการเมืองไว้ทำลายคนอีกฝ่าย แล้วยังกล้าที่จะขอต่ออายุราชการตัวเอง แบบนี้ผมคงด้านไม่พอหรอกครับ
ถ้าให้ผมที่ปล่อยให้คดีสำคัญๆอย่างคดียุบพรรคการเมืองต้องหมดอายุความ ผมคงไม่สามารถที่จะรับหน้าที่ในการเขียนกติกาให้คนทั้งประเทศใช้อีกแล้วล่ะครับ
ถ้าให้ผมที่มีหน้าที่ปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่มักจะหายหัวเมื่อประชาชนถูกละเมิด ผมคงไม่กล้าที่จะเรียกร้องสิทธิของตัวเองที่จะถูกควบรวมอีกแล้วครับ
ถ้าให้ผมใส่เสื้อเหลืองไปปิดสนามบิน ถือนกหวีดไปเที่ยวปิดโน่นยึดนี่ แล้วอ้างว่าเป็นการทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน โดยไม่สนใจกับความเดือดร้อนของคนอื่น แบบนี้ผมก็ทำไม่ได้เหมือนกันครับ
ถ้าให้ผมเกลียดทุนนิยมสามานย์ แต่กลับเห็นสิ่งปลูกสร้างสำคัญกว่าชีวิตเพื่อนร่วมชาติเป็นร้อย บาดเจ็บอีกร่วมสองพัน โดยที่คนตายทั้งหมดไม่มีอาวุธสักคน แบบนี้ผมคงรับไม่ได้อีกแหละครับ
ถ้าให้ผมไปเป็นรัฐมนตรียังไม่หนำ ยังจะให้เป็นหนึ่งในคนขับเคลื่อนประเทศ ทั้งๆที่มีคดีก่อการร้ายปิดสนามบินติดตัว แบบนี้ผมคงไม่มีจิตสำนึกพอที่จะเป็นคนดีได้หรอกครับ
และสุดท้ายถ้าจะให้ผมเชื่อทุกอย่างที่ตาเห็น จำทุกอย่างที่หูฟัง แล้วไม่ใช้สมองไตร่ตรองถึงเหตุและผล แบบนี้แล้วผมยอมรับว่า ชาตินี้ผมคงร่วมเป็นคนดีกับเขาไม่ได้อย่างแน่นอนเลยครับ
สงสัยชาตินี้ ผมคงเป็น “คนดี”ของประเทศนี้ไม่ได้แน่ๆเลยครับ----------ทวดเอง
ถ้าให้ผมมาหลั่งน้ำตาหน้าจอทีวี แล้วโทษบุญโทษวาสนาที่มีคนต่อต้านการเข้าตำรวจแบบเหม่งๆ
ทั้งๆที่เกิดจากการกระทำของตัวเองล้วนๆแบบนี้ ผมคงทำไม่ได้อย่างแน่นอนเลยครับ
ถ้าให้ผมตะโกนเปาๆว่า ต้องการปฏิรูปนักการเมืองไม่ให้เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง แล้วกลับมาตั้งญาติสนิทมิตรสหายมารับตำแหน่งใกล้ชิด ผมคงทำไม่ได้อย่างแน่นอนครับ
ถ้าให้ผมตอบแทนคุณแผ่นดิน ด้วยการรับผลตอบแทนจากเงินแผ่นดินมากมายอย่างนั้น ผมคงทำไม่ได้เช่นกันครับ
ถ้าให้ผมเสียสละเพื่อชาติ ด้วยการรับตำแหน่งใหญ่ๆโตๆ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากคนทั้งชาติ แบบนี้ผมก็คงเสียสละไม่ไหวเช่นกันครับ
ถ้าให้ผมเที่ยวอโหสิกรรมใครต่อใคร เมื่องานของผมไม่ผ่านความเห็นชอบ แล้วประกาศจะไม่ร่วมสังฆกรรมอีกต่อไป แต่คล้อยหลังไม่กี่วัน กลับกลืนน้ำลายตัวเอง แบบนี้ผมก็ทำไม่ได้เหมือนกันครับ
ถ้าให้ผมพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พรรคตัวเองได้เปรียบ แต่เมื่อไม่สามารถชนะอีก ก็บอยคอตการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลกติกาไม่เป็นธรรม ผมคงไม่หน้าหนาได้ขนาดนี้หรอกครับ
ถ้าให้ผมทำตัวเป็นคนเชื่อมั่นระบอบรัฐสภามาตลอด แต่กลับนำมวลชนออกสู่ท้องถนน เมื่อต้องพ่ายแพ้มติเสียงส่วนใหญ่ในสภา แบบนี้ผมก็คงทำไม่ได้อีกเช่นกันครับ
ถ้าให้ผมประกาศชัดเจนว่าจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่กลับตั้งมูลนิธิมหาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย คงหวังจะได้รับการลากตั้งแทนการเลือกตั้งที่ไม่ชนะ ผมคงไม่กล้าคาดหวังเช่นนั้นหรอกครับ
ถ้าให้ผมไปขัดขวางการเลือกตั้ง เพื่อต้องการให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง โดยไม่รู้ว่าปฏิรูปกันแบบไหน ใครจะเป็นคนปฏิรูป ปฏิรูปแล้วดีกว่าเก่าหรือไม่อย่างไร ผมคงไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอกครับ
ถ้าให้ผมรู้จักประชาธิปไตยให้ดีขึ้น ด้วยการให้คนไทยมีสิทธิ์ไม่เท่ากัน ให้คนลากตั้งมีอำนาจกว่าคนเลือกตั้ง แบบนี้ผมคงเป็นคนดีไม่ได้เช่นกันครับ
ถ้าให้ผมฟ้องเรียกเงินงบประมาณคืนจากรัฐบาลที่ทำตามนโยบายที่ผ่านความเห็นชอบจากคนส่วนใหญ่ แถมยังแถลงต่อสภา ผมคงทำอย่างหมาป่ากับลูกแกะแบบนี้ไม่ได้หรอกครับ
ถ้าให้ผมที่ทำให้องค์กรถูกจัดอันดับเกือบบ๊วยสุด เพราะมองว่าเป็นเพียงองค์กรทางการเมืองไว้ทำลายคนอีกฝ่าย แล้วยังกล้าที่จะขอต่ออายุราชการตัวเอง แบบนี้ผมคงด้านไม่พอหรอกครับ
ถ้าให้ผมที่ปล่อยให้คดีสำคัญๆอย่างคดียุบพรรคการเมืองต้องหมดอายุความ ผมคงไม่สามารถที่จะรับหน้าที่ในการเขียนกติกาให้คนทั้งประเทศใช้อีกแล้วล่ะครับ
ถ้าให้ผมที่มีหน้าที่ปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่มักจะหายหัวเมื่อประชาชนถูกละเมิด ผมคงไม่กล้าที่จะเรียกร้องสิทธิของตัวเองที่จะถูกควบรวมอีกแล้วครับ
ถ้าให้ผมใส่เสื้อเหลืองไปปิดสนามบิน ถือนกหวีดไปเที่ยวปิดโน่นยึดนี่ แล้วอ้างว่าเป็นการทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน โดยไม่สนใจกับความเดือดร้อนของคนอื่น แบบนี้ผมก็ทำไม่ได้เหมือนกันครับ
ถ้าให้ผมเกลียดทุนนิยมสามานย์ แต่กลับเห็นสิ่งปลูกสร้างสำคัญกว่าชีวิตเพื่อนร่วมชาติเป็นร้อย บาดเจ็บอีกร่วมสองพัน โดยที่คนตายทั้งหมดไม่มีอาวุธสักคน แบบนี้ผมคงรับไม่ได้อีกแหละครับ
ถ้าให้ผมไปเป็นรัฐมนตรียังไม่หนำ ยังจะให้เป็นหนึ่งในคนขับเคลื่อนประเทศ ทั้งๆที่มีคดีก่อการร้ายปิดสนามบินติดตัว แบบนี้ผมคงไม่มีจิตสำนึกพอที่จะเป็นคนดีได้หรอกครับ
และสุดท้ายถ้าจะให้ผมเชื่อทุกอย่างที่ตาเห็น จำทุกอย่างที่หูฟัง แล้วไม่ใช้สมองไตร่ตรองถึงเหตุและผล แบบนี้แล้วผมยอมรับว่า ชาตินี้ผมคงร่วมเป็นคนดีกับเขาไม่ได้อย่างแน่นอนเลยครับ