“พีระพันธุ์” ผุดไอเดียสั่งศึกษาแปลงพลังน้ำเป็นพลังงานไฟฟ้าแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอย่างยั่งยืน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมว่า วิธีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนอีกแนวทางหนึ่ง คือ การแปลงพลังงานน้ำให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยชะลอกระแสน้ำไม่ให้สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนแล้ว ความแรงของกระแสน้ำยังสามารถนำไปผลิตไฟฟ้าในต้นทุนต่ำเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าของครัวเรือน และยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับใช้ในการเกษตรได้ด้วย
จากการไปตรวจเยี่ยมและพบปะประชาชนครั้งนี้ ได้เห็นว่าบางพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมากและไหลแรงสามารถนำกระแสน้ำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอย่างยั่งยืน และสามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำใช้ในการเพาะปลูก อีกทั้งยังช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำมีต้นทุนถูกกว่าการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติหลายเท่า โดยตนได้มอบหมายให้ทางพลังงานจังหวัดศึกษาข้อมูลรายละเอียดและประสานงานกับส่วนกลางเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ต่อไป
วันที่ 19 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น. นายอำพร วายลม พลังงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางสาวธนิสร ตุ่นแก้ว นักวิชาการพลังงานปฏิบัติการ เข้าร่วมประชุมและต้อนรับรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ดร.ธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล) และคณะ ในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเขตตรวจราชการที่ 15 "โครงการขยายผลในพื้นที่บ้านหนองเขียวและกลุ่มบริวาร ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน กิจกรรม : การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานในพื้นที่ศูนย์ขยายผลโครงการพัฒนาตามพระราชดำริบ้านหนองเขียว (ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดรวม 10 kW และระบบกักเก็บพลังงานขนาด 10 kWh พร้อมห้องเย็น ขนาด 2.4 x 3.6 x 2.4 เมตร จำนวน 1 ระบบ และติดตั้งระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 6.0 x 8.2 เมตร จำนวน 2 ระบบ และโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่สายส่งเข้าไม่ถึง (Off-Grid) บ้านแม่หาด หมู่ที่ 7 ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน"
Cr.ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
รายงานข่าว : นางสาวจันทรกานต์ ธูปเทียนมณี
แม่ฮ่องสอน #แปลงพลังงานน้ำเป็นไฟฟ้า #ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์10KWและระบบกักเก็บพลังงาน 10KWH
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมว่า วิธีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนอีกแนวทางหนึ่ง คือ การแปลงพลังงานน้ำให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยชะลอกระแสน้ำไม่ให้สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนแล้ว ความแรงของกระแสน้ำยังสามารถนำไปผลิตไฟฟ้าในต้นทุนต่ำเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าของครัวเรือน และยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับใช้ในการเกษตรได้ด้วย
จากการไปตรวจเยี่ยมและพบปะประชาชนครั้งนี้ ได้เห็นว่าบางพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมากและไหลแรงสามารถนำกระแสน้ำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอย่างยั่งยืน และสามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำใช้ในการเพาะปลูก อีกทั้งยังช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำมีต้นทุนถูกกว่าการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติหลายเท่า โดยตนได้มอบหมายให้ทางพลังงานจังหวัดศึกษาข้อมูลรายละเอียดและประสานงานกับส่วนกลางเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ต่อไป
วันที่ 19 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น. นายอำพร วายลม พลังงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางสาวธนิสร ตุ่นแก้ว นักวิชาการพลังงานปฏิบัติการ เข้าร่วมประชุมและต้อนรับรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ดร.ธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล) และคณะ ในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเขตตรวจราชการที่ 15 "โครงการขยายผลในพื้นที่บ้านหนองเขียวและกลุ่มบริวาร ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน กิจกรรม : การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานในพื้นที่ศูนย์ขยายผลโครงการพัฒนาตามพระราชดำริบ้านหนองเขียว (ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดรวม 10 kW และระบบกักเก็บพลังงานขนาด 10 kWh พร้อมห้องเย็น ขนาด 2.4 x 3.6 x 2.4 เมตร จำนวน 1 ระบบ และติดตั้งระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 6.0 x 8.2 เมตร จำนวน 2 ระบบ และโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่สายส่งเข้าไม่ถึง (Off-Grid) บ้านแม่หาด หมู่ที่ 7 ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน"
Cr.ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน
รายงานข่าว : นางสาวจันทรกานต์ ธูปเทียนมณี