เกษตรกรน้ำตาตก ราคาหมูหน้าคอกเหลือกก.ละ 80 แต่อาหารเลี้ยงสุกรพุ่งไม่หยุด (คลิป)
https://www.matichon.co.th/region/news_3844568
สุดเศร้า! เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรน้ำตาตก ราคาหมูหน้าคอกเหลือกิโลละ 80 บาท แต่อาหารสุกรราคาพุ่งไม่หยุด (คลิป)
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกกรมากที่สุดทั้งรายเล็กรายใหญ่ หลังพบว่าราคาสุกรหน้าคอกของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมีราคาลดฮวบ จากราคากิโลกรัมละ 110 – 115 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น ซึ่งลดลงจากเดิมถึงกิโลกรัมละ 30 – 35 บาท แต่เกษตรกรก็ต้องจำใจยอมจับขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากถึงกำหนดจับขาย หากเลี้ยงไว้ต้องกินทุนค่าอาหารเพิ่มขึ้นอีก ประกอบกับปัจจุบันค่าอาหารหมูนั้น มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วยเช่นกัน
โดย นาย
ธีรวัฒน์ ยิ้มช้อย อายุ 40 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า ตนเลี้ยงสุกรเป็นอาชีพมา 12 ปีแล้ว ปีนี้ถือว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาอาหารสุกรแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้ราคาหน้าคอกอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 – 115 บาท ถือว่ามีกำไรอยู่กันได้ แต่ตอนนี้ ราคาลดฮวบลงมาเหลือกิโลกรัมละ 80 บาท และยังมีแนวโน้มลดต่ำดิ่งลงไปถึงกิโลกรัมละ 70 บาทอีกด้วย ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อน ต้องแบกรับต้นทุนและจำใจยอมขาดทุนกัน อย่างตนเลี้ยงสุกรครั้งละ 20 ตัว มีต้นทุนเป็นค่าพันธุ์หมูตัวละ 2,500 บาท 20 ตัว เป็นเงิน 50,000 บาท ต้องเลี้ยงเป็นเวลา 4 เดือน จึงจะจับขายได้ เมื่อคิดค่าอาหารหมูแล้ว 1 ตัว ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ จะมีทุนทั้งค่าตัวและค่าอาหารรวม 8,000 – 8,500 บาท 20 ตัวจะมีต้นทุนรวม 160,000 บาท
ซึ่งตอนนี้ก็ถึงกำหนดขายแล้ว ราคาขายได้เพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น โดยหมูแต่ละตัวเฉลี่ยจะมีน้ำหนัก 110 กิโลกรัม 1 ตัวจะมีราคา 8,800 บาท ถ้า 20 ตัว ราคารวมแล้ว ขายได้เพียง 176,000 บาท แต่มีต้นทุนถึง 160,000 บาท เหลือกำไรเพียง 16,000 บาท
ถ้าคิดเป็นตัวจะขายเฉลี่ยตัวละ 8,800 บาท ได้กำไรตัวละ 300 – 500 บาท ถือว่าไม่ได้กำไร เพราะต้องเสียค่าแรง ค่ำน้ำ ค่าไฟ และเสียเวลาถึง 4 เดือน หากเป็นราคาก่อนหน้านี้จับขายได้กิโลกรัมละ 110 – 115 บาท ต่อตัวจะขายได้เฉลี่ยตัวละ 12,000 – 12,500 บาท ซึ่งกำไรจากที่เคยได้ตัวละ 3,500 – 3,700 บาท ถ้ารวม 20 ตัวที่เลี้ยงไว้จะจับขายได้รวมเฉลี่ย 240,000 – 250,000 บาท เท่ากับกำไรหายไป รวมกว่า 65,000 บาท
แต่ก็จำเป็นต้องจับขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะราคามีแนวโน้มดิ่งต่ำลงอีก 70 บาทต่อกิโลกรัม จึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะรอราคา เนื่องจากต้องมีต้นทุนเป็นค่าอาหารสุกรอีก อยากจะวอนผู้เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องราคาอาหารสุกร หากราคาอาหารยังแพงขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะต้องหยุดเลี้ยงสุกรไปก่อน
"สมชาย" นำ เพื่อไทย ย่ำ เขตดอนเมือง หวัง กทม.แลนด์สไลด์ มั่นใจ "อิ๊งค์"
https://www.thairath.co.th/news/politic/2639695
"สมชาย" อดีตนายกฯ นำทีม เพื่อไทย ย่ำ เขตดอนเมือง หวัง กทม.แลนด์สไลด์ มั่นใจ "อิ๊งค์" เป็นนายกฯ ได้ดีกว่านายกฯ ที่ผ่านมาแน่ ด้าน "มาดามนครบาล" เย้ย ไม่กลัว "ลุงป้อม 700" เพื่อไทย มี 600 กับ 25,000
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่เขตดอนเมือง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นาย
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นาย
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นาง
พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นาย
วราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นาย
วิชาญ มีนชัยนันท์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นาย
ดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พร้อมด้วย นาย
สุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ทำพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง
โดย นาย
สมชาย กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะต้องชิงพื้นที่กับอดีตผู้สมัครของพรรค ว่า เราพรรคเพื่อไทยตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม สำหรับเขตดอนเมือง มีการแข่งขันกันสูงมาตลอด ครั้งนี้ก็เป็นธรรมดาที่มีคนอาสามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน แม้สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปแต่เราพรรคเพื่อไทยยังยืนหยัด เราดำรงอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยอย่างมั่นคง และสรรหาผู้ที่มีความสามารถ จริงจัง และจริงใจกับพี่น้องประชาชน มาดูแลประชาชนให้ได้ เราจึงเลือก นายสุธนพจน์
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจหรือไม่ว่าจะแลนด์สไลด์อยู่ นาย
สมชาย กล่าวว่า มั่นใจ เรามั่นใจในนโยบาย เราให้คำมั่นสัญญากับประชาชนแล้ว ว่าเราจะมารับใช้เขา และวันนี้เราอยากให้เราแลนด์สไลด์ในพื้นที่ กทม.ด้วย เราคิดว่า เราอยากได้เสียง ส.ส.มาสนับสนุนให้เราจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อให้ปณิธานและความตั้งใจในการทำเพื่อพี่น้องประชาชนนั้นเป็นไปได้ ซึ่งหากเราได้ผู้แทนน้อย ความตั้งใจเหล่านี้ก็จะเป็นไปได้ยาก แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะท้อถอย วันนี้เราได้ นายสุธนพจน์ มาร่วมอุดมการณ์ ซึ่งเขาไม่เคยด่างพร้อย เรามั่นใจว่า ผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ของพรรคเพื่อไทยคนนี้เป็นคนดีแน่นอน เราจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง
เมื่อถามว่า เมื่อวานมีการประกาศว่า น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นว่าที่นายกฯ ของพรรคเพื่อไทย มีคำแนะนำอะไรให้ น.ส.
แพทองธาร หรือไม่ นาย
สมชาย กล่าวว่า ท่านเก่งอยู่แล้ว คงไม่ต้องแนะนำอะไร ตนคิดว่า ท่านพร้อมรับจากพี่น้องประชาชนทุกคน เพราะผู้นำที่แท้จริงต้องเปิดหูเปิดตาให้กว้างขวาง รับทั้งคำแนะนำ และคำชี้แนะเพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งมีคนถามตนว่า น.ส.
แพทองธาร เป็นนายกฯ ได้หรือไม่ ตนเรียนว่า ยังไงก็ดีกว่านายกฯ ที่ผ่านมาแน่นอน ทั้งนี้ อายุไม่ใช่อุปสรรค รัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติไว้อย่างชัดเจนแล้ว เมื่อคุณสมบัติพร้อมแปลว่าผู้ร่างกติกาเห็นแล้วว่า เขาสามารถทำหน้าที่ตรงนั้นได้
เมื่อถามว่า เมื่อเทียบกับ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คิดว่าเป็นอย่างไร นาย
สมชาย กล่าวติดตลกว่า อายุน้อยกว่า แต่ความสามารถน่าจะมากกว่า
เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ เตรียมประกาศยุบสภาวันที่ 15 มีนาคม มองว่าอย่างไร นาย
สมชาย กล่าวว่า การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ จะยุบวันไหน เพื่อไทยไม่ห่วง ท่านจะยุบวันไหนก็ได้ ไม่ยุบก็ได้ เราพร้อมสู้เสมอ เราไม่ไปงอแงกับกติกาที่จะมาเอารัดเอาเปรียบเราเล็กๆ น้อยๆ ตรงนั้น เพื่อไทยพร้อมหมด ขอให้ประชาชนมั่นใจ
เมื่อถามว่า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลท่านจะเข้ามาช่วยงานหรือไม่ นาย
สมชาย กล่าวว่า ตอนนี้ก็ช่วยอยู่ พรรคเพื่อไทยไม่แย่งตำแหน่งกัน เราเอาคนที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดในการทำงานเพื่อประชาชน มารับใช้ประชาชน
ด้าน นาง
พวงเพ็ชร กล่าวถึงการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงที่จะมีผู้สมัครหลายพรรคชิงพื้นที่ กทม.ว่า ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย เพราะนโยบายของพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ปัญหาในปัจจุบันของประเทศได้ ตนอยากให้พี่น้องประชาชนมอบความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยได้แลนด์สไลด์ ได้จัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า เจอนโยบายลุงป้อม 700 กังวลหรือไม่ นาง
พวงเพ็ชร กล่าวว่า จะ 700 หรือจะ 1000 ก็ไม่กังวล เราไม่ได้สนใจ เพราะของเรามี 600 กับ 25,000 ซึ่งมั่นใจว่าเราทำได้แน่นอน และที่ผ่านมาเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า ใครทำได้จริง ใครทำไม่ได้จริง
จากนั้นเวลา 11.30 น. คณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขึ้นรถขยายเสียง เพื่อแนะนำตัวกับพี่น้องประชาชนชาวดอนเมือง ตามถนนสายหลัก.
‘ภูมิธรรม’ ยันไม่ได้ไปฮ่องกงพบ ‘ทักษิณ’ จัดทำบัญชีรายชื่อส.ส.เพื่อไทย
https://www.dailynews.co.th/news/2037878/
"ภูมิธรรม" ยืนยันไม่ได้บินไปฮ่องกงพบ "ทักษิณ" จัดทำบัญชีรายชื่อ ส.ส.เพื่อไทย ชี้แจงป่วยผ่าตัดเปลี่ยนไตยังไม่สามารถเดินทางไกลได้
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ตนได้นำรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค พท. เดินทางไปฮ่องกงเพื่อรอหารือกับ นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีความคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับความเป็นจริงอย่างมาก ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่ายังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดได้ เนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี 65 ได้เข้ารับการเปลี่ยนถ่ายไต หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นในห้องปลอดเชื้อคนเดียวเป็นเวลา 45 วัน แม้ว่าขณะนี้ร่างกายจะฟื้นฟูดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังมีข้อแนะนำจากแพทย์ให้งดการเดินทาง งดอยู่ในที่ชุมชนคนเยอะ ๆ จนถึงปลายเดือน มี.ค. 66
นาย
ภูมิธรรม กล่าวว่า การจัดทำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ถึงแม้ว่าตนเป็นรองหัวหน้าพรรค แต่ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทั้งนี้ การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเริ่มขั้นตอนจากกรรมการสรรหาผู้สมัคร ที่ต้องแจ้งให้สาขาตัวแทนพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกเป็นผู้เสนอรายชื่อบุคคลที่สมควร เป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง การพิจารณาขั้นสุดท้ายเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้นที่จะอนุมัติรายชื่อและจัดลำดับผู้สมัคร.
JJNY : เกษตรกรน้ำตาตก│"สมชาย"นำพท.ย่ำดอนเมือง│‘ภูมิธรรม’ ยันไม่ได้ไปฮ่องกงพบ ‘ทักษิณ’ │ปธน.ฝรั่งเศส เตรียมเยือนจีน
สุดเศร้า! เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรน้ำตาตก ราคาหมูหน้าคอกเหลือกิโลละ 80 บาท แต่อาหารสุกรราคาพุ่งไม่หยุด (คลิป)
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกกรมากที่สุดทั้งรายเล็กรายใหญ่ หลังพบว่าราคาสุกรหน้าคอกของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมีราคาลดฮวบ จากราคากิโลกรัมละ 110 – 115 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น ซึ่งลดลงจากเดิมถึงกิโลกรัมละ 30 – 35 บาท แต่เกษตรกรก็ต้องจำใจยอมจับขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากถึงกำหนดจับขาย หากเลี้ยงไว้ต้องกินทุนค่าอาหารเพิ่มขึ้นอีก ประกอบกับปัจจุบันค่าอาหารหมูนั้น มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วยเช่นกัน
โดย นายธีรวัฒน์ ยิ้มช้อย อายุ 40 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า ตนเลี้ยงสุกรเป็นอาชีพมา 12 ปีแล้ว ปีนี้ถือว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาอาหารสุกรแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้ราคาหน้าคอกอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 – 115 บาท ถือว่ามีกำไรอยู่กันได้ แต่ตอนนี้ ราคาลดฮวบลงมาเหลือกิโลกรัมละ 80 บาท และยังมีแนวโน้มลดต่ำดิ่งลงไปถึงกิโลกรัมละ 70 บาทอีกด้วย ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อน ต้องแบกรับต้นทุนและจำใจยอมขาดทุนกัน อย่างตนเลี้ยงสุกรครั้งละ 20 ตัว มีต้นทุนเป็นค่าพันธุ์หมูตัวละ 2,500 บาท 20 ตัว เป็นเงิน 50,000 บาท ต้องเลี้ยงเป็นเวลา 4 เดือน จึงจะจับขายได้ เมื่อคิดค่าอาหารหมูแล้ว 1 ตัว ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ จะมีทุนทั้งค่าตัวและค่าอาหารรวม 8,000 – 8,500 บาท 20 ตัวจะมีต้นทุนรวม 160,000 บาท
ซึ่งตอนนี้ก็ถึงกำหนดขายแล้ว ราคาขายได้เพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น โดยหมูแต่ละตัวเฉลี่ยจะมีน้ำหนัก 110 กิโลกรัม 1 ตัวจะมีราคา 8,800 บาท ถ้า 20 ตัว ราคารวมแล้ว ขายได้เพียง 176,000 บาท แต่มีต้นทุนถึง 160,000 บาท เหลือกำไรเพียง 16,000 บาท
ถ้าคิดเป็นตัวจะขายเฉลี่ยตัวละ 8,800 บาท ได้กำไรตัวละ 300 – 500 บาท ถือว่าไม่ได้กำไร เพราะต้องเสียค่าแรง ค่ำน้ำ ค่าไฟ และเสียเวลาถึง 4 เดือน หากเป็นราคาก่อนหน้านี้จับขายได้กิโลกรัมละ 110 – 115 บาท ต่อตัวจะขายได้เฉลี่ยตัวละ 12,000 – 12,500 บาท ซึ่งกำไรจากที่เคยได้ตัวละ 3,500 – 3,700 บาท ถ้ารวม 20 ตัวที่เลี้ยงไว้จะจับขายได้รวมเฉลี่ย 240,000 – 250,000 บาท เท่ากับกำไรหายไป รวมกว่า 65,000 บาท
แต่ก็จำเป็นต้องจับขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะราคามีแนวโน้มดิ่งต่ำลงอีก 70 บาทต่อกิโลกรัม จึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะรอราคา เนื่องจากต้องมีต้นทุนเป็นค่าอาหารสุกรอีก อยากจะวอนผู้เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องราคาอาหารสุกร หากราคาอาหารยังแพงขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะต้องหยุดเลี้ยงสุกรไปก่อน
"สมชาย" นำ เพื่อไทย ย่ำ เขตดอนเมือง หวัง กทม.แลนด์สไลด์ มั่นใจ "อิ๊งค์"
https://www.thairath.co.th/news/politic/2639695
"สมชาย" อดีตนายกฯ นำทีม เพื่อไทย ย่ำ เขตดอนเมือง หวัง กทม.แลนด์สไลด์ มั่นใจ "อิ๊งค์" เป็นนายกฯ ได้ดีกว่านายกฯ ที่ผ่านมาแน่ ด้าน "มาดามนครบาล" เย้ย ไม่กลัว "ลุงป้อม 700" เพื่อไทย มี 600 กับ 25,000
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่เขตดอนเมือง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พร้อมด้วย นายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ทำพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง
โดย นายสมชาย กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะต้องชิงพื้นที่กับอดีตผู้สมัครของพรรค ว่า เราพรรคเพื่อไทยตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม สำหรับเขตดอนเมือง มีการแข่งขันกันสูงมาตลอด ครั้งนี้ก็เป็นธรรมดาที่มีคนอาสามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน แม้สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปแต่เราพรรคเพื่อไทยยังยืนหยัด เราดำรงอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยอย่างมั่นคง และสรรหาผู้ที่มีความสามารถ จริงจัง และจริงใจกับพี่น้องประชาชน มาดูแลประชาชนให้ได้ เราจึงเลือก นายสุธนพจน์
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจหรือไม่ว่าจะแลนด์สไลด์อยู่ นายสมชาย กล่าวว่า มั่นใจ เรามั่นใจในนโยบาย เราให้คำมั่นสัญญากับประชาชนแล้ว ว่าเราจะมารับใช้เขา และวันนี้เราอยากให้เราแลนด์สไลด์ในพื้นที่ กทม.ด้วย เราคิดว่า เราอยากได้เสียง ส.ส.มาสนับสนุนให้เราจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อให้ปณิธานและความตั้งใจในการทำเพื่อพี่น้องประชาชนนั้นเป็นไปได้ ซึ่งหากเราได้ผู้แทนน้อย ความตั้งใจเหล่านี้ก็จะเป็นไปได้ยาก แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะท้อถอย วันนี้เราได้ นายสุธนพจน์ มาร่วมอุดมการณ์ ซึ่งเขาไม่เคยด่างพร้อย เรามั่นใจว่า ผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ของพรรคเพื่อไทยคนนี้เป็นคนดีแน่นอน เราจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง
เมื่อถามว่า เมื่อวานมีการประกาศว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นว่าที่นายกฯ ของพรรคเพื่อไทย มีคำแนะนำอะไรให้ น.ส.แพทองธาร หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ท่านเก่งอยู่แล้ว คงไม่ต้องแนะนำอะไร ตนคิดว่า ท่านพร้อมรับจากพี่น้องประชาชนทุกคน เพราะผู้นำที่แท้จริงต้องเปิดหูเปิดตาให้กว้างขวาง รับทั้งคำแนะนำ และคำชี้แนะเพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งมีคนถามตนว่า น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ได้หรือไม่ ตนเรียนว่า ยังไงก็ดีกว่านายกฯ ที่ผ่านมาแน่นอน ทั้งนี้ อายุไม่ใช่อุปสรรค รัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติไว้อย่างชัดเจนแล้ว เมื่อคุณสมบัติพร้อมแปลว่าผู้ร่างกติกาเห็นแล้วว่า เขาสามารถทำหน้าที่ตรงนั้นได้
เมื่อถามว่า เมื่อเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คิดว่าเป็นอย่างไร นายสมชาย กล่าวติดตลกว่า อายุน้อยกว่า แต่ความสามารถน่าจะมากกว่า
เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ เตรียมประกาศยุบสภาวันที่ 15 มีนาคม มองว่าอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ จะยุบวันไหน เพื่อไทยไม่ห่วง ท่านจะยุบวันไหนก็ได้ ไม่ยุบก็ได้ เราพร้อมสู้เสมอ เราไม่ไปงอแงกับกติกาที่จะมาเอารัดเอาเปรียบเราเล็กๆ น้อยๆ ตรงนั้น เพื่อไทยพร้อมหมด ขอให้ประชาชนมั่นใจ
เมื่อถามว่า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลท่านจะเข้ามาช่วยงานหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตอนนี้ก็ช่วยอยู่ พรรคเพื่อไทยไม่แย่งตำแหน่งกัน เราเอาคนที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดในการทำงานเพื่อประชาชน มารับใช้ประชาชน
ด้าน นางพวงเพ็ชร กล่าวถึงการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงที่จะมีผู้สมัครหลายพรรคชิงพื้นที่ กทม.ว่า ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย เพราะนโยบายของพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ปัญหาในปัจจุบันของประเทศได้ ตนอยากให้พี่น้องประชาชนมอบความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยได้แลนด์สไลด์ ได้จัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า เจอนโยบายลุงป้อม 700 กังวลหรือไม่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า จะ 700 หรือจะ 1000 ก็ไม่กังวล เราไม่ได้สนใจ เพราะของเรามี 600 กับ 25,000 ซึ่งมั่นใจว่าเราทำได้แน่นอน และที่ผ่านมาเวลาก็พิสูจน์แล้วว่า ใครทำได้จริง ใครทำไม่ได้จริง
จากนั้นเวลา 11.30 น. คณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขึ้นรถขยายเสียง เพื่อแนะนำตัวกับพี่น้องประชาชนชาวดอนเมือง ตามถนนสายหลัก.
‘ภูมิธรรม’ ยันไม่ได้ไปฮ่องกงพบ ‘ทักษิณ’ จัดทำบัญชีรายชื่อส.ส.เพื่อไทย
https://www.dailynews.co.th/news/2037878/
"ภูมิธรรม" ยืนยันไม่ได้บินไปฮ่องกงพบ "ทักษิณ" จัดทำบัญชีรายชื่อ ส.ส.เพื่อไทย ชี้แจงป่วยผ่าตัดเปลี่ยนไตยังไม่สามารถเดินทางไกลได้
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ตนได้นำรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค พท. เดินทางไปฮ่องกงเพื่อรอหารือกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีความคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับความเป็นจริงอย่างมาก ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่ายังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดได้ เนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี 65 ได้เข้ารับการเปลี่ยนถ่ายไต หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นในห้องปลอดเชื้อคนเดียวเป็นเวลา 45 วัน แม้ว่าขณะนี้ร่างกายจะฟื้นฟูดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังมีข้อแนะนำจากแพทย์ให้งดการเดินทาง งดอยู่ในที่ชุมชนคนเยอะ ๆ จนถึงปลายเดือน มี.ค. 66
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การจัดทำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ถึงแม้ว่าตนเป็นรองหัวหน้าพรรค แต่ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทั้งนี้ การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเริ่มขั้นตอนจากกรรมการสรรหาผู้สมัคร ที่ต้องแจ้งให้สาขาตัวแทนพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกเป็นผู้เสนอรายชื่อบุคคลที่สมควร เป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง การพิจารณาขั้นสุดท้ายเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้นที่จะอนุมัติรายชื่อและจัดลำดับผู้สมัคร.