อุปกิต" ส่งทนายฟ้อง 100ล. "โรม" อภิปรายหมิ่นโยงทุนสีเทา "อัจฉริยะ" เจอด้วยเรียก 50ล.
ส.ว.อุปกิต” ส่งทนายยื่นศาลฟ้อง “รังสิมันต์” ฐานอภิปรายหมิ่นโยงทุนสีเทา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล. "อัจฉริยะ" โดนด้วยเจอเรียก 50 ล.
วันนี้(17 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดา นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ข้อหาหมิ่นประมาทเนื่องจากในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายรังสิมันต์ ได้อภิปรายในหัวข้อ “เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา” โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต โดย นายอุปกิต ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท และศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 1 พ.ค.2566 เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอุปกิตยังได้ยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญา หลังนายอัจฉริยะกล่าวหานายอุปกิตเกี่ยวข้องขบวนการค้ายาเสพติด
https://mgronline.com/politics/detail/9660000015837
'วิษณุ' แจงซ้ำ ปมฝ่ายค้านกล่าวหาตัดเสื้อแลกโยกย้ายคนปปท. จ่อฟ้องเล่นไม่เลิก
17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 15:54 น.
“วิษณุ” แจงซ้ำ ปมฝ่ายค้านกล่าวหาตัดเสื้อแลกโยกย้ายคนป.ป.ท. ยัน ตัดเองจ่ายเอง ชี้อ้างเอกสิทธิ์ คุ้มครองแค่ในสภาฯ ชี้ รอดูท่าทีคนเล่นไม่เลิก
17 ก.พ.2566 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ฝ่ายค้านยังติดใจคำชี้แจง กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์เป็นเสื้อสูท มูลค่าเกิน3,000บาท แลกกับการแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่า ฝ่ายค้านระบุว่าร้านตัดเสื้อย่านดอนเมือง ซึ่งตนก็บอกไปแล้วว่าร้านที่ตนไปตัดเสื้อผ้าไทย ขึ้นต้นด้วย ท. อยู่ย่านดอนเมืองและคนที่ซื้อผ้าไปตัดซื้อจากย่านดิโอลด์สยาม มาให้ร้านตัด ปกติเขาตัดแต่สูทไม่รับตัดชุดไทย แต่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานรู้จักกับร้านดังกล่าว จึงไปขอให้ช่วยตัดเสื้อทรงพระราชทาน โดยใช้ผ้าของเรา จ่ายเงินค่าตัดเองทุกครั้ง ส่วนเสื้อสูทสากล ไม่ได้ตัดใช้มาเป็น10 ปีแล้ว ที่ไปตัดในช่วง5 เดือนที่ผ่านมา คือ เสื้อผ้าไทย จำนวนหลายตัว เนื่องมาจากการผ่าตัดใส่ท่อ และคนในสำนักงานของตนก็ตัดที่นี่ทั้งหมดและจ่ายเงินเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มอบฝ่ายกฎหมายพิจารณาดำเนินการฟ้องร้องกับคนที่นำเรื่องนี้มาพูดอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องดูท่าทีของเขาก่อน หากสงสัยเรื่องการรับสิ่งของที่มูลค่าเกิน3,000 บาท ก็ไม่ควรฟ้องเพราะเป็นสิทธิ์ที่สงสัยได้ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าบอกว่าเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการแต่งตั้งโยกย้าย ค่อยว่ากัน
ส่วนที่บอกว่าป.ป.ท.ส่งคนมาติดต่อตน ย้ำว่ารู้จักคนของป.ป.ท.คนดังกล่าว เพราะมาร่วมประชุมในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มาประชุมสัปดาห์ละ2ครั้ง ไม่ได้มาติดต่อเรื่องอื่น และเข้าใจว่าคนนี้น่าจะเป็นบุคลที่ถูกกล่าวอ้างว่ารู้จักกับช่างตัดเสื้อที่อยู่ย่านดอนเมือง
เมื่อถามย้ำว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะฟ้องหรือไม่ฟ้องค่อยว่ากัน หากไปแจ้งความตำรวจก็จัดการให้อยู่แล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านอ้างว่าผู้อภิปรายมีเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาฯ นั้น เอกสิทธิ์ที่ว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการซักถามในที่ประชุมสภาฯ แต่ถ้าไปพูดนอกรอบก็ไม่คุ้มครอง
https://www.thaipost.net/politics-news/326170/
ฟ้องเลยค่ะ ประชาชนอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมเอาผิดส.ส.ที่ชอบหมิ่นประมาท หาเรื่องเอาสภาเป็นเกราะกำบัง พูดแล้วมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ต้องเอาผิดเสียบ้าง สร้างแต่ความเท็จ
แต่ถ้าเรื่องที่ส.ส.ปูดจริง ประชาชนก็จะได้รู้ใครดีใครเลว ใครทำสิ่งผิดกฎหมาย
เรื่องนี้จะติดตามต่อไปค่ะ
💎มาลาริน💎ปชช.จะได้รู้ความจริง..ส.ว.ฟ้อง100ล.โรมอภิปรายหมิ่นโยงทุนสีเทา/วิษณุ"เล็งฟ้อง ส.ส.เพื่อไทยปูดเรียกรับสูทแลกงาน
ส.ว.อุปกิต” ส่งทนายยื่นศาลฟ้อง “รังสิมันต์” ฐานอภิปรายหมิ่นโยงทุนสีเทา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล. "อัจฉริยะ" โดนด้วยเจอเรียก 50 ล.
วันนี้(17 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดา นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ข้อหาหมิ่นประมาทเนื่องจากในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายรังสิมันต์ ได้อภิปรายในหัวข้อ “เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา” โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต โดย นายอุปกิต ได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท และศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 1 พ.ค.2566 เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอุปกิตยังได้ยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญา หลังนายอัจฉริยะกล่าวหานายอุปกิตเกี่ยวข้องขบวนการค้ายาเสพติด
https://mgronline.com/politics/detail/9660000015837
'วิษณุ' แจงซ้ำ ปมฝ่ายค้านกล่าวหาตัดเสื้อแลกโยกย้ายคนปปท. จ่อฟ้องเล่นไม่เลิก
17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 15:54 น.
“วิษณุ” แจงซ้ำ ปมฝ่ายค้านกล่าวหาตัดเสื้อแลกโยกย้ายคนป.ป.ท. ยัน ตัดเองจ่ายเอง ชี้อ้างเอกสิทธิ์ คุ้มครองแค่ในสภาฯ ชี้ รอดูท่าทีคนเล่นไม่เลิก
17 ก.พ.2566 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ฝ่ายค้านยังติดใจคำชี้แจง กรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์เป็นเสื้อสูท มูลค่าเกิน3,000บาท แลกกับการแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่า ฝ่ายค้านระบุว่าร้านตัดเสื้อย่านดอนเมือง ซึ่งตนก็บอกไปแล้วว่าร้านที่ตนไปตัดเสื้อผ้าไทย ขึ้นต้นด้วย ท. อยู่ย่านดอนเมืองและคนที่ซื้อผ้าไปตัดซื้อจากย่านดิโอลด์สยาม มาให้ร้านตัด ปกติเขาตัดแต่สูทไม่รับตัดชุดไทย แต่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานรู้จักกับร้านดังกล่าว จึงไปขอให้ช่วยตัดเสื้อทรงพระราชทาน โดยใช้ผ้าของเรา จ่ายเงินค่าตัดเองทุกครั้ง ส่วนเสื้อสูทสากล ไม่ได้ตัดใช้มาเป็น10 ปีแล้ว ที่ไปตัดในช่วง5 เดือนที่ผ่านมา คือ เสื้อผ้าไทย จำนวนหลายตัว เนื่องมาจากการผ่าตัดใส่ท่อ และคนในสำนักงานของตนก็ตัดที่นี่ทั้งหมดและจ่ายเงินเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มอบฝ่ายกฎหมายพิจารณาดำเนินการฟ้องร้องกับคนที่นำเรื่องนี้มาพูดอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องดูท่าทีของเขาก่อน หากสงสัยเรื่องการรับสิ่งของที่มูลค่าเกิน3,000 บาท ก็ไม่ควรฟ้องเพราะเป็นสิทธิ์ที่สงสัยได้ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าบอกว่าเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการแต่งตั้งโยกย้าย ค่อยว่ากัน
ส่วนที่บอกว่าป.ป.ท.ส่งคนมาติดต่อตน ย้ำว่ารู้จักคนของป.ป.ท.คนดังกล่าว เพราะมาร่วมประชุมในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มาประชุมสัปดาห์ละ2ครั้ง ไม่ได้มาติดต่อเรื่องอื่น และเข้าใจว่าคนนี้น่าจะเป็นบุคลที่ถูกกล่าวอ้างว่ารู้จักกับช่างตัดเสื้อที่อยู่ย่านดอนเมือง
เมื่อถามย้ำว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะฟ้องหรือไม่ฟ้องค่อยว่ากัน หากไปแจ้งความตำรวจก็จัดการให้อยู่แล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านอ้างว่าผู้อภิปรายมีเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภาฯ นั้น เอกสิทธิ์ที่ว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการซักถามในที่ประชุมสภาฯ แต่ถ้าไปพูดนอกรอบก็ไม่คุ้มครอง
https://www.thaipost.net/politics-news/326170/
ฟ้องเลยค่ะ ประชาชนอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมเอาผิดส.ส.ที่ชอบหมิ่นประมาท หาเรื่องเอาสภาเป็นเกราะกำบัง พูดแล้วมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ต้องเอาผิดเสียบ้าง สร้างแต่ความเท็จ
แต่ถ้าเรื่องที่ส.ส.ปูดจริง ประชาชนก็จะได้รู้ใครดีใครเลว ใครทำสิ่งผิดกฎหมาย
เรื่องนี้จะติดตามต่อไปค่ะ