วิสาระดี ซัด 8 ปีรัฐบาลทำเศรษฐกิจย่ำแย่ แนะเลือก เพื่อไทยแลนด์สไลด์ แก้วิกฤต
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7462907

เพื่อไทย ชี้ประชาชนเดือดร้อนหนัก ข้าวของแพง ค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่รายได้ลด แนะเลือกเพื่อไทยแลนสไลด์แก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้
 
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2566 น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่จ.เชียงราย และพบปะพูดคุยกับประชาชน ได้รับเสียงร้องเรียนว่าข้าวของแพง ค่าครองชีพพุ่งสูงมาก ราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ราคาก๊าซหุงต้ม พุ่งสูงมาก เพราะเงินเฟ้อในปี 2565 สูงถึง 6.08% สูงที่สุดในรอบ 24 ปี ขณะที่รายได้ประชาชนส่วนใหญ่ลดลง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งข้าว ลำใย ราคาตกต่ำ ทั้งที่โลกขาดแคลนอาหาร ราคาอาหารโลกเพิ่มขึ้น แต่สินค้าเกษตรของไทยกลับไม่ขึ้น แถมยังลดลง สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรอย่างมาก

แม้ในปีนี้ คาดหมายว่าการท่องเที่ยวของไทยน่าจะดีขึ้น นักท่องเที่ยวจีนน่าจะเข้ามามาก ซึ่งก็เป็นไปได้ แต่ปริมาณนักท่องเที่ยวคงจะไม่เท่ากับปี 2562 ก่อนมีวิกฤตการณ์โควิด แม้ปลายปีที่แล้วที่การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นก็ยังห่างจากปี 2562 โดยนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของปี 2562 ด้วยซ้ำ ดังนั้น การจะฟื้นการท่องเที่ยวจะต้องทำมากกว่านี้ ถ้าจะทำให้การท่องเที่ยวของไทยต้องฟื้นกลับมาเหมือนเดิม และมากกว่าเดิมให้ได้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในจ.เชียงราย ก็ยังฟื้นตัวได้ช้ามาก นักท่องเที่ยวยังเข้ามาน้อย
 
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกปีนี้ทิศทางไม่สดใส ทั้งธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ ได้ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะธนาคารโลกปรับลดลงต่ำมาก เหลือเพียง 1.7% เท่านั้น และยังปรับลดเศรษฐกิจไทยด้วย ซึ่งจะทำให้การส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยลดลงได้ โดยการส่งออกของไทยมีโอกาสจะติดลบได้ในปีนี้ จากสัญญาณการส่งออกเริ่มติดลบในปลายปีที่แล้ว ซึ่งหากการท่องเที่ยวไม่ขยายตัวเท่าที่ควร เศรษฐกิจไทยก็จะขยายตัวได้ต่ำอีก อีกทั้งรัฐบาลยังจะคิดเก็บค่าเหยียบแผ่นดินอีก ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาไม่มากเท่าที่ควร ควรเลิกคิดไปได้แล้ว
 
“ 8 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าเศรษฐกิจไทยย่ำแย่ ขณะที่เศรษฐกิจโลกดีขึ้น ดังนั้น ในปีนี้ถ้าเศรษฐกิจโลกแย่ เศรษฐกิจไทยคงไปต่อได้ยาก หากยังบริหารแบบเดิมๆ จึงอยากขอให้ประชาชนช่วยเลือกพรรคที่ฟื้นเศรษฐกิจได้ และเคยพิสูจน์มาแล้วกันให้มากๆ เพื่อให้ชนะแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ โดยเฉพาะพี่น้องในจ.เชียงราย ที่กำลังลำบากกันอย่างมาก” น.ส.วิสาระดี กล่าว
 

---

 
สมคิด อัด 8 ปี ‘ตู่’ ประเคนงบกองทัพกว่า 1 ล้านล้าน ซ้ำกู้เงินโปะงบ วันเลือกตั้ง ปชช.คิดให้ดี
https://www.matichon.co.th/politics/news_3775345

‘สมคิด’ อัด 8 ปี ‘ประยุทธ์’ งบกองทัพพุ่งเกือบ 1 ล้านล้าน สร้างความมั่นคงให้ตัวเอง จวกกู้โปะงบประมาณทุกปีสร้างหนี้กว่า 4 ล้านล้าน ทิ้งภาระให้ รบ.หน้าตามใช้หนี้ยาว เหน็บไม่อยากคิด ถ้าเป็นนายกฯต่อจะสร้างหนี้เท่าไหร่
 
เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณประจำปี 2567 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่าเป็นการจัดทำงบประมาณขาดดุลเช่นเดิม ซึ่งตลอด 8 ปีที่ผ่านมาจัดทำงบประมาณขาดดุลมาโดยตลอด และมีการกู้เงินโปะงบประมาณทุกปี จากการตรวจสอบพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้การกู้เงินโปะงบประมาณมากกว่า 4 ล้านล้านบาท สร้างหนี้สินไม่รู้จบ
  
นายสมคิดกล่าวว่า การกล่าวอ้างว่าไม่อยากให้เป็นภาระกับรัฐบาลหน้านั้นเป็นการพูดเอาดีเข้าตัว เพราะข้อเท็จจริงคือหนี้สินที่ พล.อ.ประยุทธ์สร้างไว้ ใครมาเป็นรัฐบาลต่อไปต้องไปตามใช้หนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ก่อขึ้น โดยหนี้สินก้อนนี้กระทบเงินลงทุนในการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน ทั้งนี้ งบประมาณประจำปี 2567 สูงถึง 3,350,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็นจำนวน 165 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.18 โดยงบประมาณที่เพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย
 
นายสมคิดกล่าวด้วยว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์อยากเป็นนายกรัฐมนตรีต่อคงไม่สามารถคำนวณได้ว่าประเทศไทยจะเป็นหนี้อีกมากเท่าไหร่ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าประชาชนเห็นอะไรชัดเจนแล้วว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลผลออกมาเช่นไร ถึงเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องยอมรับว่าตัวเองไร้ความสามารถ ประชาชนมองว่า พล.อ.ประยุทธ์แก่เกินกว่าจะมานั่งบริหารประเทศต่อไป ควรให้คนที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามานำพาประเทศจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า
 
“นอกจากนี้ การจัดทำงบประมาณหลายปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่าเน้นสร้างความมั่นคงทางการทหารจึงประเคนงบประมาณให้กับกองทัพ 8 ปี มากกว่า 1 ล้านล้านบาท ซื้ออาวุธให้กองทัพ ซื้อเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ และซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อีกมากมาย อ้างเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตัว พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าความมั่นคงของชาติ
 
“หากงบประมาณเหล่านี้ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนจะสามารถช่วยประชาชนได้หลายล้านครัวเรือน ดังนั้น ถึงเวลานี้ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอยากให้ประชาชนคิดให้ดีว่า 8 ปีที่ผ่านมาเข็ดกันหรือยังกับ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งตั้งแต่ยึดอำนาจปี 2557 ประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชนมีอะไรดีขึ้นมาบ้าง ขอให้ประชาชนคิดให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกใครมาบริหาประเทศต่อไป” นายสมคิดกล่าว
 

---

 
ครม.กร่อย! รมต.ขาดอื้อ บิ๊กป้อม ก็ลา อ้างอ่อนเพลีย คาดไม่อยากเผชิญหน้า บิ๊กตู่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7462836

ครม.กร่อย รัฐมนตรีขาดอื้อ บิ๊กป้อม ลาประชุม อ้างอ่อนเพลียหลังลงพื้นที่พะเยา คาดไม่อยากเผชิญหน้า ‘ประยุทธ์’ หลังทำจดหมายเปิดใจ
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ม.ค. 2566 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งการประชุมวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลาประชุม เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย หลังจากวานนี้ (16 ม.ค.) ได้ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำพื้นที่จ.พะเยา และการดำเนินงานโครงการขุดลอกกว๊านพะเยา รวมถึงการตรวจราชการพื้นที่จ.ลำปาง ตามนโยบายของรัฐบาล
 
อย่างไรก็ตาม การลาประชุม ครม.วันนี้ ถูกจับตามองจากหลายฝ่าย ถึงความสัมพันธ์ และการเผชิญหน้ากับพล.อ.ประยุทธ์ หลังจาก พล.อ.ประวิตร ทำจดหมายเปิดใจทำนองตัดพ้อทางการเมืองผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ ต้องจับตาดูด้วยว่า ในเวลา 15.00 น. ในการแถลงนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำการพรรค ถ.รัชดาฯ พล.อ.ประวิตรจะเดินทางเข้าร่วมหรือไม่

นอกจากพล.อ.ประวิตร ลาประชุมแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ได้ลาการประชุมเช่นกัน
 
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทราบข่าวพล.อ.ประวิตร ลาประชุมครม.หรือไม่ โดยไม่ตอบคำถามดังกล่าว