จะรู้ได้อย่างไร?...ว่าอ้วนลงพุง



จะรู้ได้อย่างไร?...ว่าอ้วนลงพุง

ปัจจุบันความอ้วนหรือโรคอ้วน ได้ถูกกำหนดให้เป็นโรคอย่างหนึ่งที่ต้องการดูแลและรักษา ทั้งนี้เพราะโรคอ้วนสามารถทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้หลายโรค องค์การอนามัยโลก ได้ให้คำนิยามของโรคอ้วนไว้ว่า เป็นภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเกินปกติ จนเป็นปัจจัยเสี่ยงหรือเป็นสาเหตุให้เกิดโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพเป็นความเจ็บป่วย และอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ 



โรคอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) เป็นชนิดที่พบบ่อย และเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย วินิจฉัยได้จากการตรวจร่างกายและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องตรวจพบอย่างน้อย 3 ใน 5 ข้อ
 
1. การวัดขนาดรอบเอว บริเวณสะดือในท่ายืนเท้าทั้ง 2 ข้าง ห่างกัน 10 เซนติเมตร ช่วงหายใจออก 
* เพศชาย ไม่เกิน 90 เซนติเมตร 
* เพศหญิง ไม่เกิน 80 เซนติเมตร

2. ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ≥ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 

3. ระดับไขมัน HDL cholesterol 
< 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในเพศชาย
< 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในเพศหญิง

4. ระดับความดันโลหิตมากกว่า ≥ 130/85 มิลลิเมตรปรอท 

5. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร ≥ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 



สาเหตุของโรคอ้วน 
- กรรมพันธุ์ บางครอบครัวมีแนวโน้มจะอ้วนกันทั้งหมดอาจจะเกิดจากการเลี้ยงดู, สิ่งแวดล้อม, การใช้ชีวิตร่วมกันแบบเดียวกัน 
- รับประทานอาหารแบบเดียวกัน การรับประทานอาหาร ซึ่งให้พลังงานสูงเป็นประจำโดยเฉพาะแป้งและไขมัน และรับประทานมากเกินความต้องการของร่างกาย 
- ยาบางอย่าง ทำให้ความอยากอาหารมากขึ้น เช่น ยาทางจิตเวช, ยารักษาเบาหวาน, ยา steroid 
- โรคบางอย่าง โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ ได้แก่ ต่อมธัยรอยด์และต่อมหมวกไต 
- สิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรมและการใช้ชีวิต ของแต่ละประเทศและเผ่าพันธุ์ 
- การดื่มสุรา และสูบบุหรี่ 
- ภาวะเครียด บางคนมีความผิดปกติทางจิตใจทำให้รับประทานอาหารมากขึ้น 
- ปัจจุบัน ความก้าวหน้า ทางด้านเทคโนโลยีทำให้คนอายุน้อย มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมายและขาดการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย



โรคอ้วนทำให้เกิด โรคความดันโลหิตสูง, ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง, โรคมะเร็ง (มะเร็งเยื่อบุมดลูก, รังไข่, มะเร็งเต้านม, มะเร็งลำไส้) ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ, กรดไหลย้อน, โรคข้อเข่าเสื่อม, โรคประจำเดือนผิดปกติ

การรักษาโรคอ้วน ทำได้โดยการควบคุมน้ำหนักตัว ด้วยการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลหรือแอลกอฮอล์สูง กินอาหารแต่ละมื้อให้ปริมาณลดลง ค่อยๆ ลดโดยเฉพาะอาหารประเภทแป้งและไขมัน เพิ่มอาหารประเภทเส้นใย เช่น ผักและผลไม้ที่ไม่หวาน , ไม่กินจุกจิก เคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น เช่น ใช้บันไดแทนลิฟต์ พยายามออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อย 30 นาที ตรวจร่างกายเพื่อดูว่ามีโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากความอ้วนหรือยัง เช่น เบาหวาน , ไขมันในเลือดสูง  หรือการใช้ยาเพื่อลดน้ำหนักตัว คลิกอ่านข้อมูล >>https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1771



** อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนที่สุดก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร ทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารทอด และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่