ถามว่า การกลับมารับตำแหน่งครั้งนี้มีความกังวลหรือไม่

นายเสกสกล กล่าวว่า ตอนที่ตนมีปัญหาเรื่องคลิปเสียง ตนเป็นคนไปลาออกกับนายกฯ เอง และขอใช้เวลา 3 เดือนเพื่อพิสูจน์ว่าตนไม่ได้มีความผิด และจากที่ตนไปตอบคำถามทุกหน่วยงานที่เรียกไปชี้แจง ผลออกมาว่าตนไม่ได้มีความผิดอะไร ซึ่งตนได้บอกกับนายกฯ ว่า เมื่อพ้นข้อครหาแล้วจะขอกลับมาทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

เมื่อถามว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่าการที่ตั้งคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มาเป็นที่ปรึกษา จะเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่

นายเสกสกล กล่าวว่า ไม่หรอก ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งที่รับเงินเดือน แต่เป็นที่ปรึกษาที่นายกฯ แต่งตั้งเวลาที่มีภารกิจอะไร ก็มอบเป็นเรื่องๆ ไม่ใช่ไปกินเงินเดือนหรือเบียดบังข้าราชการ เป็นแค่ภารกิจที่นายกฯ ว่าเป็นครั้งคราว ต้องมีที่ปรึกษาช่วยทำงาน เนื่องจากเวลาที่เหลืออยู่ต้องทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายกฯ ต้องหาทีมที่ทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใดๆ เพียงแต่เวลาที่เหลืออยู่ก่อนจะครบวาระรัฐบาล เราจะช่วยนายกแก้ปัญหาที่ยังค้างอยู่ บางเรื่องที่จะเสร็จในรัฐบาลนี้ นายกฯ ก็จะดูว่าใครที่มีประสบการณ์ มีคุณสมบัติ ที่จะมาช่วยเป็นที่ปรึกษาได้ นายกฯ ก็สามารถตั้งได้ อย่างนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ท่านก็เป็นที่ปรึกษาที่ไม่รับเงินเดือน พวกเรามีมันสมองมีประสบการณ์ จะเอาประสบการณ์ มาช่วยนายกฯ ทํางานในเวลาที่เหลืออยู่

เมื่อถามว่า จากนี้จะเห็นที่ปรึกษาทุกคนลงพื้นที่ร่วมกับนายกฯ ใช่หรือไม่

นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่นายกฯ จะเอามาช่วยงาน ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไร นายกฯ มีความเชื่อมั่นว่าอะไรที่จะให้จบก็ต้องจบ อะไรที่เป็นโครงการใหญ่ๆ ก็ต้องรอสานต่อสมัยหน้า นี่คือสิ่งที่นายกฯ ตั้งใจ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย เราไม่คิดจะเอาตำแหน่งหน้าที่ไปหาเสียง หรือเอาเวลาราชการไปลงพื้นที่เพื่อเอาเปรียบคู่ต่อสู้ ไม่ได้คิดเรื่องนี้ จะเอาเวลาในราชการไปช่วยประชาชน ส่วนเรื่องหาเสียงหรือลงพื้นที่เป็นเวลานอกราชการ ซึ่งทั้ง 3 คนที่ตั้งวันนี้ มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วทั้งนั้น

ติดตามอ่าน  https://www.thaipost.net/politics-news/299444/