โต๊ะทัวร์หนักใจ ต่างชาติเปิดขายทริปทัวร์ทางออนไลน์ ตัดราคาแย่งลูกค้า
https://www.thairath.co.th/news/local/north/2612710
ธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยวที่เชียงใหม่กำลังฟื้นตัว กลับมาขายได้ขายดี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งยุโรป-เอเชีย เข้ามาซื้อทัวร์ ขณะเดียวกันมีชาวต่างชาติเปิดขายทริปทัวร์ออนไลน์ ตัดราคาแย่งลูกค้าคนจีน หวั่นในระยะยาวจะมีผลกระทบกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่
การเข้ามาของนักท่องเที่ยวทั้งจากยุโรป เอเชีย และอื่นๆ ภายหลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เบาบางลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนแขกเจ้าประจำ และยังมีจำนวนมากสุด
ที่ จ.เชียงใหม่ การท่องเที่ยวอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจบริการต่างๆ เริ่มกลับมา จากเจ้าเล็กขยับไปสู่เจ้าใหญ่ที่กำลังปรับปรุงสถานที่ จ้างคนกลับเข้ามาทำงานเพื่อให้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง พร้อมๆ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากหลั่งไหลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ โดยตัวเลขคาดการณ์ใน 2 สัปดาห์แรกมีนักท่องเที่ยวจีนบินตรงจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาสู่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 3,000 คน ส่งผลให้บรรยากาศในเมืองเชียงใหม่กลับมาคึกคัก
ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ ตลอดทั้งวันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งชาวจีนและฝั่งยุโรปออกมาเดินเที่ยวชมบรรยากาศและถ่ายภาพกับประตูเมืองที่เป็นแลนด์มาร์กและจุดเช็กอิน ถ่ายภาพกับฝูงนกพิราบที่มีอยู่หลายร้อยตัวบนลาน
ขณะที่ “
โต๊ะทัวร์” ท่องเที่ยวในย่านนี้มีนักท่องเที่ยวมาซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริป ซึ่งทริปทัวร์จะพาไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะวัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ที่กำลังเป็นที่นิยม นอกจากนี้ยังมีทริปเลี้ยงช้าง ขี่ช้าง และกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน
นาง
อัญชัญ จิรวัจนกุล เจ้าของธุรกิจพาเที่ยวไทยทัวร์ ย่านประตูท่าแพ เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวและธุรกิจทัวร์เริ่มดีขึ้นกว่าเดิมมาก ส่งผลให้โปรแกรมท่องเที่ยว หรือทริปทัวร์มีการแข่งขันมากขึ้นด้วย ซึ่งตอนนี้พบว่ามีบริษัทต่างชาติที่เปิดทริปท่องเที่ยวเชียงใหม่ในช่องทางออนไลน์หลายช่องทาง ที่เป็นที่นิยมของชาวจีน และมีการตัดราคาขายถูกกว่าค่อนข้างมาก ทำให้โต๊ะทัวร์ของคนไทยที่เปิดหน้าร้านถูกแย่งลูกค้าไป
ลักษณะการขายทัวร์ออนไลน์ของต่างชาติไม่ต่างกับโต๊ะทัวร์บ้านเรา มีรายละเอียดชื่อทริป สถานที่ท่องเที่ยวและระยะเวลา แต่ขายในราคาต่ำกว่า โดยมีการติดต่อกับเอเย่นต์และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่โดยตรง ส่วนที่โต๊ะทัวร์ในพื้นที่ที่ต้องขายแพงกว่าเป็นเพราะมีต้นทุนเช่าพื้นที่หน้าร้านและมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบบริษัท ตอนนี้ธุรกิจทัวร์ที่มีหน้าร้านกำลังได้รับผลกระทบ
"
ดีใจมากที่เห็นนักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการและพ่อค้าแม่ค้าได้ลืมตาอ้าปาก ทำมาหากินมีรายได้มากยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ห่วงว่าการขายทริปออนไลน์ของบริษัทต่างชาติจะทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาว" นาง
อัญชัญ จิรวัจนกุล เจ้าของธุรกิจพาเที่ยวไทยทัวร์กล่าว.
สมคิด ซัด บิ๊กตู่ หาเสียงแฝง ไม่อายบ้างหรือ ย้ำเพื่อไทย ชูตั้งสสร. ยกร่างรธน.ใหม่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7477153
สมคิด ซัด บิ๊กตู่ หาเสียงแฝง ไม่อายบ้างหรือ ทั้งที่เคยด่านักการเมือง ย้ำเพื่อไทยชูนโยบายแก้มาตรา 256 ตั้งส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2566 นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย(พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272 ที่นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคกับคณะ เป็นผู้เสนอ จนนำมาสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภา แม้สุดท้ายจะไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะไม่ครบองค์ประชุม สภาล่มในที่สุด ทั้งนี้ เป้าประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด
ฝ่ายไม่เห็นด้วยก็อ้างว่าการยกเลิกอำนาจส.ว.เหลือวาระอีก 1 ปีจะไปแก้ทำไม เรื่องระยะเวลาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือ ต้องยกเลิกให้ส.ว.มีสิทธิเลือกนายกฯ เพราะนายกฯ ควรมาจากส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกฯ มาจากแคนดิเดตที่พรรคคัดสรรมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยประชาชนก็ได้รับรู้รับทราบโดยสาธารณะ
นาย
สมคิด กล่าวต่อว่า แม้ครั้งนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยืนยันว่า 1 ในนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรค จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยึดโยงกับประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
ส่วนที่พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าถี่ยิบนั้น น่าประหลาดใจ เพราะก่อนมีอำนาจ พล.อ.
ประยุทธ์ ออกมาต่อว่าโจมตีนักการเมืองว่า เลวที่สุด คนทำการเมืองที่อยู่กับประชาชนกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาพล.อ.
ประยุทธ์ในขณะนั้น มาวันนี้พล.อ.
ประยุทธ์ ทำเสียเอง ปัจจุบันพล.อ.
ประยุทธ์ทำยิ่งกว่านักการเมือง
“
อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ กลับตัวกลับใจ หัดให้เกียรติคนอื่น เคารพความคิดคนอื่นบ้าง เพราะทุกวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ทำหนักยิ่งกว่านักการเมือง ลงพื้นที่พร้อมตำแหน่งนายกฯ จะอ้างว่าไปทำงาน แต่แฝงหาเสียงแบบนี้ แล้วที่พล.อ.ประยุทธ์เคยด่านักการเมือง ไม่อายตัวเองบ้างหรือ” นาย
สมคิด กล่าว
“จิรายุ” ฉะ “บิ๊กตู่” หลังไม่มาตอบกระทู้สด “ทุนจีนสีเทา-ตั๋วนำเที่ยววีไอพี” ลั่นอย่ายุบสภาหนี ซักฟอก ม.152
https://siamrath.co.th/n/417956
วันที่ 26 ม.ค. 66 ที่รัฐสภา นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาในวันนี้ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้รับหน้าที่ให้ถามกระทู้สด 2 กระทู้ และมีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ด้วย 1 กระทู้ โดยตนและพรรคก้าวไกล จะถามกระทู้เรื่องทุนจีนสีเทาในกรณีที่เข้ามาก่ออาชญากรรมและมีการข่มขู่พยานรวมถึงตั๋ววีไอพีของนักท่องเที่ยวจีนที่มีการใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการขายบัตรอีลิทการ์ดซึ่งเป็นบัตรวีไอพีให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ราคา 5 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท ปรากฏว่า ผู้ที่ขายคือกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้ขายให้กลุ่มทุนจีนสีเทาหลายคน นักท่องเที่ยวหลายคนใช้สิทธิพิเศษนี้ ผ่านตม.เข้ามา และซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา จึงได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีและรมว.ท่องเที่ยวฯ แต่ทั้ง 2 ท่านปฏิเสธ และบอกว่าติดภารกิจซึ่งเป็นคำยอดฮิต แต่ในรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต้องมาตอบชี้แจงกระทู้ถามสดของที่ประชุมสภาฯ
“
ท่านจะอธิบายว่าไม่ทราบล่วงหน้าไม่ได้ เพราะท่านนายกฯจะต้องเตรียมแสตนบายเพื่อที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาตอบแทน ฉะนั้น วันนี้แม้ว่าท่านจะไม่มาตอบ แต่ผมก็จะขอถามทิพย์ ถามไปอย่างนั้น ถามท่านประธานไป แม้ท่านประธานจะตอบได้หรือไม่ได้ ก็คงไม่ตอบอยู่แล้ว เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าปลายเทอมของรัฐบาลชุดนี้ ผมไม่เคยเห็นนายกฯมาตอบกระทู้เลย ครั้งที่แล้วมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯมาตอบ ก็ตอบไม่ชัดเจน ผมคิดว่าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ทักท้วงก็รีบๆยุบสภาไปเลย เสียเวลาประเทศชาติและประชาชน” นาย
จิรายุกล่าว
เมื่อถามว่า แม้ไม่ได้ตั้งกระทู้ถามวันนี้ ฝ่ายค้านจะพิจารณานำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า เราเอาเวลาอันใกล้ก่อน ในเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในรัฐธรรมนูญเขียนว่ากระทู้สดต้องรีบถาม ถ้าไม่ถามก็จะเกิดปัญหา การอภิปรายมาตรา 152 หลังวันที่ 15 ก.พ. คิดว่าช้าไป ฉะนั้น สัปดาห์หน้าตนจะยื่นถามอีก
“
ผมก็จะหน้าด้านถามอีก ส่วนท่านจะมาตอบหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ประชาชนจะเป็นผู้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่มา 8-9 ปี ทำอะไรแบบไหนอย่างไร ขนาดใช้กระบวนการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร เรื่องของทุนจีนสีเทาน่าสนใจ ฉะนั้น อย่าปล่อยให้ประชาชนมาทำการตรวจสอบ เราเป็นส.ส.ทำไมไม่ทำการตรวจสอบ ทั้งนี้ นอกจากการยื่นกระทู้ถามสดก็คงจะต่อเนื่องไปถึงอภิปรายมาตรา 152 แน่นอน ฉะนั้น อย่าพึ่งรีบยุบสภาหนีไปก่อน ก็แล้วกันแต่หากจะยุบก็รีบยุบเสาร์ อาทิตย์ นี้เลย” นาย
จิรายุ กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีที่จะมีการตั้งกระทู้ถามจะมีเรื่องความทุจริตด้วยหรือไม่ นาย
จิรายุ กล่าวว่า ความทุจริตถ้าไล่กันมามีอยู่ประมาณ 10 กว่ากระทรวง เพราะล่าสุดภาคเอกชนก็มาเปิดเผยถึงเรื่องการทุจริตกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จริงๆมีหลายกระทรวงมาก ฝ่ายค้านทำงานแตะตรงไหนก็เจอทุจริตมากมาย ฉะนั้น เรื่องของทุนจีนสีเทาหรือเรื่องการใช้ทรัพยากรของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงเรื่องแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ ถ้าเป็นรัฐบาลชุดอื่น ตายกันยกครัวแล้ว หมายถึงครม.ลาออกกันหมดแล้ว แต่นี่ก็ยังเนียนๆให้เวลารักษาแผลใจกันไปเรื่อยๆ โดยวันที่15 ก.พ. จะเป็นการเปิดแผลราวไปถึงรากแน่นอน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับคำตอบของพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรื่องทุนจีนสีเทาและรถนำขบวนว่าจะจัดการ นาย
จิรายุ กล่าวว่า ท่านนายกฯพูดแบบนี้เหมือนเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เวลามีเรื่องอะไรที่ข้าราชการทำไม่ถูกต้องท่านก็จะบอกว่า ผิดก็ต้องลงโทษ แต่วิธีการป้องกันและปราบปรามเป็นอย่างไร ให้ท่านเขียนให้ชัดว่า ตำรวจมีหน้าที่แบบไหนอย่างไร ถ้าไม่ใช่ก็คือผิด ซึ่งผิดก็ไม่ได้ผิดตั้งแต่นายกฯ ก็ต้องผิดถึงผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทั้งหลายตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว การที่นายกฯตอบ ไม่ได้บอกว่าท่านจะเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต หรือเป็นคนที่มือสะอาดอยู่เสมอ แต่การที่เห็นคนทำร้ายกัน มีการทุจริตแต่ท่านไม่ได้เข้าไปห้าม ตนถือว่าผิดกฎหมาย ฉะนั้น ขอให้ท่านรีบสั่งการ ปีนี้ตั้งต้นปีมีแต่ข่าวไม่ดีของรัฐบาล ทำให้ประชาชนคาดหวังไม่ได้
JJNY : โต๊ะทัวร์หนักใจ ต่างชาติขายทริป│สมคิดซัดตู่ หาเสียงแฝง│“จิรายุ”ฉะ“ตู่”หลังไม่มาตอบกระทู้สด│จีนเผยสถิติ ติดโควิด
https://www.thairath.co.th/news/local/north/2612710
ธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยวที่เชียงใหม่กำลังฟื้นตัว กลับมาขายได้ขายดี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งยุโรป-เอเชีย เข้ามาซื้อทัวร์ ขณะเดียวกันมีชาวต่างชาติเปิดขายทริปทัวร์ออนไลน์ ตัดราคาแย่งลูกค้าคนจีน หวั่นในระยะยาวจะมีผลกระทบกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่
การเข้ามาของนักท่องเที่ยวทั้งจากยุโรป เอเชีย และอื่นๆ ภายหลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เบาบางลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนแขกเจ้าประจำ และยังมีจำนวนมากสุด
ที่ จ.เชียงใหม่ การท่องเที่ยวอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจบริการต่างๆ เริ่มกลับมา จากเจ้าเล็กขยับไปสู่เจ้าใหญ่ที่กำลังปรับปรุงสถานที่ จ้างคนกลับเข้ามาทำงานเพื่อให้กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง พร้อมๆ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากหลั่งไหลเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ โดยตัวเลขคาดการณ์ใน 2 สัปดาห์แรกมีนักท่องเที่ยวจีนบินตรงจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาสู่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 3,000 คน ส่งผลให้บรรยากาศในเมืองเชียงใหม่กลับมาคึกคัก
ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ ตลอดทั้งวันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งชาวจีนและฝั่งยุโรปออกมาเดินเที่ยวชมบรรยากาศและถ่ายภาพกับประตูเมืองที่เป็นแลนด์มาร์กและจุดเช็กอิน ถ่ายภาพกับฝูงนกพิราบที่มีอยู่หลายร้อยตัวบนลาน
ขณะที่ “โต๊ะทัวร์” ท่องเที่ยวในย่านนี้มีนักท่องเที่ยวมาซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริป ซึ่งทริปทัวร์จะพาไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะวัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ที่กำลังเป็นที่นิยม นอกจากนี้ยังมีทริปเลี้ยงช้าง ขี่ช้าง และกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน
นางอัญชัญ จิรวัจนกุล เจ้าของธุรกิจพาเที่ยวไทยทัวร์ ย่านประตูท่าแพ เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวและธุรกิจทัวร์เริ่มดีขึ้นกว่าเดิมมาก ส่งผลให้โปรแกรมท่องเที่ยว หรือทริปทัวร์มีการแข่งขันมากขึ้นด้วย ซึ่งตอนนี้พบว่ามีบริษัทต่างชาติที่เปิดทริปท่องเที่ยวเชียงใหม่ในช่องทางออนไลน์หลายช่องทาง ที่เป็นที่นิยมของชาวจีน และมีการตัดราคาขายถูกกว่าค่อนข้างมาก ทำให้โต๊ะทัวร์ของคนไทยที่เปิดหน้าร้านถูกแย่งลูกค้าไป
ลักษณะการขายทัวร์ออนไลน์ของต่างชาติไม่ต่างกับโต๊ะทัวร์บ้านเรา มีรายละเอียดชื่อทริป สถานที่ท่องเที่ยวและระยะเวลา แต่ขายในราคาต่ำกว่า โดยมีการติดต่อกับเอเย่นต์และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่โดยตรง ส่วนที่โต๊ะทัวร์ในพื้นที่ที่ต้องขายแพงกว่าเป็นเพราะมีต้นทุนเช่าพื้นที่หน้าร้านและมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบบริษัท ตอนนี้ธุรกิจทัวร์ที่มีหน้าร้านกำลังได้รับผลกระทบ
"ดีใจมากที่เห็นนักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการและพ่อค้าแม่ค้าได้ลืมตาอ้าปาก ทำมาหากินมีรายได้มากยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ห่วงว่าการขายทริปออนไลน์ของบริษัทต่างชาติจะทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาว" นางอัญชัญ จิรวัจนกุล เจ้าของธุรกิจพาเที่ยวไทยทัวร์กล่าว.
สมคิด ซัด บิ๊กตู่ หาเสียงแฝง ไม่อายบ้างหรือ ย้ำเพื่อไทย ชูตั้งสสร. ยกร่างรธน.ใหม่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7477153
สมคิด ซัด บิ๊กตู่ หาเสียงแฝง ไม่อายบ้างหรือ ทั้งที่เคยด่านักการเมือง ย้ำเพื่อไทยชูนโยบายแก้มาตรา 256 ตั้งส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2566 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย(พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272 ที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคกับคณะ เป็นผู้เสนอ จนนำมาสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภา แม้สุดท้ายจะไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะไม่ครบองค์ประชุม สภาล่มในที่สุด ทั้งนี้ เป้าประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด
ฝ่ายไม่เห็นด้วยก็อ้างว่าการยกเลิกอำนาจส.ว.เหลือวาระอีก 1 ปีจะไปแก้ทำไม เรื่องระยะเวลาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือ ต้องยกเลิกให้ส.ว.มีสิทธิเลือกนายกฯ เพราะนายกฯ ควรมาจากส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกฯ มาจากแคนดิเดตที่พรรคคัดสรรมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยประชาชนก็ได้รับรู้รับทราบโดยสาธารณะ
นายสมคิด กล่าวต่อว่า แม้ครั้งนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยืนยันว่า 1 ในนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรค จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยึดโยงกับประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าถี่ยิบนั้น น่าประหลาดใจ เพราะก่อนมีอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาต่อว่าโจมตีนักการเมืองว่า เลวที่สุด คนทำการเมืองที่อยู่กับประชาชนกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาพล.อ.ประยุทธ์ในขณะนั้น มาวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ทำเสียเอง ปัจจุบันพล.อ.ประยุทธ์ทำยิ่งกว่านักการเมือง
“อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ กลับตัวกลับใจ หัดให้เกียรติคนอื่น เคารพความคิดคนอื่นบ้าง เพราะทุกวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ทำหนักยิ่งกว่านักการเมือง ลงพื้นที่พร้อมตำแหน่งนายกฯ จะอ้างว่าไปทำงาน แต่แฝงหาเสียงแบบนี้ แล้วที่พล.อ.ประยุทธ์เคยด่านักการเมือง ไม่อายตัวเองบ้างหรือ” นายสมคิด กล่าว
“จิรายุ” ฉะ “บิ๊กตู่” หลังไม่มาตอบกระทู้สด “ทุนจีนสีเทา-ตั๋วนำเที่ยววีไอพี” ลั่นอย่ายุบสภาหนี ซักฟอก ม.152
https://siamrath.co.th/n/417956
วันที่ 26 ม.ค. 66 ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาในวันนี้ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้รับหน้าที่ให้ถามกระทู้สด 2 กระทู้ และมีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ด้วย 1 กระทู้ โดยตนและพรรคก้าวไกล จะถามกระทู้เรื่องทุนจีนสีเทาในกรณีที่เข้ามาก่ออาชญากรรมและมีการข่มขู่พยานรวมถึงตั๋ววีไอพีของนักท่องเที่ยวจีนที่มีการใช้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการขายบัตรอีลิทการ์ดซึ่งเป็นบัตรวีไอพีให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ราคา 5 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท ปรากฏว่า ผู้ที่ขายคือกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้ขายให้กลุ่มทุนจีนสีเทาหลายคน นักท่องเที่ยวหลายคนใช้สิทธิพิเศษนี้ ผ่านตม.เข้ามา และซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา จึงได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีและรมว.ท่องเที่ยวฯ แต่ทั้ง 2 ท่านปฏิเสธ และบอกว่าติดภารกิจซึ่งเป็นคำยอดฮิต แต่ในรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต้องมาตอบชี้แจงกระทู้ถามสดของที่ประชุมสภาฯ
“ท่านจะอธิบายว่าไม่ทราบล่วงหน้าไม่ได้ เพราะท่านนายกฯจะต้องเตรียมแสตนบายเพื่อที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาตอบแทน ฉะนั้น วันนี้แม้ว่าท่านจะไม่มาตอบ แต่ผมก็จะขอถามทิพย์ ถามไปอย่างนั้น ถามท่านประธานไป แม้ท่านประธานจะตอบได้หรือไม่ได้ ก็คงไม่ตอบอยู่แล้ว เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าปลายเทอมของรัฐบาลชุดนี้ ผมไม่เคยเห็นนายกฯมาตอบกระทู้เลย ครั้งที่แล้วมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯมาตอบ ก็ตอบไม่ชัดเจน ผมคิดว่าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ทักท้วงก็รีบๆยุบสภาไปเลย เสียเวลาประเทศชาติและประชาชน” นายจิรายุกล่าว
เมื่อถามว่า แม้ไม่ได้ตั้งกระทู้ถามวันนี้ ฝ่ายค้านจะพิจารณานำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า เราเอาเวลาอันใกล้ก่อน ในเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในรัฐธรรมนูญเขียนว่ากระทู้สดต้องรีบถาม ถ้าไม่ถามก็จะเกิดปัญหา การอภิปรายมาตรา 152 หลังวันที่ 15 ก.พ. คิดว่าช้าไป ฉะนั้น สัปดาห์หน้าตนจะยื่นถามอีก
“ผมก็จะหน้าด้านถามอีก ส่วนท่านจะมาตอบหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ประชาชนจะเป็นผู้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่มา 8-9 ปี ทำอะไรแบบไหนอย่างไร ขนาดใช้กระบวนการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร เรื่องของทุนจีนสีเทาน่าสนใจ ฉะนั้น อย่าปล่อยให้ประชาชนมาทำการตรวจสอบ เราเป็นส.ส.ทำไมไม่ทำการตรวจสอบ ทั้งนี้ นอกจากการยื่นกระทู้ถามสดก็คงจะต่อเนื่องไปถึงอภิปรายมาตรา 152 แน่นอน ฉะนั้น อย่าพึ่งรีบยุบสภาหนีไปก่อน ก็แล้วกันแต่หากจะยุบก็รีบยุบเสาร์ อาทิตย์ นี้เลย” นายจิรายุ กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีที่จะมีการตั้งกระทู้ถามจะมีเรื่องความทุจริตด้วยหรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า ความทุจริตถ้าไล่กันมามีอยู่ประมาณ 10 กว่ากระทรวง เพราะล่าสุดภาคเอกชนก็มาเปิดเผยถึงเรื่องการทุจริตกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จริงๆมีหลายกระทรวงมาก ฝ่ายค้านทำงานแตะตรงไหนก็เจอทุจริตมากมาย ฉะนั้น เรื่องของทุนจีนสีเทาหรือเรื่องการใช้ทรัพยากรของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงเรื่องแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ ถ้าเป็นรัฐบาลชุดอื่น ตายกันยกครัวแล้ว หมายถึงครม.ลาออกกันหมดแล้ว แต่นี่ก็ยังเนียนๆให้เวลารักษาแผลใจกันไปเรื่อยๆ โดยวันที่15 ก.พ. จะเป็นการเปิดแผลราวไปถึงรากแน่นอน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับคำตอบของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรื่องทุนจีนสีเทาและรถนำขบวนว่าจะจัดการ นายจิรายุ กล่าวว่า ท่านนายกฯพูดแบบนี้เหมือนเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เวลามีเรื่องอะไรที่ข้าราชการทำไม่ถูกต้องท่านก็จะบอกว่า ผิดก็ต้องลงโทษ แต่วิธีการป้องกันและปราบปรามเป็นอย่างไร ให้ท่านเขียนให้ชัดว่า ตำรวจมีหน้าที่แบบไหนอย่างไร ถ้าไม่ใช่ก็คือผิด ซึ่งผิดก็ไม่ได้ผิดตั้งแต่นายกฯ ก็ต้องผิดถึงผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทั้งหลายตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว การที่นายกฯตอบ ไม่ได้บอกว่าท่านจะเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต หรือเป็นคนที่มือสะอาดอยู่เสมอ แต่การที่เห็นคนทำร้ายกัน มีการทุจริตแต่ท่านไม่ได้เข้าไปห้าม ตนถือว่าผิดกฎหมาย ฉะนั้น ขอให้ท่านรีบสั่งการ ปีนี้ตั้งต้นปีมีแต่ข่าวไม่ดีของรัฐบาล ทำให้ประชาชนคาดหวังไม่ได้