"ชลน่าน" เมิน"บิ๊กตู่" ไปปราศรัยโคราช - จี้สอบ "ประวิตร"
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_492872/
 
 
“ชลน่าน” เมิน”บิ๊กตู่”ไปปราศรัยโคราช บอกดีแล้วประชาชนจะได้เห็น จะได้ตัดสินใจได้ จี้สอบ”ประวิตร”หาเสียงเวลาราชการ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปเปิดปราศรัยที่นคราชสีมา ว่า จะเป็นการหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยได้อย่างดียิ่ง อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยเยอะๆ เพราะจะทำให้ประชาชนเปรียบเทียบ และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

เปิดตัวว่าที่ ส.ส.ในเวลาราชการนั้น ต้องไปดูเงื่อนไขในเวลาราชการ หากทำหน้าที่ราชการในเวลาราชการ และต่อเนื่องไปทำงานการเมืองยังพอรับได้แต่ถ้าเป็นระยะเวลาที่อยู่ในเวลาราชการ หรือปฏิบัติราชการอยู่ แล้วเกี่ยวข้องกับการหาเสียงอาจเข้าข่ายใช้ทรัพยากร ใช้หน้าที่อำนาจหา
เสียง ระเบียบ กฎหมาย กกต. เขียนไว้ชัดเจนต้องไปดูในรายละเอียดและข้อเท็จจริง แม้จะมีใบลาก็ต้องตรวจสอบ

”ท่านมีหน้าที่และอำนาจอยู่แล้ว แต่ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเราไม่ว่า แต่ถ้าทำไปเพื่อประโยชน์ให้พรรคการเมือง ประชาชนรู้อยู่แล้วว่าท่านเอาเปรียบหรือไม่ แค่นี้ยังแสวงหาประโยชน์เพื่อตัวเอง ถ้าเลือกเข้ามาแล้วจะเป็นอย่างไร ฝากประชาชนลงโทษ” นพ.ชลน่าน กล่าว

---

'ก้าวไกล' แฉ 'อดีตผบ.ทอ.' เอาเครื่อง F16 บินงานลอยอังคารพ่อตัวเอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3802752
 
เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และ เรืออากาศโทธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตลาดพร้าว พรรค ก.ก. แถลงข่าวกรณีความผิดปกติในการใช้เครื่องบิน F16 ของกองทัพอากาศ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดปกติในการใช้ทรัพย์สินทางราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ในงานพิธีลอยอังคารของ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) บิดาของ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. ในขณะนั้น ที่มีการนำเครื่องบิน F16 จำนวน 2 ลำ มาบินเพื่อเป็นเกียรติแก่บิดาของตัวเอง โดยค่าใช้จ่ายในการบินอยู่ที่ 1 ชั่วโมงละ 1.2 แสนบาทต่อลำ ถือเป็นพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นถึงการใช้อำนาจเกินหน้าที่ และเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองในทางที่ผิด
 
ด้าน นายพิจารณ์ กล่าวว่า ถ้าเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่คล้ายกัน ก็จะต้องมีการลงโทษ เนื่องจากใช้ทรัพย์สินราชการมาใช้ในภารกิจส่วนตัว เช่นการใช้รถยนต์ของราชการ มีโทษถึงจำคุก ต่อจากนี้คงจะต้องให้ประชาชนตั้งคำถามไปยังกองทัพอากาศ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และโฆษกกองทัพอากาศต้องตอบคำถามว่า จากเหตุการณ์นี้ใครเป็นผู้ออกคำสั่ง ให้นำเครื่องบินF16 ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ออกไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัว และใช้งบส่วนไหน จากข้อมูลและหลักฐานที่ได้มานั้น มาจากทหารน้ำดี ที่ไม่เห็นด้วยกับระบบที่บิดเบี้ยวเช่นนี

---

นักสิทธิ-ปชช. เดินขบวนทวงศาลฎีกา แก้ไขคำสั่ง ‘หยุดระบบกล่าวหา’ ตีตราคนเห็นต่างทางความคิด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3802887

นักสิทธิ-ปชช. เดินขบวนทวงศาลฎีกา แก้ไขคำสั่ง ‘หยุดระบบกล่าวหา’ ตีตราคนเห็นต่างทางความคิด

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน กลุ่ม 8 องค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย นำโดย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.), สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา, คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD), สถาบันสังคมประชาธิปไตย และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเวทีเสวนา “คำขานรับข้อเสนอตะวัน-แบม แนวทางการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย” และนัดหมายเดินขบวนเพื่อไปยื่นจดหมายปิดถนึกถึงประธานศาลฎีกา เพื่อขอให้ประธานศาลฎีกาเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว การกำหนดหลักประกันและเงื่อนไข การถอนประกันตัว นักกิจกรรมทางการเมืองอย่างเร่งด่วน
 
จากนั้นเวลา 12.45 น. กลุ่ม 8 องค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย และผู้ร่วมกิจกรรม อาทิ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), สมณะดาวดิน, นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า
โดยตั้งขบวนที่บริเวณหน้าห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา และมุ่งหน้าเดินเท้าไปยังศาลฎีกา ถ.ราชดำเนินกลาง เพื่อขอให้ประธานศาลฎีกาเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว การกำหนดหลักประกันและเงื่อนไข การถอนประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมืองอย่างเร่งด่วน
 
ทั้งนี้ เนื่องจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้ส่งจดหมายปิดผนึกเรียนประธานศาลฎีกาไปเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อห่วงกังวลเรื่องความเป็นอิสระของผู้พิพากษา และการใช้ดุลพินิจในการออกคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยกเลิกคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว ให้ปล่อยตัวชั่วคราว และอนุญาตให้ผู้ต้องหา/จำเลยยกเลิกการปล่อยตัวชั่วคราว โดยเฉพาะกรณีของ ตะวันและแบม อย่างไรก็ตาม จนบัดนี้มูลนิธิฯยังไม่ได้รับคำตอบหรือการติดต่อกลับ ไปจนถึงการตอบสนองต่อข้อเสนอแต่อย่างใด จึงเดินขบวนไปทวงถามข้อเรียกร้องในวันนี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการเดินขบวน ผู้ร่วมกิจกรรม ตะโกนคำว่า ‘ยกเลิก 112 ปล่อยเพื่อนเรา คืนสิทธิการประกันตัว’ อย่างต่อเนื่อง พร้อมห้อยภาพใบหน้าผู้ต้องหารทางการเมือง รวมทั้งข้อความเรียกร้องเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อาทิ Respect Protect, fulfill Our Right to Bail “หยุดระบบกล่าวหา ตีตราคนเห็นต่างทางความคิด” เป็นต้น เดินผ่านแยกคอกวัว ก่อนเดินต่อไปบนถนนราชดำเนินกลาง
 
ต่อมา เวลา 13.05 น. ขบวนเดินเท้า มาถึงบริเวณหน้าศาลฎีกา