ศาลฎีกาคดีเลือกตั้งถอนสิทธิ 5 ปี ส.ส.ศรีสะเกษ ปชป. ให้เงินจูงใจเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ศาลอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ ลต.10/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ผู้ร้อง ขอให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายสมเกียรติ ไตรสรณปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้คัดค้าน ด้วยข้อกล่าวหา ให้ทรัพย์สิน (เงิน) แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง
ศาลไต่สวนแล้วและวินิจฉัยแล้วเห็นว่า ผู้คัดค้านสมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 1 หมายเลข 10 ย่อมสามารถที่จะดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งได้ แต่หากจะจัดอบรมผู้ช่วยหาเสียงด้านกฎหมายควรดำเนินการแต่เนิ่นๆ แต่ผู้คัดค้านกลับไม่ดำเนินการปล่อยให้เวลาผ่านไปถึง 16 วัน จึงจะมีหนังสือแจ้งประธาน กกต.ศรีสะเกษถึงการจัดฝึกอบรมดังกล่าว ซึ่งเหลือระยะเวลาเพียง 14 วัน ซึ่งเป็นครึ่งทางของวันเลือกตั้งแล้ว จึงไม่น่าที่จะจัดหาบุคคลมารับการฝึกอบรมได้ทันท่วงที การที่ผู้คัดค้านมีหนังสือแจ้ง ปธ.กกต.ศรีสะเกษ วันที่ 17 มิถุนายน 2554 อ้างว่าจะประสงค์จะจัดฝึกอบรมผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง จึงไม่น่าเชื่อถือ แต่กลับเป็นลักษณะดำเนินการหาคนหลายร้อยคนมาฟังการปราศรัยของผู้คัดค้านและทีมงานมากกว่า และในเนื้อหาการบรรยายเป็นการให้ข้อมูลประวัติและผลงานของบุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์และวิธีการสังเกตการณ์การเลือกตั้งเท่านั้น จึงไม่ใช่การให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะจัดฝึกอบรมตามระเบียบของ กกต.ได้
การกระทำของผู้คัดค้านมีลักษณะการปราศรัยหาเสียง จูงใจ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้คัดค้าน ด้วยการให้เงินแก่ผู้มาฟังการปราศรัย หาใช่เป็นการจ้างผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง หาใช่เป็นการให้ผู้ช่วยหาเสียงนำข้อมูลของผู้สมัครไปเผยแพร่ปากต่อปากกับชาวบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามที่กล่าวอ้าง จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. 2550 มาตรา 53 (1) และการกระทำดังกล่าวมีผลทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้คัดค้านมิได้เป็นโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายสมเกียรติ ไตรสรณปัญญา ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดศรีสะเกษ มีกำหนด 5 ปี นับจากวันมีคำสั่ง
ที่มา:มติชนออนไลน์
............................................................................................
ไม่น่าเชื่อ ไม่จริง ใส่ร้าย ป้ายศรี
เฮ้ยยยยยยยยยยย เป้นไปไม่ได้พรรคคนดี............
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ศาลอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ ลต.10/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ผู้ร้อง ขอให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายสมเกียรติ ไตรสรณปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้คัดค้าน ด้วยข้อกล่าวหา ให้ทรัพย์สิน (เงิน) แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง
ศาลไต่สวนแล้วและวินิจฉัยแล้วเห็นว่า ผู้คัดค้านสมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 1 หมายเลข 10 ย่อมสามารถที่จะดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งได้ แต่หากจะจัดอบรมผู้ช่วยหาเสียงด้านกฎหมายควรดำเนินการแต่เนิ่นๆ แต่ผู้คัดค้านกลับไม่ดำเนินการปล่อยให้เวลาผ่านไปถึง 16 วัน จึงจะมีหนังสือแจ้งประธาน กกต.ศรีสะเกษถึงการจัดฝึกอบรมดังกล่าว ซึ่งเหลือระยะเวลาเพียง 14 วัน ซึ่งเป็นครึ่งทางของวันเลือกตั้งแล้ว จึงไม่น่าที่จะจัดหาบุคคลมารับการฝึกอบรมได้ทันท่วงที การที่ผู้คัดค้านมีหนังสือแจ้ง ปธ.กกต.ศรีสะเกษ วันที่ 17 มิถุนายน 2554 อ้างว่าจะประสงค์จะจัดฝึกอบรมผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง จึงไม่น่าเชื่อถือ แต่กลับเป็นลักษณะดำเนินการหาคนหลายร้อยคนมาฟังการปราศรัยของผู้คัดค้านและทีมงานมากกว่า และในเนื้อหาการบรรยายเป็นการให้ข้อมูลประวัติและผลงานของบุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์และวิธีการสังเกตการณ์การเลือกตั้งเท่านั้น จึงไม่ใช่การให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะจัดฝึกอบรมตามระเบียบของ กกต.ได้
การกระทำของผู้คัดค้านมีลักษณะการปราศรัยหาเสียง จูงใจ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้คัดค้าน ด้วยการให้เงินแก่ผู้มาฟังการปราศรัย หาใช่เป็นการจ้างผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง หาใช่เป็นการให้ผู้ช่วยหาเสียงนำข้อมูลของผู้สมัครไปเผยแพร่ปากต่อปากกับชาวบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามที่กล่าวอ้าง จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. 2550 มาตรา 53 (1) และการกระทำดังกล่าวมีผลทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้คัดค้านมิได้เป็นโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนายสมเกียรติ ไตรสรณปัญญา ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดศรีสะเกษ มีกำหนด 5 ปี นับจากวันมีคำสั่ง
ที่มา:มติชนออนไลน์
............................................................................................
ไม่น่าเชื่อ ไม่จริง ใส่ร้าย ป้ายศรี