“อิ๊งค์” สัญจรเชียงใหม่ทุ่ม 2 หมื่น ล. แจกเพิ่มเด็กแรกเกิด-เบี้ยคนชรา

มุนเงิน แจกๆๆๆๆๆ อมยิ้ม04

ครม.สัญจรเชียงใหม่ อนุมัติงบฯ กระตุ้นท่องเที่ยว-ฟื้นฟูหลังน้ำลดเฉียด 2 หมื่นล้าน ยกเว้นภาษีซ่อมบ้าน-รถพื้นที่น้ำท่วม 8 ล้านราย ปรับเบี้ยคนชราสูงสุด 1,250 บาท แจกเด็กแรกเกิด 600 บาทถ้วนหน้า ต่อเวลารถไฟฟ้า 20 บาท 2 สาย ขึ้นเงินค่าตอบแทนราชการ ป.ตรี เริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 18,000 บาท เตรียมขึ้นค่าแรง 400 บาทต้นปี’68 เลื่อนแจกเงินหมื่น ไร่ละพัน

ครม.สัญจรเชียงใหม่ อนุมัติงบฯ กระตุ้นท่องเที่ยว-ฟื้นฟูหลังน้ำลดเฉียด 2 หมื่นล้าน ยกเว้นภาษีซ่อมบ้าน-รถพื้นที่น้ำท่วม 8 ล้านราย เห็นชอบปรับเบี้ยคนชราสูงสุด 1,250 บาท แจกเด็กแรกเกิด 600 บาทถ้วนหน้า ต่อเวลารถไฟฟ้า 20 บาท 2 สายถึงปลายปีหน้า ขึ้นเงินค่าตอบแทนราชการ ป.ตรี เริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 18,000 บาท ตั้ง 2 บอร์ดไตรภาคีเตรียมขึ้นค่าแรง 400 บาทต้นปี’68 เลื่อนแจกเงินหมื่น ไร่ละพันสัปดาห์หน้า

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งแรก ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 67 ว่าขณะนี้จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้แล้ว หลังผ่านสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งหลังจากนี้ตั้งแต่ปลายปี’67 จนถึงต้นปี’68 รัฐบาลจะมีการจัดงานสนับสนุนการท่องเที่ยวหลายกิจกรรม อาทิ โครงการวินเทอร์เฟสติวัล เพื่อกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ

ขณะที่การฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วันนี้ ครม.เห็นชอบหลักการโครงการเร่งด่วนในพื้นที่เชียงราย และเชียงใหม่ จำนวน 39 โครงการ กรอบวงเงิน 641.13 ล้านบาท โดยให้งบฯกลาง ปี’68 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการซ่อมแซมระบบคมนาคม ซ่อมแซมเขื่อนป้องกันตลิ่ง และการระบายน้ำต่าง ๆ
อนุมัติงบฯ เฉียด 2 หมื่นล้าน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยอีกว่า ครม.สัญจรเห็นชอบในหลักการตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอโครงการเร่งด่วนและระยะยาวของ จ.เชียงใหม่และเชียงราย วงเงิน 19,282 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนใน จ.เชียงใหม่และเชียงราย
โดย จ.เชียงใหม่ ของบประมาณในการแก้ไขถนนที่พังจากเหตุอุทกภัย ส่วน จ.เชียงราย เป็นเรื่องโครงสร้างต่าง ๆ ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า สาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเยียวยาให้ประชาชนในพื้นที่

นอกจาก จ.เชียงใหม่ มีโครงการระยะยาวด้านการพัฒนาซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน ป้องกัน และบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัย วงเงินประมาณ 5,200 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้เป็นแนวทางของรัฐบาล ว่าหากปีหน้ามีปริมาณน้ำฝนมากจนเกิดอุทกภัย จะได้แก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นายจิรายุกล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งประเทศ ด้วยการลดภาระด้านภาษีเพื่อซ่อมแซมบ้าน รถที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย

ต่อเวลารถไฟฟ้า 20 บาท 2 สาย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยอีกว่า ครม.ยังอนุมัติมาตรการต่ออายุอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์-ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 67-30 พ.ย. 68 โดยประมาณการว่ามีการสูญเสียรายได้ รถไฟชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าสายสีม่วง 35.35 ล้านบาท 272.99 ล้านบาท ส่วนแหล่งที่มาของเงินชดเชยค่าโดยสาร ร.ฟ.ท.จะเสนอขอรับจัดสรรงบฯ เพื่อชดเชยต่อไป ขณะที่ รฟม.จะนำเงินรายได้ที่ต้องส่งคลังมาชดเชย

เพิ่มเบี้ยคนแก่สูงสุด 1,250 บาท
คณะรัฐมนตรีสัญจร จ.เชียงใหม่ ยังมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอปรับฐานกลุ่มเป้าหมายโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดจาก 0-6 ปี ในครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 จากเดือนละ 600 บาท ปรับให้เป็นเงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า โดยไม่ต้องคัดกรองรายได้ โดยครอบคลุมตั้งแต่ในครรภ์ 4 เดือน
พร้อมปรับเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ จากเดิมอายุ 60-69 ปี เดือนละ 600 เป็น 700 บาท อายุ 70-79 เดือนละ 700 เป็น 850 บาท อายุ 80-89 จากเดือนละ 800 เป็น 1,000 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไป จากเดือนละ 1,000 เป็นเดือนละ 1,250 พร้อมทั้งปรับเบี้ยกลุ่มคนพิการจากเดิม 800-1,000 บาท ปรับเป็น 1,000 ถ้วนหน้า

ขึ้นเงินค่าตอบแทนข้าราชการ
นอกจากนี้ ครม.รับทราบข้อเสนอการปรับอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุ และการปรับค่าตอบแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ และเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของพนักงานราชการ ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 2,670 ล้านบาท โดยปีที่ 1 (5 เดือน) จํานวน 830 ล้านบาท และปีที่ 2 (12 เดือน) จํานวน 1,840 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลา เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 67 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 68
โดยการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว สำหรับผู้ที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายใน 2 ปี
เว้นภาษีซ่อมบ้าน-รถ 8 ล้านราย

ครม. ในคราวเดียวกันนี้ ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งจะเป็นมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมบ้านและมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมรถ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้บุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้ (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคล) สำหรับค่าซ่อมแซม หรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมอาคาร หรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งกับตัวอาคาร หรือในที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคาร หรือในการซ่อมแซมห้องชุดในอาคารชุด หรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งกับห้องชุดในอาคารชุด ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมแซมรถตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท

คาดว่าจังหวัดที่มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (กรณีอุทกภัย) ประมาณ 40 กว่าจังหวัด จะมีผู้ใช้สิทธิตามมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมบ้าน 4 ล้านราย และผู้ใช้สิทธิตามมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมรถ 4 ล้านราย

เตรียมขึ้นค่าแรง 400 บาท
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานเสนอการแต่งตั้งกรรมการผู้แทนฝ่ายรัฐบาลในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 แทนตำแหน่งที่ว่างลง 2 รายคือ ร.อ.สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และนายอัครุตม์ สนธยานนท์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาททั่วประเทศ ให้ทันวันที่ 1 มกราคม 2568 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

รัฐมนตรี 4 รายไม่อยู่
ทั้งนี้ การประชุม ครม.สัญจรมีรัฐมนตรี 4 รายไม่ได้ร่วมประชุม เนื่องจากลงพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย จะประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จาก จ.นราธิวาส รวมถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจต่างประเทศ

เลื่อนวาระแจกเงิน 10,000 บาท
นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุม ครม.สัญจรจะยังไม่พิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยใช้เงินงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตชาวนาปีการผลิต 2567/68 ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท เพราะยังติดขั้นตอนการเสนอขอความเห็นจากหน่วยงาน และความเห็นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องลงนามเอกสารประกอบความเห็นก่อนที่จะนำเสนอ ครม. จึงคาดว่าน่าจะเสนอเข้าสู่การประชุม ครม.อีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า วันที่ 3 ธ.ค. 67... 

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/politics/news-1705978
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่