แอดมินกรุ๊ป ‘ย้ายประเทศกันเถอะ’ อัพเดตชีวิต ได้กรีนการ์ด ‘แคนาดา’ หลังย้ายไปครบปี
https://www.matichon.co.th/social/news_3818373
แอดมินกรุ๊ป ‘ย้ายประเทศกันเถอะ’ อัพเดตชีวิต ได้กรีนการ์ด ‘แคนาดา’ หลังย้ายไปครบปี
พฤษภาคม 2564 เฟซบุ๊กกรุ๊ป “
ย้ายประเทศกันเถอะ” นับได้ว่าเป็นกระแส สะท้อนสังคมไปทั่วประเทศ โดยมีจำนวนสมาชิกที่เข้าไปในกรุ๊ปนับถึงปัจจุบัน ก็พุ่งไปถึง 1.1 ล้านราย ในช่วงเวลาที่ สถานการณ์การเมืองในประเทศไทยกำลังร้อนแรง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถึงทางตัน และ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่หลายคน ผิดหวังกับสภาพสังคมและปัญหาเชิงโครงสร้าง
ซึ่งแอดมินได้เปิดเผยนี้ จากความคิดว่า “
ใครๆก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น”
ก่อนที่ต่อมา เฟซบุ๊กกรุ๊ปดังกล่าว จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย พร้อมการรีวิวให้ความรู้ อย่างการสอบภาษาอังกฤษ หรือลู่ทาง การใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ
โดย Poowanut Tanwattanakul แอดมินกรุ๊ปดังกล่าว ก็อัพเดตข้อมูลของตัวเองเป็นระยะ ว่าได้เดินทางไปอยู่ที่แคนาดา ตั้งแต่เมื่อปีก่อน
28 กุมภาพันธ์ เขาได้เล่าเรื่องชีวิตที่แคนาดาไว้ว่า
“สวัสดีจากแคนาดา ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว หลังจากพยายามต่อสู้กับอากาศหนาวมาสองวีค อัพเดทให้ฟังกันหน่อย ถือว่าเป็นการเติมไฟให้คนอื่นๆ
– ใครได้ย้ายประเทศสมใจแล้วบ้าง ย้ายแล้วเป็นยังไง
– ใครกำลังเตรียมอะไร ถึงไหนแล้วบ้าง
อาจไม่มีเวลาทำหน้าที่แอดมินเท่าไหร่ เพราะยังจัดการเอกสาร ธุรกิจของตัวเองไม่เรียบร้อย อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ อยากมีเวลามากกว่านี้
ไว้จะมาไลฟ์ ตอบคำถามทีเดียวเลย สัญญา และยังเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากย้ายเสมอนะ หนีมาให้ได้นะ มันดีมากๆเลย”
ก่อนจะเล่าเรื่องต่อเมื่อ 8 กรกฎาคม 2022 ว่า
“สวัสดีจ้า แอดมินเอง หายไปนาน วันนี้แวะมาอัพเดทสภาพจิตใจให้ฟัง ตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่ ความทะเยอทะยาน อยากประสบความสำเร็จ ความกระเ สือกกระสนอยากรวย ความอยากได้อยากมี หายไปเกือบหมดเลย ตอนอยู่ไทย รู้สึกว่าต้องไปให้ไกลที่สุด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ประเทศนี้ ไม่มีรัฐสวัสดิการ ไม่มีอนาคต ไม่เป็นประชาธิปไตย และไม่มีวันเจริญได้ช่วงอายุขัยของตัวเอง ฉะนั้นทางเดียวที่จะอยู่รอดและมีความสุขในประเทศเ-ี้ยๆนี่ได้ คือต้องรวย ต้องมีเงินเยอะๆ เอาไว้ซื้อประกันสุขภาพไว้รักษาตอนป่วย เอาไว้ซื้อรถขับจะได้ไม่ต้องพึ่งคมนาคมที่ไม่ทั่วถึง เอาไว้ใช้ปรนเปรอชีวิต ตามไลฟ์สไตล์คน-อแหล เดินพารากอน เดินสยาม กินใช้วันละพันสองพัน ตีเทนนิสชั่วโมงละ 300-500 อยากทำอะไรก็ใช้เงินซื้อ มันง่ายดี
ตอนอยู่ไทย ก็เลยไม่เคยหยุดไปต่อซักที เปิดร้านอาหารปังแล้ว ไปเปิดผับ เปิดผับปังแล้วไปทำสตูดิโอแต่งงาน มีเงินเท่าไหร่เอาไปลงทุนหมด คลอดธุรกิจบ่อยกว่าแม่พันธุ์หมาในฟาร์มอีก ไม่ค่อยได้ใช้เงินที่ตัวเองหามาเล๊ยยยเงินต่อเงิน ใช้หนี้หม๊ด
.
แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่ ค้นพบเลยว่า เราไม่จำเป็นต้องรวย ขนาดนั้น เราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จไปกว่านี้ เราก็มีชีวิตที่มั่นคงและมีความสุขได้เหมือนกัน ประกันสุขภาพไม่จำเป็นต้องมี รักษาฟรีเกือบ100% ยิ่งถ้าทำงานประจำ ยิ่งมีสวัสดิการเยอะไปอีก ทั้งทำฟัน นวด ตัดแว่น นั่นนี่ รถราคาถูกกว่าไทย 2-3 เท่า ซื้อได้ง่ายๆ ไปไหนมาไหนใช้เวลา 10-15 นาที เหลือเวลาใช้ชีวิตเพียบเลย อยากทำไรก็ได้ทำ น้ำมันรถเติมเดือนละครั้งยังเหลือ มีไลฟ์สไตล์-อแหลได้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องจ่ายเงิน พื้นที่สาธารณะเพียบ ไม่ต้องใช้เงินซื้อ
อยากตีเทนนิส ตีวอลเล่ย์ ไปได้เลยคอร์ตฟรี อยากเดินเล่นไปเดินสวน มีทั่วเมือง ฟรี อยากปิ้งบาบีคิว มีเตามีโต๊ะตามสวนให้ฟรี ชีวิตแทบไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกเลย นอกจากค่ากิน ค่าอยู่
.
อยู่ไทย ใช้เงินเดือนละ 100,000-150,000 บาท อยู่ที่นี่ ใช้เงินเดือนละไม่ถึง 30,000 บาท พอมีเวลาว่าง ได้กลับมานั่ง Reflect ตัวเอง
ถึงได้เข้าใจว่า เห้ย การอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรวยและประสบความสำเร็จขนาดนั้นก็ได้
ตอนนี้คิดได้แล้วว่า เราพอละ เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ในระดับที่พิสูจน์กับทุกคนแล้วว่า เรามีความสามารถประมาณนึง เราทำให้ครอบครัวภูมิใจ และที่สำคัญเราภูมิใจในตัวเองแล้ว
ต่อไปนี้ จะหยุดขยายธุรกิจที่ไทย หาธุรกิจเล็กๆทำที่นี่ ให้พอมีอะไรทำแก้เบื่อ แล้วใช้ชีวิตให้คุ้มค่าดีกว่า (ถึงแม้เพื่อนๆจะไม่เชื่อว่ากูหยุดได้ก็ตาม555) ยังยืนยันว่า ไม่มีความคิดกลับไปอยู่ไทย เพราะมีความสุขกับความสงบทางจิตใจที่นี่มาก”
ล่าสุด แอดมิน ก็ได้โพสต์เล่า ด้วยว่าได้รับบัตร
Permanent Resident หรือ กรีนการ์ดแคนาดา เป็นวีซ่าถาวร ที่มีสถานะเท่าเทียมพลเมืองแคนาดา ทุกประการ ยกเว้น ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง/ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ซึ่งเขาได้บอกไว้ว่า
“สวัสดีจ้า แอดมินเอง PR Card มาถึงแล้วในที่สุด ดีใจมาก เปิดตู้ไปรษณีย์มา กรี๊ดลั่น ตีลังกาล้อเกวียนรอบหมู่บ้าน 1 ปี พอดีเลย หลังบินเข้ามาที่แคนาดา ผิดแผนไปร้อยตลบ เปลี่ยนแผนจนหน้ามืด รอจนใจจะขาด จนปลงได้ จนกลับมาใจขาดอีกรอบ หมดสิ้นซักที กับการรอคอย
ไว้มาเล่าให้ฟังโดยละเอียด ขอสรุปให้กระชับเข้าใจง่ายๆก่อน
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะโยกย้ายทุกคน
สู้ต่อไป หนีมาให้ได้ !!”
ซึ่งมีคนเข้าไปร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งคอมเมนต์จำนวนมาก ให้กับโพสต์ดังกล่าว
https://www.facebook.com/poowanut.tanwattanakul/posts/pfbid02Mu7SXGHYisJTFE94DH2JFzGsjcwKduSEAeYmQkZc19wTJskr4WeYHiALZFk8SGWbl
เดดไลน์“ตะวัน-แบม” ก่อนอดน้ำ-อาหารต่อนอก รพ. “ส.ว.เนาวรัตน์”ร่ายบทกวีถึง เจอวิจารณ์โต้
https://www.matichon.co.th/clips/news_3818326
จับตาหลัง 10 ก.พ. วันสุดท้ายที่
ตะวัน – แบม จะรับการรักษาในโรงพยาลธรรมศาสตร์ ก่อนจะออกไป อดน้ำและอาหารในสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป หากข้อเสนอขีดเส้น 3 วัน ขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีการเมืองทั้งหมด ไม่ได้รับการตอบสนอง หลังจากได้รับการปล่อยตัว 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านี้
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.2536 และสมาชิกวุฒิสภา ออกมาโพสต์กลอน ในเชิงเรียกร้องความยุติธรรมกรณีตะวัน – แบม อย่างไรก็ตาม มีความเห็นบางส่วน ออกมาวิจารณ์โต้กลับไป ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
เพื่อไทยไม่ค้านปรับค่าตอบแทน อบต.-ถ้าเป็นรบ.ทำนานแล้ว
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_498575/
เพื่อไทยไม่คัดค้านปรับค่าตอบแทน อบต. บอกถ้าเป็นรัฐบาลปรับมานานแล้ว ย้ำให้ความสำคัญ อปท.ด้วยแนวคิดการมุ่งปรับงบอุดหนุนไปสู่สัดส่วน 35% เร็วที่สุด
นาย
นพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่มีการเสนอข่าวว่าพรรคเพื่อไทยคัดค้านการที่จะปรับค่าตอบแทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นั้น ตนขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว และยืนยันว่าพรรคไม่คัดค้านการปรับค่าตอบแทนสมาชิก อบต. ตามกฎหมายและถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลคงจะปรับค่าตอบแทนมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ต้องรอ 8 ปี เนื่องจาก อบต.ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ทำงานใกล้ชิดประชาชน และเสมือนเป็นประชาธิปไตยในระดับฐานราก ยิ่งอบต.เข้มแข็ง ประชาชนยิ่งได้ประโยชน์
นาย
นพดล กล่าวต่อว่า นอกจากจะไม่คัดค้านการปรับค่าตอบแทนของ อบต.แล้ว พรรคให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ อย่างมาก ซึ่งในขณะนี้มีผลการศึกษาและแนวคิดเบื้องต้นของคณะทำงานที่จะผลักดันให้คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบนโยบายที่สำคัญที่จะสร้างความเข้มแข็งและพลิกโฉมการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อทำให้ชีวิตของพี่น้องดีขึ้น
เช่น แนวคิดการพิจารณายกฐานะ อบต.เป็นเทศบาลตำบล แต่ยังคงให้มีกำนันและผู้ใหญ่บ้าน, แนวคิดการผลักดันการเพิ่มสัดส่วนงบประมาณให้อปท. เป็นร้อยละ 35 ให้เร็วที่สุดที่ฐานะการเงินการคลังของประเทศเอื้อให้ทำได้ และถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตและสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้นเร็วขึ้น และแนวคิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีความพร้อม โดยทันทีที่คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบนโยบายเหล่านี้ก็จะประกาศเป็นนโยบายหาเสียงต่อไปตามกฎหมาย
ประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและมีประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ล้วนมีการกระจายอำนาจที่เหมาะสม และประชาชนในท้องถิ่นมีความสุข พรรคยังมีนโยบายอีกมากที่รอความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค และมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้ชนะแลนด์สไลด์เพื่อเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องให้ประชาชนต่อไป
JJNY : แอดมิน ‘ย้ายประเทศกันเถอะ’ อัพเดตชีวิต│เดดไลน์“ตะวัน-แบม”│พท.ไม่ค้านปรับค่าตอบแทน อบต.│“สมคิด”เย้ยรัฐบาล
https://www.matichon.co.th/social/news_3818373
แอดมินกรุ๊ป ‘ย้ายประเทศกันเถอะ’ อัพเดตชีวิต ได้กรีนการ์ด ‘แคนาดา’ หลังย้ายไปครบปี
พฤษภาคม 2564 เฟซบุ๊กกรุ๊ป “ย้ายประเทศกันเถอะ” นับได้ว่าเป็นกระแส สะท้อนสังคมไปทั่วประเทศ โดยมีจำนวนสมาชิกที่เข้าไปในกรุ๊ปนับถึงปัจจุบัน ก็พุ่งไปถึง 1.1 ล้านราย ในช่วงเวลาที่ สถานการณ์การเมืองในประเทศไทยกำลังร้อนแรง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถึงทางตัน และ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่หลายคน ผิดหวังกับสภาพสังคมและปัญหาเชิงโครงสร้าง
ซึ่งแอดมินได้เปิดเผยนี้ จากความคิดว่า “ใครๆก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น”
ก่อนที่ต่อมา เฟซบุ๊กกรุ๊ปดังกล่าว จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย พร้อมการรีวิวให้ความรู้ อย่างการสอบภาษาอังกฤษ หรือลู่ทาง การใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ
โดย Poowanut Tanwattanakul แอดมินกรุ๊ปดังกล่าว ก็อัพเดตข้อมูลของตัวเองเป็นระยะ ว่าได้เดินทางไปอยู่ที่แคนาดา ตั้งแต่เมื่อปีก่อน
28 กุมภาพันธ์ เขาได้เล่าเรื่องชีวิตที่แคนาดาไว้ว่า
“สวัสดีจากแคนาดา ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว หลังจากพยายามต่อสู้กับอากาศหนาวมาสองวีค อัพเดทให้ฟังกันหน่อย ถือว่าเป็นการเติมไฟให้คนอื่นๆ
– ใครได้ย้ายประเทศสมใจแล้วบ้าง ย้ายแล้วเป็นยังไง
– ใครกำลังเตรียมอะไร ถึงไหนแล้วบ้าง
อาจไม่มีเวลาทำหน้าที่แอดมินเท่าไหร่ เพราะยังจัดการเอกสาร ธุรกิจของตัวเองไม่เรียบร้อย อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ อยากมีเวลามากกว่านี้
ไว้จะมาไลฟ์ ตอบคำถามทีเดียวเลย สัญญา และยังเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากย้ายเสมอนะ หนีมาให้ได้นะ มันดีมากๆเลย”
ก่อนจะเล่าเรื่องต่อเมื่อ 8 กรกฎาคม 2022 ว่า
“สวัสดีจ้า แอดมินเอง หายไปนาน วันนี้แวะมาอัพเดทสภาพจิตใจให้ฟัง ตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่ ความทะเยอทะยาน อยากประสบความสำเร็จ ความกระเ สือกกระสนอยากรวย ความอยากได้อยากมี หายไปเกือบหมดเลย ตอนอยู่ไทย รู้สึกว่าต้องไปให้ไกลที่สุด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ประเทศนี้ ไม่มีรัฐสวัสดิการ ไม่มีอนาคต ไม่เป็นประชาธิปไตย และไม่มีวันเจริญได้ช่วงอายุขัยของตัวเอง ฉะนั้นทางเดียวที่จะอยู่รอดและมีความสุขในประเทศเ-ี้ยๆนี่ได้ คือต้องรวย ต้องมีเงินเยอะๆ เอาไว้ซื้อประกันสุขภาพไว้รักษาตอนป่วย เอาไว้ซื้อรถขับจะได้ไม่ต้องพึ่งคมนาคมที่ไม่ทั่วถึง เอาไว้ใช้ปรนเปรอชีวิต ตามไลฟ์สไตล์คน-อแหล เดินพารากอน เดินสยาม กินใช้วันละพันสองพัน ตีเทนนิสชั่วโมงละ 300-500 อยากทำอะไรก็ใช้เงินซื้อ มันง่ายดี
ตอนอยู่ไทย ก็เลยไม่เคยหยุดไปต่อซักที เปิดร้านอาหารปังแล้ว ไปเปิดผับ เปิดผับปังแล้วไปทำสตูดิโอแต่งงาน มีเงินเท่าไหร่เอาไปลงทุนหมด คลอดธุรกิจบ่อยกว่าแม่พันธุ์หมาในฟาร์มอีก ไม่ค่อยได้ใช้เงินที่ตัวเองหามาเล๊ยยยเงินต่อเงิน ใช้หนี้หม๊ด
.
แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่ ค้นพบเลยว่า เราไม่จำเป็นต้องรวย ขนาดนั้น เราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จไปกว่านี้ เราก็มีชีวิตที่มั่นคงและมีความสุขได้เหมือนกัน ประกันสุขภาพไม่จำเป็นต้องมี รักษาฟรีเกือบ100% ยิ่งถ้าทำงานประจำ ยิ่งมีสวัสดิการเยอะไปอีก ทั้งทำฟัน นวด ตัดแว่น นั่นนี่ รถราคาถูกกว่าไทย 2-3 เท่า ซื้อได้ง่ายๆ ไปไหนมาไหนใช้เวลา 10-15 นาที เหลือเวลาใช้ชีวิตเพียบเลย อยากทำไรก็ได้ทำ น้ำมันรถเติมเดือนละครั้งยังเหลือ มีไลฟ์สไตล์-อแหลได้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องจ่ายเงิน พื้นที่สาธารณะเพียบ ไม่ต้องใช้เงินซื้อ
อยากตีเทนนิส ตีวอลเล่ย์ ไปได้เลยคอร์ตฟรี อยากเดินเล่นไปเดินสวน มีทั่วเมือง ฟรี อยากปิ้งบาบีคิว มีเตามีโต๊ะตามสวนให้ฟรี ชีวิตแทบไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกเลย นอกจากค่ากิน ค่าอยู่
.
อยู่ไทย ใช้เงินเดือนละ 100,000-150,000 บาท อยู่ที่นี่ ใช้เงินเดือนละไม่ถึง 30,000 บาท พอมีเวลาว่าง ได้กลับมานั่ง Reflect ตัวเอง
ถึงได้เข้าใจว่า เห้ย การอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรวยและประสบความสำเร็จขนาดนั้นก็ได้
ตอนนี้คิดได้แล้วว่า เราพอละ เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ในระดับที่พิสูจน์กับทุกคนแล้วว่า เรามีความสามารถประมาณนึง เราทำให้ครอบครัวภูมิใจ และที่สำคัญเราภูมิใจในตัวเองแล้ว
ต่อไปนี้ จะหยุดขยายธุรกิจที่ไทย หาธุรกิจเล็กๆทำที่นี่ ให้พอมีอะไรทำแก้เบื่อ แล้วใช้ชีวิตให้คุ้มค่าดีกว่า (ถึงแม้เพื่อนๆจะไม่เชื่อว่ากูหยุดได้ก็ตาม555) ยังยืนยันว่า ไม่มีความคิดกลับไปอยู่ไทย เพราะมีความสุขกับความสงบทางจิตใจที่นี่มาก”
ล่าสุด แอดมิน ก็ได้โพสต์เล่า ด้วยว่าได้รับบัตร Permanent Resident หรือ กรีนการ์ดแคนาดา เป็นวีซ่าถาวร ที่มีสถานะเท่าเทียมพลเมืองแคนาดา ทุกประการ ยกเว้น ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง/ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ซึ่งเขาได้บอกไว้ว่า
“สวัสดีจ้า แอดมินเอง PR Card มาถึงแล้วในที่สุด ดีใจมาก เปิดตู้ไปรษณีย์มา กรี๊ดลั่น ตีลังกาล้อเกวียนรอบหมู่บ้าน 1 ปี พอดีเลย หลังบินเข้ามาที่แคนาดา ผิดแผนไปร้อยตลบ เปลี่ยนแผนจนหน้ามืด รอจนใจจะขาด จนปลงได้ จนกลับมาใจขาดอีกรอบ หมดสิ้นซักที กับการรอคอย
ไว้มาเล่าให้ฟังโดยละเอียด ขอสรุปให้กระชับเข้าใจง่ายๆก่อน
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะโยกย้ายทุกคน
สู้ต่อไป หนีมาให้ได้ !!”
ซึ่งมีคนเข้าไปร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งคอมเมนต์จำนวนมาก ให้กับโพสต์ดังกล่าว
https://www.facebook.com/poowanut.tanwattanakul/posts/pfbid02Mu7SXGHYisJTFE94DH2JFzGsjcwKduSEAeYmQkZc19wTJskr4WeYHiALZFk8SGWbl
เดดไลน์“ตะวัน-แบม” ก่อนอดน้ำ-อาหารต่อนอก รพ. “ส.ว.เนาวรัตน์”ร่ายบทกวีถึง เจอวิจารณ์โต้
https://www.matichon.co.th/clips/news_3818326
จับตาหลัง 10 ก.พ. วันสุดท้ายที่ ตะวัน – แบม จะรับการรักษาในโรงพยาลธรรมศาสตร์ ก่อนจะออกไป อดน้ำและอาหารในสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป หากข้อเสนอขีดเส้น 3 วัน ขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีการเมืองทั้งหมด ไม่ได้รับการตอบสนอง หลังจากได้รับการปล่อยตัว 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านี้
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.2536 และสมาชิกวุฒิสภา ออกมาโพสต์กลอน ในเชิงเรียกร้องความยุติธรรมกรณีตะวัน – แบม อย่างไรก็ตาม มีความเห็นบางส่วน ออกมาวิจารณ์โต้กลับไป ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
เพื่อไทยไม่ค้านปรับค่าตอบแทน อบต.-ถ้าเป็นรบ.ทำนานแล้ว
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_498575/
เพื่อไทยไม่คัดค้านปรับค่าตอบแทน อบต. บอกถ้าเป็นรัฐบาลปรับมานานแล้ว ย้ำให้ความสำคัญ อปท.ด้วยแนวคิดการมุ่งปรับงบอุดหนุนไปสู่สัดส่วน 35% เร็วที่สุด
นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่มีการเสนอข่าวว่าพรรคเพื่อไทยคัดค้านการที่จะปรับค่าตอบแทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นั้น ตนขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว และยืนยันว่าพรรคไม่คัดค้านการปรับค่าตอบแทนสมาชิก อบต. ตามกฎหมายและถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลคงจะปรับค่าตอบแทนมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ต้องรอ 8 ปี เนื่องจาก อบต.ถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ทำงานใกล้ชิดประชาชน และเสมือนเป็นประชาธิปไตยในระดับฐานราก ยิ่งอบต.เข้มแข็ง ประชาชนยิ่งได้ประโยชน์
นายนพดล กล่าวต่อว่า นอกจากจะไม่คัดค้านการปรับค่าตอบแทนของ อบต.แล้ว พรรคให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ อย่างมาก ซึ่งในขณะนี้มีผลการศึกษาและแนวคิดเบื้องต้นของคณะทำงานที่จะผลักดันให้คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบนโยบายที่สำคัญที่จะสร้างความเข้มแข็งและพลิกโฉมการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อทำให้ชีวิตของพี่น้องดีขึ้น
เช่น แนวคิดการพิจารณายกฐานะ อบต.เป็นเทศบาลตำบล แต่ยังคงให้มีกำนันและผู้ใหญ่บ้าน, แนวคิดการผลักดันการเพิ่มสัดส่วนงบประมาณให้อปท. เป็นร้อยละ 35 ให้เร็วที่สุดที่ฐานะการเงินการคลังของประเทศเอื้อให้ทำได้ และถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตและสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้นเร็วขึ้น และแนวคิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีความพร้อม โดยทันทีที่คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบนโยบายเหล่านี้ก็จะประกาศเป็นนโยบายหาเสียงต่อไปตามกฎหมาย
ประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและมีประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ล้วนมีการกระจายอำนาจที่เหมาะสม และประชาชนในท้องถิ่นมีความสุข พรรคยังมีนโยบายอีกมากที่รอความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค และมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้ชนะแลนด์สไลด์เพื่อเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องให้ประชาชนต่อไป