JJNY : อ๋อม สกาวใจ ส่งกำลังใจ แม้ไม่ชอบ│“พิธา”ควง“ปิยบุตร” ขึ้นซาเล้งแห่หาเสียง│ปธ.ญาติวีรชนสงสัย ‘ป้อม’│สศช.เตือนรัฐ

อ๋อม สกาวใจ ส่งกำลังใจให้ 'นายก' ขอให้หายป่วยไวไว ถึงแม้ฉันไม่ชอบคุณ! 
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7543360
 
 
ถึงแม้ฉันไม่ชอบคุณ! อ๋อม สกาวใจ ส่งกำลังใจให้ ‘นายก’ ขอให้หายป่วยไวไว เพื่อกลับมาสู้กันแบบเป็นธรรม พร้อมฝากสารถึงประยุทธ์หวังว่าคุณจะคิดและเข้าใจ
 
ส่งกำลังใจให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นจำนวนมาก หลังจากเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.65) นายกได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจดูอาการปวดบวมที่มือด้านขวา จนพบว่า มือขวามีอาการบวมอักเสบจนต้องใส่เฝือกอ่อน และนอนรพ.1 คืน ทำให้ต้องงดภารกิจต่างจังหวัด 5-7 วัน แต่ภารกิจที่ทำเนียบยังปฎิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ
  
ล่าสุด (5 มี.ค.65) อ๋อม สกาวใจ นักแสดงชื่อดังและปัจจุบันผันตัวลงสู่สนามการเมืองเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสะพานสูง พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ส่งให้กำลังให้นายกรัฐมนตรี หลังจากทราบข่าวอาการป่วยของนายก พร้อมฝากข้อความถึง“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
  
โดยอ๋อม เผยว่า 

“ถึงคุณประยุทธ์ ได้ข่าวว่าคุณป่วย ดิฉันขอให้คุณหายป่วยไวไวนะคะ ถึงแม้ว่าส่วนตัวดิฉันจะไม่ชอบความคิดการทำงาน การวางตัว วุฒิภาวะและอีกหลายๆเรื่องของคุณ แต่ฉันอยากให้คุณหายป่วยไวไวเพื่อกลับมาสู้กันแบบเป็นธรรม ในการแข่งขันครั้งหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้นและหวังว่าคุณเองก็จะลงสู้ด้วยกติกาที่ “เป็นธรรม” เช่นกัน
 
ฉันไม่ชอบคุณเลยบอกตรงๆ แต่ก็ยังหวังให้คุณหายป่วย ฉันก็อยากจะฝากคุณเรื่องน้องๆลูกๆหลานๆที่เขาเรียกร้องสิทธิ จนตัวเองต้องป่วยเช่นกัน หวังว่าคุณจะคิดและเข้าใจ หายป่วยไวไวนะจ๊ะ”

https://www.instagram.com/p/CpXg2cXBQy7/



“พิธา” ควง “ปิยบุตร” ขึ้นซาเล้งแห่หาเสียง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_511324/

“พิธา” ควง “ปิยบุตร” ขึ้นซาเล้งแห่หาเสียง ดัน ทนายป๊อก ย้ำแชมป์ขอนแก่นเขต 1 ไม่หวั่นแบ่งเขตเปลี่ยนไปมา ยืนยันคำเดิม ครม. ไหนมีประวิตร-ประยุทธ์ ไม่มี ก้าวไกล ร่วมด้วยแน่นอน
 
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล และนายวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมแห่หาเสียง โดยใช้ขบวนรถสามล้อและมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างแห่ไปรอบตัวเมืองขอนแก่น ทักทายประชาชน แนะนำตัวผู้สมัครและนโยบายของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง โดยได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวขอนแก่นตลอดสองข้างทางเป็นอย่างดี
 
ก่อนเริ่มขบวนแห่ ทั้ง 3 คนร่วมให้สัมภาษณ์และตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ซึ่งถามถึงความมั่นใจของพรรคก้าวไกลต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยนายปิยบุตร ระบุว่า จากการติดตามผลสำรวจคะแนนนิยมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ว่าคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลยังคงอยู่ เมื่อ 4 ปีที่แล้วทุกคนก็ปรามาสพรรคอนาคตใหม่ว่า จะไม่ได้คะแนนนิยม แต่ก็คว้าชัยชนะมาได้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถึง 88 ที่นั่ง รวมทั้งพื้นที่ขอนแก่นเขต 1 ด้วย มาครั้งนี้ ก็เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะยังคงเก็บชัยชนะได้
 
ด้านนายพิธา ระบุว่า ในการเลือกตั้งรอบนี้ พรรคก้าวไกลตั้งเป้าหมายว่าจะต้องได้จำนวน ส.ส.เขตมากขึ้น ให้มี ส.ส.เขตในทุกภาค และต้องมากกว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงจะต้องได้คะแนนนิยมรวม หรือป๊อปปูลาร์โหวต มากขึ้นด้วย เชื่อว่าเป็นไปได้ แม้วิธีการคำนวณคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจต่างกัน และจะพยายามทำให้ดีที่สุด
 
แต่หากจะมีสิ่งใดที่ยังเป็นข้อกังวลอยู่บ้างก็คงจะมีการเขียนเขตที่ไม่แน่นอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และการไม่มีระบบรายงานผลแบบเรียลไทม์ การใช้เวลาราชการและการใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือในการหาเสียงโดยฝ่ายรัฐบาล ตนจึงขอเรียกร้องไปยัง กกต. ให้จัดการการเลือกตั้งอย่างมีระบบ มีความชัดเจน มีบรรทัดฐานที่ต่อเนื่อง และไม่สร้างความสับสนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
  
ส่วนถึงกรณีข่าวลือที่พรรคร่วมฝ่ายค้านหลายพรรค มีแนวโน้มจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ พรรคก้าวไกลจะยังคงยืนยันคำเดิมหรือไม่ว่าจะไม่ร่วม นายพิธา ได้ย้ำคำเดิมว่าพรรคก้าวไกลไม่อาจร่วมกับรัฐบาลที่มีส่วนผสมของพรรคทหารจำแลงได้เด็ดขาด และไม่ร่วมกับ ครม.ใดก็ตาม ที่มีส่วนผสมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหรือพล.อ.ประวิตร จะไม่มีตนและพรรคก้าวไกลอยู่ในนั้นแน่นอน


 
ปธ.ญาติวีรชน สงสัย ‘บิ๊กป้อม’ จะข้ามปมขัดแย้งอย่างไร หวั่นใจแค่ ‘ลิเกปรองดอง’ แนะลุยรูปธรรม อย่าทำแค่หาเสียง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3856832
  
ปธ.ญาติวีรชนพฤษภา’35 ข้องใจ”บิ๊กป้อม”จะก้าวข้ามความขัดแย้งอย่างไร หวั่นแค่ลิเกปรองดอง
 
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 อดีต กรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ประกาศยืนยันต่อการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ว่า จะก้าวข้ามความขัดแย้งนำสังคมไทยออกจากกับดักความคิด 2 ขั้ว ว่า แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนและแนวทางของคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ผู้เสียหายจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่มีความมุ่งหมายอยากเห็นสังคมไทยปราศจากความขัดแย้งทางความคิด ประชาชนทุกฝ่าย มีความรักสามัคคี อยู่ร่วมกันอย่างมีสันติสุข แต่ก็ยังมีความข้องใจสงสัยว่า พรรคพลังประชารัฐ โดยพล.อ. ประวิตร มีความตั้งใจและจริงใจที่จะทำให้สังคมไทยเกิดความสามัคคีสมานฉันท์แค่ไหน ที่ผ่านมาญาติวีรชนพฤษภาฯ อโหสิกรรมทุกฝ่าย จึงยอมให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่งตั้งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สปช. ที่มีดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธานฯ
  
นายอดุลย์ กล่าวว่า ในปี พ.ศ 2558 คณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง ได้รับฟังและทำความเข้าใจกับผู้เสียหายทุกฝ่าย ทั้งกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ โดยศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศด้วย แล้วทำรายงานการศึกษาและข้อเสอแนะแนวทางการสร้างความปรองดอง  ต่อ สปช. ในที่สุดที่ประชุม สปช. ลงมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ จากนั้นประธานสปช.(นายเทียนฉาย กีระนันท์) ได้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) แต่รัฐบาลคสช.โดยการนำของ “กลุ่ม3.ป.” กลับยกเลิกสปช.ไม่ต้องการให้มีการปรองดองเกิดขึ้น เป็นเหตุให้ความขัดแย้งขยายลุกลามถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ จนสังคมไทยแตกแยกร้าวลึกไร้ทางเยียวยาจนถึงบัดนี้
 
เมื่อ พล.อ. ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาพูดถึงความสามัคคี ก้าวข้ามความขัดแย้ง จะออกจากกับดักความคิด 2 ขั้ว คณะกรรมการญาติวีรชนฯ จึงมีความข้องใจสงสัยและไม่วางใจว่ามีความจริงใจที่จะทำตามคำมั่นสัญญาประชาคมหรือไม่ แม้ในหลักการจะเห็นด้วยและสนับสนุนก็ตาม ดังนั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์ถึงความจริงใจ พล.อ.ประวิตร ต้องตอบเรามาก่อนว่า รายงานการศึกษาและข้อเสอแนะแนวทางการสร้างความปรองดอง ของสปช. ที่ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ เป็นกรรมการด้วย ซึ่งประธานสปช.เสนอให้รัฐบาลแล้ว ไปซุกไว้ที่ไหน ทำไมไม่ดำเนินการตามข้อเสนอแนะ ไม่ใช่มาพูดเพียงเพื่อหาเสียงแล้วหลอกแกนนำผู้ชุมนุมอีกตามเคย กลายเป็น ลิเกปรองดอง ที่ไร้ความน่าเชื่อถือ แต่หากมีความจริงใจและสามารถพิสูจน์ได้ว่าต้องการทำให้มีความสามัคคีของคนในชาติจริงๆ ญาติวีรชนพฤษภา’35 ยืนยันว่าจะสนับสนุนทุกรูปแบบเพื่อให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ตามวัฒนธรรมประเพณีของไทยแต่โบราณ” นายอดุลย์ กล่าว
 
นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า หากพล.อ.ประวิตร มีความจริงใจ จะสร้างความปรองดอง ต้องนำเสนออย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ไม่ใช่แค่นามธรรมมาทำในช่วงการหาเสียง และต้องให้คำมั่นสัญญาประชาคม ของพรรคพลังประชารัฐ ต่อประชาชนทุกหมู่เหล่าว่าเมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วจะดำเนินการโดยมิชักช้า โดยนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปรอง สปช.มาพิจารณา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่