ขอฝากถึงนักเรียนธรรมะที่ชอบอ้างคำว่า อนัตตา แล้วไม่ยอมฝึกฝน

"อนัตตา"
"ตาม เหตุ-ปัจจัย"
"ไม่ต้องปฏิบัติฝึกฝน"
"ไม่มีตัวตนต้องไปฝึกฝน"

คำเหล่านี้ท่องจำมา เชื่อสนิทใจหรือจะใช้อ้างความต้องการกระทำคิด,พูด,ทำ ได้ตามใจเพราะ อนัตตา หรืออะไรก็ตามแต่

การที่จะรู้จักธรรมะจริงหรือไม่นั้น เขาดูกันที่พฤติกรรมและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

เปลี่ยนไปด้วยอะไร?
ตอบ เปลี่ยนไปด้วยการหมั่นเพียรฝึกฝนอบรมตัวเองให้ดีขึ้น

ใครเปลี่ยน? ก็ไม่มีเรา อนัตตา
ตอบ ก็ขันธ์5 ที่พาคุณขึ้นนรกลงสวรรค์มานับครั้งไม่ถ้วนนี่ไง

จิต(การรับรู้)นี่ ทำกิจเป็นประธานในการทั้งปวงและ จิต ก็เป็นธรรมะ
เพราะฉะนั้นไม่มีเรา แต่ก็มีสิ่งสุดท้ายที่เสถียรมากๆคือจิต

ฝึกจิต ไม่ได้ให้ฝึกควาย เข้าใจหรือไม่?

ธรรมะสักตัวมีลักษณะจริงๆอย่างไรยังไม่รู้จัก
เที่ยวไปตำหนิพระนักกรรมฐาน อย่างน้อยท่านก็รู้จักธรรมะในองค์ฌานมากกว่าคุณอย่างเทียบไม่ได้

ท่านยังรู้จักธรรมะในองค์ฌาน แต่คุณเล่ารู้จักอะไร?
มันก็น่าจะพอสำนึกได้ในความไร้โอกาสที่จะรู้จักธรรมะตัวเป็นๆของตัวเอง

ของจริงไม่รู้จัก จำแต่ในตำราและอาจาย์สอนมา เที่ยวไปสอดตำหนิผู้ประสบธรรมะตัวจริงด้วยตัวเขาเอง

ผิดถูกอย่างไรมันเรื่องของขันธ์5เขา ขอให้เขาได้ลงมือฝึกกล้าเผชิญเหตุด้วยตัวเขาเองเถอะ ควรจะร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยเขาก็กล้าลอง

ความรู้ใดๆปรากฏ ย่อมต้องคืนธรรมะหมดสิ้นมิใช่หรือ?

จะรู้จักธรรมะตัวจริง และรู้จักอนัตตา

หรือ

จะไม่รู้จักธรรมะตัวจริง แล้วอ้างอนัตตา?

~~~

ป.ล. ไม่มีใครเจริญสติปัฏฐานได้โดยไร้การพิจารณา อนัตตา ที่จิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่