‘แอตต้า’ เผยทัวร์จีนยังเหงา ยอดจองล่วงหน้าไม่สดใสเท่าที่ควร
https://www.matichon.co.th/economy/news_3834332

 
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า หลังจากจีนได้อนุญาตให้ทำทัวร์ชาวจีนออกเที่ยวต่างประเทศได้มากขึ้น และประเทศไทยก็ถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของตลาดจีนนั้น โดยขณะนี้เราเห็นการเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้นของนักท่องเที่ยวจีน ในรูปแบบเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) เป็นหลัก ส่วนกรุ๊ปทัวร์ยังไม่ได้เห็นมากนัก เพราะขณะนี้ยังมีประเด็นเรื่องเที่ยวบินไม่เพียงพอ เพราะต้องยอมรับว่า การมีเที่ยวบินก็เท่ากับมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา
 
“ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทยตอนนี้ยังไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ถือว่ามีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะหากเทียบกับช่วงปี 2564-2565 ที่นักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ ทำให้ตลาดจีนที่เป็นตลาดหลักของไทยหายไปเลย แม้มีเข้ามาบ้างในส่วนของนักธุรกิจ หรือนักเรียน-นักศึกษาก็ตาม” นายศิษฎิวัชร กล่าว
 
นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า ทิศทางในเดือนมีนาคมนี้ หากมีการเสริมจำนวนเที่ยวบินจากตลาดจีนเข้ามาเที่ยวไทยได้มากขึ้น ก็จะสนับสนุนให้กรุ๊ปทัวร์เข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นได้ตาม เนื่องจากตอนนี้มีความต้องการ (ดีมานด์) เข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น แต่ในแง่จำนวนเที่ยวบินยังฟื้นตัวกลับมาไม่ทัน ทำให้ในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ยังไม่เห็นยอดจองล่วงหน้าเข้ามามากนัก แม้เป็นช่วงเดือนที่มีเทศกาลวันสงกรานต์ก็ตาม แต่อาจต้องรออีกสักระยะ จึงจะเห็นตัวเลขเพิ่มเติมได้
 
นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า สำหรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวไทยจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือที่เรียกกันว่าค่าเหยียบแผ่นดิน กำหนดเริ่มจัดเก็บตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยแบ่งเป็นค่าเก็บในอัตรา 300 บาท สำหรับการเดินทางเข้าไทยผ่านทางอากาศ และ 150 บาท ที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาแล้วนั้น มองว่าเมื่อผ่านเป็นกฎหมายออกมาก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการที่รัฐบาลกำหนดไว้ เพราะแม้เรียกร้องตอนนี้ก็คงไม่มีผลแล้ว เนื่องจากผลกระทบในแง่ต่างๆ ภาคเอกชนก็สะท้อนเสียงให้อย่างต่อเนื่อง ที่เหลืออาจต้องรอลุ้นว่าจะเริ่มได้ตามกำหนดหรือเลื่อนออกไปอีกสักระยะเท่านั้น

---

‘ประยุทธ์’ ไม่วางมือเลือกทางยากแต่อยากเป็นนายกฯ อย่าให้ราคา ส.ว. แค่รอสัญญาณอย่างเดียว
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3833084

รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมเวทีสนทนาสาธารณะ “Long Take Politics & Elections: สนทนาว่าด้วย จับตาสถานการณ์ การเลือกตั้ง 66” วิเคราะห์ภาพการเมืองไทยในช่วงใกล้เลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมลงจากอำนาจเลือกเส้นทางที่ยากแต่ยังอยากเป็นนายกฯ ต่อ ชี้อย่าให้ราคา ส.ว.มากเกินไป เพราะไม่มีเจตจำนงของตัวเองแค่รอสัญญาณกดปุ่มเลือกนายกฯ เท่านั้น  ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

---

 
หัวชนฝา! นักกฎหมายใหญ่ยืนกรานรัฐบาลไม่มีอำนาจ "ยุบสภา" พร้อมกระพือข่าวจ่อยุบ 3 พรรค
https://siamrath.co.th/n/424988

วันที่ 21 ก.พ.66 นายไพศาล พืชมงคล โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Paisal Puchmongkol ระบุว่า...

การเลือกตั้ง66ส่อซ้ำรอย 2500!!!!

1 การกล่าวหา พรรคการเมืองที่อยู่ในกระแสนิยมของประชาชน เพื่อขอให้ยุบพรรคตัดคู่แข่ง เป็นข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว
ทันทีที่มีการออกระเบียบเวลาการไต่สวนให้เหลือ 30 วัน ประชาชนก็สามารถต่อจิ๊กซอว์ได้ว่า "อาจมีการยุบ 3 พรรคการเมือง"ในช่วงเลือกตั้ง
แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนการยุบพรรคในช่วงก่อนเลือกตั้ง 62 เพราะเกิดขึ้นในสภาพที่ประชาชนทนไม่ไหวแล้ว!
 
2 หลายสิบปีมาแล้ว ที่มีการรายงานผลเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง ทำให้ทราบผลไม่เป็นทางการในวันนั้น
การยกเลิกการรายงานแบบนี้และจะรายงานผลภายใน 5 วัน ทำให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดการทุจริตในการนับคะแนนเลือกตั้งครั้งมโหฬารที่สุด ยิ่งกว่าการโกงเลือกตั้งแบบเวียนเทียน-พลร่ม-ไพ่ไฟในปี2500

3 "มหาโกงเลือกตั้ง 2500" ทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ ถึงขั้นส่งทหารยึดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในที่สุดก็เกิดการรัฐประหาร แล้วข่มเหงพระมหากษัตริย์
ต่อมาจอมพลสฤษดิ์ก็รัฐประการซ้อน" จอมพลป.ต้องหนีไปต่างประเทศและเสียชีวิตที่ญี่ปุ่น!!!!

4 ข่าว "ย้ายทหารครั้งใหญ่ช่วงเมษายน" น่าสนใจว่าจะทำให้ขาไม่ลอยเหมือนปีกว่าที่ผ่านมาหรือไม่?
ผู้นำเหล่าทัพและผู้เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย จะเห็นแก่ความปลอดภัยของชาติบ้านเมืองหรือว่าจะจำนนต่ออำนาจ?
เดี๋ยวก็รู้กัน!

5 มีบางท่านออกมาโต้ว่า รัฐบาลมีอำนาจยุบสภาอย่างไรก็ได้
ขอยืนยันว่า ไม่ได้!!!
เพราะเป็นพระราชอำนาจ***

เราบิดเบือนเรื่องนี้กันมานานแล้ว
การยุบสภานั้นรัฐบาลต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อ"มีพระบรมราชโองการตราพระราชกฤษฎีกาให้ยุบสภา" ซึ่งต้องมีเหตุผลและกฎเกณฑ์ตามกฎหมายและการปกครอง!

ถ้าไม่ชอบ ร่างพระราชกฤษฎีกานั้นอาจจะตกไปก็ได้!
ก็ร่างกฎหมายที่ 2 สภาเห็นชอบ และนำขึ้นทูลเกล้าแล้วก็มีพระราชอํานาจที่จะไม่โปรดและทำให้ร่างกฎหมายตกไปได้ สัมมะหาอะไรกับร่างพระราชกฤษฎีกาที่แค่คนๆเดียวเสนอ

เรื่องนี้ประชาชนต้องเข้าใจให้ชัดเจน มิฉะนั้น นักการเมืองก็บิดเบือนอำนาจ ทำการตามอำเภอใจเพื่อเอาเปรียบคนอื่น และเพื่อตกปลาในอ่างเพื่อน ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายคุณธรรมและจรรยาบรรณ

ถ้าร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาตก จะถอดสลักระเบิดการเมืองและปิดฉากการสืบทอดอำนาจ

#นับถอยหลังการเลือกตั้ง

https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/5845191945579429