‘กิตติรัตน์’ เห็นใจคนรู้น้อยพูดถึงเงินดิจิทัล-งบปี67เก็บภาษีต้องพึ่งสิ่งอัศจรรย์
https://www.dailynews.co.th/news/2206116/

"กิตติรัตน์" โพสต์เห็นใจคนความรู้น้อย ย่อมหวังพึ่งสิ่งอัศจรรย์! หลัง "วิษณุ" ถามนโยบายแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทของเพื่อไทย ไม่รู้เอาเงินจากไหน เพราะปี 67 หักงบประจำ-งบผูกพัน-จ่ายหนี้เงินกู้ เหลือเงินให้รัฐบาลหน้าบริหารแค่ 2 แสนล้าน เว้นแต่เก็บภาษีได้เพิ่มโดยอัศจรรย์
 
 
จากกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมือง โดยแวะมาหานโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ของพรรคเพื่อไทย ว่าไม่รู้ว่าเขาคิด เขาทำอย่างไร ไม่รู้ว่าเอาเงินจากไหน โดยที่ประชุม ครม.วันนี้ มีการชี้แจงโดยคณะกรรมการเศรษฐกิจการคลัง ว่า งบประมาณปี 67 กำลังออกนั้น หลังจากหักงบประจำ งบเงินเดือน งบผูกพัน และงบใช้จ่ายหนี้เงินกู้ ยังเหลือวงเงินที่มาบริหารจัดการโครงการใดก็ได้ ประมาณ 2 แสนล้านบาท เว้นแต่ว่าถ้าเก็บภาษีได้เพิ่มโดยอัศจรรย์ หรือได้มาโดยวิธีอื่น (กู้) ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว นั้น

ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน (11เม.ย.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.คลัง ยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า
 
อ่านข่าวนี้ ให้รู้สึกเห็นใจ เพราะเป็นวงการที่ความรู้น้อย ความคิดไม่มี ย่อมต้องหวังพึ่ง “สิ่งอัศจรรย์” แต่ไฉนในวงการที่ความรู้ก็มีมาก แล้วบิดเบือนหลักการจนอธิบายอะไรไม่ได้ อ้างว่าเป็น “สิ่งอัศจรรย์” ช่างไม่น่าเห็นใจ ไม่น่าให้อภัย.
  
https://www.facebook.com/kittirattnofficial/posts/pfbid07JDqihcCBBed49FYezbJsUAExfNyzsScph9EAyzA3dfsSNgLXo8MMi9cC7voB6Pcl
  

---

เสื้อแดงประกาศยึดเมืองปาย
https://siamrath.co.th/n/438517

แกนนำเพรรคเพื่อไทย เปิดตัวผู้สมัคร ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ประกาศปักธงที่เมืองปาย หวังได้สส.เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งประเทศ แขวะ อดีตนายก ฯ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง โวเงินดิจิตอล เหนือกว่าใครและใช้ได้ทุกคนโดยไม่เลือกว่ารวยหรือจน
 
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น.-20.00 น. แกนนำพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วยดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ , ดร.อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ,  ตรีชฎา ศรีธาดา และ นายสมภพ คงความซื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็น สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 ได้เปิดเวทีปราศรัยหาเสียง บริเวณ ตลาดริมปาย ( กาดพุธ ) โดยมีสมาชิกคนเสื้อแดงจำนวนมากรวมไปถึงประชาชนทั่งไปใน อ.ปาย เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง 
 
ในการปราศรัยของแกนนำ ต่างระบุว่า หากต้องการให้มีอนาคตที่ยั่งยืนให้เลือกพรรคเพื่อไทย และให้เป็นแลนด์สไลด์อย่างแท้จริง โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย คิดมองไปถึงอนาคต ถึงมีการออกนโยบายต่าง ๆ  ออกมา โดยเฉพาะเรื่องเงินดิจิตอล หรือวอลเล็ต ถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนในทุกชนชั้น ไม่ได้มีการแบ่งแยกคนจนคนรวย 
 
ดร.อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ปราศรัยระบุจะปักธงเพื่อไทยที่เมืองปาย และหวังว่าชาวเมืองปายและแม่ฮ่องสอนทุกคนจะ ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยให้เลือก นายสมภพ คงความซื่อ หมายเลข 4 และกาพรรคหมายเลข 29 และย้ำว่า วิธีจำให้ได้ง่ายที่สุด คือ เลือกเพื่อไทยเขต 1 เลขในใจคือ 429 แต่ห้ามไปเล่นพนัน
 
การปราศรัยส่วนใหญ่เน้นไปที่การนำเสนอนโยบาย เงินดิจิทัล แจกรายละ 10,000 บาท การถูกปฏิวัติทำให้ประเทศชาติเสียหาย โดยมีการปราศรัยพาดพิงไปถึง นายกรัฐมตรี บิ๊กป้อม เสี่ยหนู อนุทิน ฯ
 
จากการปราศรัยพบว่า แกนนำ ได้พยายามปลุกเร้ามวลชน คนเสื้อแดงใน อ.ปาย ให้เข้มแข็ง และดูเหมือนว่าจะพยายามปักธงให้ได้ สส.เขต 1 ของ จ.แม่ฮ่องสอน ให้ได้รับการเลือกตั้งเป็น สส.

---

 
‘รัสเซีย’ แห่ตั้งรกราก ‘ภูเก็ต’ กว้านซื้อคอนโด-ที่ดิน ลงทุน ‘พูลวิลล่าหรู’ ขายแข่งคนไทย
https://www.matichon.co.th/economy/news_3923237

ภูเก็ตยุคเกิดใหม่หลังโควิด ‘อสังหา-รร.นานาชาติ’ ฮอตปรอทแตก ‘รัสเซีย’ หนีสงคราม ยึดหัวหาดอยู่ยาว กว้านซื้อคอนโด ที่ดินผุดพูลวิลล่าหรูกว่า 1 พันล้าน ขายแข่งผู้ประกอบการไทย ลุ้น ‘จีน’ ทะลักเข้าครึ่งปีหลัง
 
เมื่อวันที่ 12 เมษายน นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตได้รับความสนใจชาวรัสเซียเป็นจำนวนมาก ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มนักลงทุนที่มองหาโอกาสทำธุรกิจ มาจาก 3 ปัจจัยที่สนับสนุน ได้แก่ ต้องการหนีหนาว หนีภาวะสงครามความขัดแย้งในประเทศและคนรุ่นใหม่ที่ต้องการย้ายออกนอกประเทศ มองหาประเทศใหม่อยู่อาศัยหรือต้องการส่งลูกมาศึกษาเล่าเรียน
ซึ่งภูเก็ตเป็นจังหวัดที่คนรัสเซียคุ้นเคยมานาน และจากปัจจัยเหล่านี้ทำให้คนรัสเซียตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก โดยกว้านซื้อคอนโดมิเนียมไว้อยู่อาศัยและซื้อที่ดินโดยร่วมลงทุนกับคนไทยพัฒนาโครงการพูลวิลล่าขาย ซึ่งเริ่มเห็นมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 มีนักลงทุน 3-4 กลุ่มให้บริษัทดำเนินการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000-2,000 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 300-400 ล้านบาทต่อกลุ่มทุน
 
นายณัฏฐากล่าวว่า แต่ละโครงการมีพื้นที่ 20-30 ไร่ ระดับราคา 17-35 ล้านบาท ส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนทำเลโซนท่องเที่ยว เช่น หาดกะตะ หาดกะรน หาดป่าตอง หาดกมลา หาดบางเทา ลากูนา
 
นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากกรุงเทพฯแทบจะทุกรายเข้าไปซื้อที่ดินลงทุนพัฒนาโครงการใหม่กันมากขึ้นในขณะนี้ ทำให้ราคาที่ดินในบางพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 30% เช่น ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จาก 10 ล้านบาทต่อไร่ เป็น 14-15 ล้านบาทต่อไร่ อีกทั้งยังทำให้ธุรกิจโรงเรียนนานนาชาติที่ภูเก็ตกลับมาบูมมากขึ้น ปัจจุบันมีขยายลงทุนเพิ่มจากเดิมมี 2 แห่ง เป็น 5-6 แห่ง เช่น โรงเรียนยูดับเบิลยูซี โรงเรียนบีไอเอส โรงเรียนขจรเกียรติศึกษา
 
“คนรัสเซียซื้ออสังหาในภูเก็ต มี 2 กลุ่ม คือ คนมีเงินเยอะจะซื้อวิลล่า มีเงินไม่มากจะซื้อคอนโดฯ ส่วนใหญ่ซื้ออยู่อาศัยเอง ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตในปัจจุบันเป็นยุครีบอร์นหรือเกิดใหม่ หลังผ่านวิกฤตโควิดระบาด 3 ปี เพราะภูเก็ตเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว
 
และที่ผ่านมาเป็นยุคทองของธุรกิจต่างๆ เชื่อว่ากลุ่มรัสเซียยังเป็นตลาดใหญ่ของภูเก็ตอีก 2-3 ปี ขณะที่พัทยาและหัวหินก็เป็นแหล่งของคนรัสเซียนิยมอยู่อาศัยเช่นกัน แต่ยังไม่เท่ากับภูเก็ต ซึ่งปลายปีที่แล้ววิลลาในภูเก็ตจากทั้งหมด 4,375 ยูนิต ขายได้ 3,595 ยูนิต หรือคิดเป็น 82.1% ” นายณัฏฐากล่าว
 
นายณัฏฐากล่าวว่า สำหรับนักลงทุนจีน ต้องรอครึ่งปีหลังไปแล้ว เพราะแม้จีนจะเปิดประเทศแล้ว แต่ยังไม่เห็นลูกค้าจีนกลับเข้ามาซื้ออสังหาฯที่ภูเก็ตไม่มาก ปัจจุบันเข้ามาท่องเที่ยวเป็นหลักอยู่ที่ 30-40% เมื่อเทียบกับปีก่อนโควิด