ตามที่ศาลปกครองกลาง ได้อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และชาวบ้านในพื้นที่ กทม. , ปทุมธานี และอยุธยา รวม 45 คน ยื่นฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี , คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ ( กยน.) , คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ ( กบอช.) และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ( กบอ.) จัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน โดยขอให้มีคำสั่งเพิกถอนแผนการบริหารจัดการน้ำ ที่ใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท และสั่งให้ร่วมกันจัดให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นประชาชนตามรัฐธรรมนูญไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2556 ไปนั้น
สำหรับกรณีนี้ ดร.พงษ์พันธ์ สุนทรชัยสส.จังหวัดหนองคายกล่าวว่า โดยปรกติบรรดาสส.ในแต่ละจังหวัดคงได้ดำเนินการขอมติท้องถิ่นในแต่ละตำบลเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง และปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้ว ทั้งนี้จากถ้อยแถลงเมื่อเช้าวันที่ 28 มิถุนายน 2556
อย่างไรก็ดีเมื่อเป็นคำสั่งศาลพรรคเพื่อไทยคงต้องทำตาม แต่ใคร่ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยได้พยายามทำแล้วโดยถือเป็นการแก้ปัญหาระดับชาติ แต่ถ้าหากจะต้องล่าช้าไปผู้ร้องคัดค้านและพรรคพวกรวมทั้งพรรคการเมืองที่สนับสนุนการคัดค้านจะต้องรับผิดชอบ ในกรณีคัดค้านนโยบายของรัฐบาลประชาชนทั่วไปย่อมเห็นได้ว่าพรรคการเมืองฝ่ายค้านมิได้ค้านอย่างสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเรื่องรับจำนำข้าวกว่าที่รัฐบาลจะกำหนดและลงมือทำตามนโยบายได้ ต้องทนถูกวิพากษ์โจมตีจากพรรคฝ่ายค้านขนาดหนัก ครั้งเมื่อรัฐาลทำไปแล้วเกิดผลดีแต่รัฐบาลจำต้องปรับเปลี่ยนแนวนโยบายไปบ้าง พรรคการเมืองฝ่ายค้านนั่นแหละก็ออกมาคัดค้านอีก แต่จะอย่างไรก้ดีตนมั่นใจเช่นเดียวกับสส.พรรคเพื่อไทยว่า นส.ยิ่งลักษณ์ชิณวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะต้องเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวและแม้แต่โครงการบริหารจัดการน้ำระดับชาติอย่างแน่นอน
หนองคายยืนยันโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งและแหล่งน้ำ
สำหรับกรณีนี้ ดร.พงษ์พันธ์ สุนทรชัยสส.จังหวัดหนองคายกล่าวว่า โดยปรกติบรรดาสส.ในแต่ละจังหวัดคงได้ดำเนินการขอมติท้องถิ่นในแต่ละตำบลเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง และปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้ว ทั้งนี้จากถ้อยแถลงเมื่อเช้าวันที่ 28 มิถุนายน 2556
อย่างไรก็ดีเมื่อเป็นคำสั่งศาลพรรคเพื่อไทยคงต้องทำตาม แต่ใคร่ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยได้พยายามทำแล้วโดยถือเป็นการแก้ปัญหาระดับชาติ แต่ถ้าหากจะต้องล่าช้าไปผู้ร้องคัดค้านและพรรคพวกรวมทั้งพรรคการเมืองที่สนับสนุนการคัดค้านจะต้องรับผิดชอบ ในกรณีคัดค้านนโยบายของรัฐบาลประชาชนทั่วไปย่อมเห็นได้ว่าพรรคการเมืองฝ่ายค้านมิได้ค้านอย่างสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเรื่องรับจำนำข้าวกว่าที่รัฐบาลจะกำหนดและลงมือทำตามนโยบายได้ ต้องทนถูกวิพากษ์โจมตีจากพรรคฝ่ายค้านขนาดหนัก ครั้งเมื่อรัฐาลทำไปแล้วเกิดผลดีแต่รัฐบาลจำต้องปรับเปลี่ยนแนวนโยบายไปบ้าง พรรคการเมืองฝ่ายค้านนั่นแหละก็ออกมาคัดค้านอีก แต่จะอย่างไรก้ดีตนมั่นใจเช่นเดียวกับสส.พรรคเพื่อไทยว่า นส.ยิ่งลักษณ์ชิณวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะต้องเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวและแม้แต่โครงการบริหารจัดการน้ำระดับชาติอย่างแน่นอน