สวัสดีครับ เนื่องด้วย ได้มีการขายเหรียญ USDT ผ่าน app OKX ได้ประมาณ 3 วัน จากนั้นได้ทราบต่อมาว่า และรายชื่อตนเองถูกส่งเข้า CFR (เทาเข้ม) รวมถึงบัญชีและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกระงับการทำธุรกรรม ตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CFR) โดยมีรายละเอียด Time line ดังนี้
12 ธันวาคม 2567 - เริ่มทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 3 เจ้า)
13 ธันวาคม 2567 - ทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 10 เจ้า)
19 ธันวาคม 2567 - ทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 2 เจ้า)
20 ธันวาคม 2567 - ทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 1 เจ้า)
*โดยขั้นตอนการขายเหรียญ ได้มีการตรวจสอบ ชื่อบัญชีของผู้ซื้อ เทียบกับสลิปการโอนเงิน ซึ่งตรงกันทุก order*
23 ธันวาคม 2567 - มีข้อความจาก ทางธนาคารว่า บัญชี และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของท่านถูกระงับการทำธุรกรรมตาม พ.ร.ก. ฯ (เริ่มจาก KBank, กรุงศรี, SCB, KTB) ซึ่งจะทำให้ ไม่สามารถเข้าแอพธนาคารได้ ไม่สามารถรับเงินเข้า/ออกได้เลย ทุกบัญชี ทุกธนาคาร

23 ธันวาคม 2567 - ช่วงเย็นได้ติดต่อกับทางธนาคาร KBank และได้ทราบความว่ามีผู้แจ้งเหตุ ผ่าน 1441 รวมถึงทราบหมายเลขเคส, ชื่อตำรวจเจ้าของคดี, เบอร์โทร พร้อมกันนั้นก็ได้รู้ว่าผู้แจ้งเหตุอยู่ที่ภูเก็ต
23-26 ธันวาคม 2567 - พยายามติดต่อ ตำรวจเจ้าของคดีที่ภูเก็ต แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงโทรไปแจ้ง 1441 ก็ได้ความว่า ถ้าติดต่อไม่ได้ ให้ walk in ไปที่ภูเก็ต ซึ่งผมอยู่ระยอง การที่จะไปภูเก็ตไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
27 ธันวาคม 2567 - ช่วงเช้าจากการสืบรายชื่อผู้ที่มาทำธุรกรรมการซื้อขายเหรียญ USDT กับผม พบว่าในทั้งหมด 16 คน มีเพียงคนเดียวที่อยู่ ภูเก็ต และซื้อขายกับผมเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม จึงลองหาเบอร์โทรและติดต่อไป จึงได้ความว่า
นาย A (ผู้ซื้อ) โดน น.ส.B (มิจฉาชีพ) แอด facebook มา และชวนลงทุนผ่านคริปโต และมีการสอนการติดตั้งแอพ OKX, การสมัครบัญชี, การยืนยันตัวตน (ผู้ที่ใช้งาน OKX จะทราบดีว่าการสร้างบัญชีการซื้อขาย Crypto จะต้องมีการยืนยันตัวตน โดยใช้ ID Card/Email/เบอร์โทรศัพท์)
ซึ่งนาย A ได้มีการทำตาม น.ส. B บอก หลังจากยืนยัน และสมัครเสร็จเรียบร้อย
น.ส. B ก็ให้ นาย A เริ่มทำการซื้อเหรียญ USDT แบบ P2P จากคนทั่วไปในแอพ
หลักการซื้อขายก็คือ
1. นาย A จะกดซื้อ USDT ในระบบ จากนั้นก็จะมีข้อความเด้งมาที่ผู้ขาย (ผม)
2. นาย A จะแชทกับผู้ขาย ว่าพร้อมสำหรับการซื้อขาย หรือไม่
3. เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อม นาย A ก็จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขาย และกดยืนยันในระบบ พร้อมแนบ Slip การโอนเงิน
4. ผู้ขาย จะทำการเช็คยอดเงินที่เข้าบัญชี และชื่อตรวจสอบว่า ชื่อ Account ผู้ซื้อ กับ ชื่อผู้โอนเงินใน Slip ตรงกัน ก็จะกดปล่อยเหรียญ
5. เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ เหรียญจากผู้ขาย ก็จะถูกโอนไปที่กระเป๋าของผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว
(สืบทราบมาว่า มีผู้ขายทั้งหมด 18 คน รวมตัวผมเองด้วย ยอดเฉพาะตัวผม 10,000 บาท แต่ยอดรวมทั้งหมด 18 คน ประมาณ 600,000 บาท)
หลังจากที่นาย A ทำการซื้อเหรียญ USDT เรียบร้อยแล้ว ทางน.ส.B ก็จะให้โอนเหรียญจากกระเป๋าของนาย A ไปหา น.ส.B ผ่าน (Crypto.com) ซึ่งในขั้นตอนนี้ ทาง น.ส.B น่าจะโน้มน้าวนาย A ตั้งแต่การซื้อเหรียญ การโอนเหรียญไปกระเป๋าของ น.ส.B ด้วยเทคนิคต่างๆ รวมกับนาย A ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง Crypto จึงทำให้ถูกหลอก
หลังจากที่ นาย A เริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองถูกหลอก จึงได้แจ้งตำรวจที่ภูเก็ต และโทรแจ้งผ่าน 1441 ด้วยความไม่รู้ หรือความไม่เข้าใจ อะไรก็ตามแต่ ทำให้ผู้ที่ทำการขายเหรียญให้กับนาย A (ทั้งหมด 18 คน รวมผมด้วย) ถูกอายัดบัญชีทั้งหมด ทุกคน ทุกธนาคาร
27 ธันวาคม 2567 - ช่วงบ่าย สามารถติดต่อตำรวจเจ้าของคดีที่ภูเก็ตได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ส่งเรื่องไปให้ สอท. Cyber 5 (สุราษฎร์ธานี) เรียบร้อยแล้ว ทางภูเก็ตไม่มีอำนาจหน้าที่ในคดีนี้แล้ว และให้ไปติดต่อ สอท. เองเลย (โดยให้ชื่อร้อยเวรเจ้าของคดี และเบอร์โทร)
28 ธันวาคม 2567 - ยังไม่สามารถติดต่อตำรวจเจ้าของคดีที่ สอท.(สุราษฎร์ธานี) ได้
ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการสืบเอง และสอบถามผู้แจ้งความทั้งสิ้น ไม่ได้มีหมายเรียก หรือมีการชี้แจงสาเหตุการอายัดบัญชีจากตำรวจทั้งสิ้น
*Update 29 ธันวาคม 2567* ขออัพเดทรายละเอียดเพิ่มเติมครับ หลักการที่ผมใช้คือ ใช้เงิน THB จากบัญชีเงินเดือนไปซื้อ USDT จาก Bitkub จากนั้นจึงโอนเหรียญไปยัง OKX ผ่าน chain ต่างๆ เพื่อทำการ P2P ครับ (ยอดการทำธุรกรรม ระหว่างผม กับ นาย A มีทั้งสิ้นจำนวน 10,000 บาท)
*Update 15 มกราคม 2568* เข้าพบทาง ตำรวจ Cyber (สอท.) เพื่อชี้แจ้งข้อมูล ทางตำรวจเข้าใจดี และได้กันไว้เป็นพยาน ซึ่งทางคุณตำรวจแจ้งว่า จะทำการส่งเรื่องปลดอายัดให้กับทาง ปปง. เพื่อพิจารณาทำการปลดอายัดต่อไป ซึ่งโดยปกติแล้ว มักจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน
*Update 27 มกราคม 2568* บัญชียังถูกอายัดอยู่
จึงอยากสอบถามแนวทางจากทางเพื่อนๆ ว่า อย่างเคสกรณีนี้ ผมควรทำอย่างไรต่อ เนื่องจากปัจจุบันประสบปัญหาเป็นอย่างมาก เพราะบัญชีธนาคารถูกอายัดทั้งหมด และเงินทั้งหมดตั้งแต่ทำงานมา ก็อยู่ในบัญชีทั้งหมด ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงเงินเดือนที่ไม่สามารถรับได้อีก
ถ้าท่านใดคิดว่าอยู่ในเคสเดียวกัน เป็น 17 ท่านที่เหลือ ที่ประสบปัญหา และอยู่ในคดีเดียวกันกับผม (
Case ID : W67122325XXX, 25671223SCB000XX, มีผู้ขาย 18 เจ้า, ภูเก็ต, ยอดรวมประมาณ 600,000 THB) ผมรบกวนช่วยติดต่อกลับมา หรือ DM กลับมาเพื่อรวมกลุ่มปรึกษาหารือกันหน่อยครับ
โดนอายัดทุกบัญชี จากการขาย USDT แบบ P2P ผ่าน OKX (ตามหาผู้ร่วมชะตากรรม)
12 ธันวาคม 2567 - เริ่มทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 3 เจ้า)
13 ธันวาคม 2567 - ทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 10 เจ้า)
19 ธันวาคม 2567 - ทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 2 เจ้า)
20 ธันวาคม 2567 - ทำการขาย เหรียญ USDT ผ่าน OKX (มีผู้มาซื้อ 1 เจ้า)
*โดยขั้นตอนการขายเหรียญ ได้มีการตรวจสอบ ชื่อบัญชีของผู้ซื้อ เทียบกับสลิปการโอนเงิน ซึ่งตรงกันทุก order*
23 ธันวาคม 2567 - มีข้อความจาก ทางธนาคารว่า บัญชี และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของท่านถูกระงับการทำธุรกรรมตาม พ.ร.ก. ฯ (เริ่มจาก KBank, กรุงศรี, SCB, KTB) ซึ่งจะทำให้ ไม่สามารถเข้าแอพธนาคารได้ ไม่สามารถรับเงินเข้า/ออกได้เลย ทุกบัญชี ทุกธนาคาร
23 ธันวาคม 2567 - ช่วงเย็นได้ติดต่อกับทางธนาคาร KBank และได้ทราบความว่ามีผู้แจ้งเหตุ ผ่าน 1441 รวมถึงทราบหมายเลขเคส, ชื่อตำรวจเจ้าของคดี, เบอร์โทร พร้อมกันนั้นก็ได้รู้ว่าผู้แจ้งเหตุอยู่ที่ภูเก็ต
23-26 ธันวาคม 2567 - พยายามติดต่อ ตำรวจเจ้าของคดีที่ภูเก็ต แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงโทรไปแจ้ง 1441 ก็ได้ความว่า ถ้าติดต่อไม่ได้ ให้ walk in ไปที่ภูเก็ต ซึ่งผมอยู่ระยอง การที่จะไปภูเก็ตไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
27 ธันวาคม 2567 - ช่วงเช้าจากการสืบรายชื่อผู้ที่มาทำธุรกรรมการซื้อขายเหรียญ USDT กับผม พบว่าในทั้งหมด 16 คน มีเพียงคนเดียวที่อยู่ ภูเก็ต และซื้อขายกับผมเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม จึงลองหาเบอร์โทรและติดต่อไป จึงได้ความว่า
นาย A (ผู้ซื้อ) โดน น.ส.B (มิจฉาชีพ) แอด facebook มา และชวนลงทุนผ่านคริปโต และมีการสอนการติดตั้งแอพ OKX, การสมัครบัญชี, การยืนยันตัวตน (ผู้ที่ใช้งาน OKX จะทราบดีว่าการสร้างบัญชีการซื้อขาย Crypto จะต้องมีการยืนยันตัวตน โดยใช้ ID Card/Email/เบอร์โทรศัพท์)
ซึ่งนาย A ได้มีการทำตาม น.ส. B บอก หลังจากยืนยัน และสมัครเสร็จเรียบร้อย
น.ส. B ก็ให้ นาย A เริ่มทำการซื้อเหรียญ USDT แบบ P2P จากคนทั่วไปในแอพ
หลักการซื้อขายก็คือ
1. นาย A จะกดซื้อ USDT ในระบบ จากนั้นก็จะมีข้อความเด้งมาที่ผู้ขาย (ผม)
2. นาย A จะแชทกับผู้ขาย ว่าพร้อมสำหรับการซื้อขาย หรือไม่
3. เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อม นาย A ก็จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขาย และกดยืนยันในระบบ พร้อมแนบ Slip การโอนเงิน
4. ผู้ขาย จะทำการเช็คยอดเงินที่เข้าบัญชี และชื่อตรวจสอบว่า ชื่อ Account ผู้ซื้อ กับ ชื่อผู้โอนเงินใน Slip ตรงกัน ก็จะกดปล่อยเหรียญ
5. เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ เหรียญจากผู้ขาย ก็จะถูกโอนไปที่กระเป๋าของผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว
(สืบทราบมาว่า มีผู้ขายทั้งหมด 18 คน รวมตัวผมเองด้วย ยอดเฉพาะตัวผม 10,000 บาท แต่ยอดรวมทั้งหมด 18 คน ประมาณ 600,000 บาท)
หลังจากที่นาย A ทำการซื้อเหรียญ USDT เรียบร้อยแล้ว ทางน.ส.B ก็จะให้โอนเหรียญจากกระเป๋าของนาย A ไปหา น.ส.B ผ่าน (Crypto.com) ซึ่งในขั้นตอนนี้ ทาง น.ส.B น่าจะโน้มน้าวนาย A ตั้งแต่การซื้อเหรียญ การโอนเหรียญไปกระเป๋าของ น.ส.B ด้วยเทคนิคต่างๆ รวมกับนาย A ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง Crypto จึงทำให้ถูกหลอก
หลังจากที่ นาย A เริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองถูกหลอก จึงได้แจ้งตำรวจที่ภูเก็ต และโทรแจ้งผ่าน 1441 ด้วยความไม่รู้ หรือความไม่เข้าใจ อะไรก็ตามแต่ ทำให้ผู้ที่ทำการขายเหรียญให้กับนาย A (ทั้งหมด 18 คน รวมผมด้วย) ถูกอายัดบัญชีทั้งหมด ทุกคน ทุกธนาคาร
27 ธันวาคม 2567 - ช่วงบ่าย สามารถติดต่อตำรวจเจ้าของคดีที่ภูเก็ตได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ส่งเรื่องไปให้ สอท. Cyber 5 (สุราษฎร์ธานี) เรียบร้อยแล้ว ทางภูเก็ตไม่มีอำนาจหน้าที่ในคดีนี้แล้ว และให้ไปติดต่อ สอท. เองเลย (โดยให้ชื่อร้อยเวรเจ้าของคดี และเบอร์โทร)
28 ธันวาคม 2567 - ยังไม่สามารถติดต่อตำรวจเจ้าของคดีที่ สอท.(สุราษฎร์ธานี) ได้
ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการสืบเอง และสอบถามผู้แจ้งความทั้งสิ้น ไม่ได้มีหมายเรียก หรือมีการชี้แจงสาเหตุการอายัดบัญชีจากตำรวจทั้งสิ้น
*Update 29 ธันวาคม 2567* ขออัพเดทรายละเอียดเพิ่มเติมครับ หลักการที่ผมใช้คือ ใช้เงิน THB จากบัญชีเงินเดือนไปซื้อ USDT จาก Bitkub จากนั้นจึงโอนเหรียญไปยัง OKX ผ่าน chain ต่างๆ เพื่อทำการ P2P ครับ (ยอดการทำธุรกรรม ระหว่างผม กับ นาย A มีทั้งสิ้นจำนวน 10,000 บาท)
*Update 15 มกราคม 2568* เข้าพบทาง ตำรวจ Cyber (สอท.) เพื่อชี้แจ้งข้อมูล ทางตำรวจเข้าใจดี และได้กันไว้เป็นพยาน ซึ่งทางคุณตำรวจแจ้งว่า จะทำการส่งเรื่องปลดอายัดให้กับทาง ปปง. เพื่อพิจารณาทำการปลดอายัดต่อไป ซึ่งโดยปกติแล้ว มักจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน
*Update 27 มกราคม 2568* บัญชียังถูกอายัดอยู่
จึงอยากสอบถามแนวทางจากทางเพื่อนๆ ว่า อย่างเคสกรณีนี้ ผมควรทำอย่างไรต่อ เนื่องจากปัจจุบันประสบปัญหาเป็นอย่างมาก เพราะบัญชีธนาคารถูกอายัดทั้งหมด และเงินทั้งหมดตั้งแต่ทำงานมา ก็อยู่ในบัญชีทั้งหมด ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงเงินเดือนที่ไม่สามารถรับได้อีก
ถ้าท่านใดคิดว่าอยู่ในเคสเดียวกัน เป็น 17 ท่านที่เหลือ ที่ประสบปัญหา และอยู่ในคดีเดียวกันกับผม (Case ID : W67122325XXX, 25671223SCB000XX, มีผู้ขาย 18 เจ้า, ภูเก็ต, ยอดรวมประมาณ 600,000 THB) ผมรบกวนช่วยติดต่อกลับมา หรือ DM กลับมาเพื่อรวมกลุ่มปรึกษาหารือกันหน่อยครับ