“โอมากาเสะคอร์สที่ราคาสูงกว่า จะอร่อยฟินกว่าจริงไหม ?”
“ทำไมคนถึงยอมจ่ายเงินหลักหมื่นเพื่อกินร้านนี้ ?”
.
おはよう。( ´ ▽ ` )ﾉ โอะฮาโย ~ สวัสดีค่า ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้เรามักกลับมาในธีมญี่ปุ่นกันตลอดเลย ~ และวันนี้มารีวิวโอมากาเสะกันอีกครั้ง หลังจากที่เคยลองกินมา 2-3 ร้าน วันนี้อยากรู้คำตอบแล้วว่าราคาต่าง อะไรบ้างที่จะต่างกัน ?
.
เป็นโอมากาเสะร้านแรกๆ ของประเทศเลย ร้านนี้จะเน้นความสด และการคัดวัตถุดิบที่ดีมาให้ตามฤดูกาล ซึ่งถ้าใครเป็นสายอาหารญี่ปุ่นจะต้องเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง เพราะเหล่าเซเลปและดาราหลายคนก็เคยแวะมาที่นี่กันแล้วทั้งนั้น แถมรีวิวของคนที่เคยมาลองก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวัตถุดิบที่นี่ดีจริงๆ !
คอร์สที่เราลองวันนี้จะอยู่ที่ราคา 9,900++ ซึ่งจะมีประมาณ 18 เมนู แต่ว่าอาจจะถ่ายมาไม่ครบทุกเมนู อันนี้ต้องขออภัยด้วยนะคะ~ กินเพลินไม่ไหวเลยจริงจริ้ง~
ภายในร้านจะเป็นโต๊ะบาร์รูปตัว U ตัวร้านไม่ได้ใหญ่มาก แต่สะอาดตาสุดๆ
.
แต่ละวันที่ร้านจะรับคนไม่เยอะมาก เพื่อให้ลูกค้านั่งสบาย และได้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุดค่ะ
ตอนไปถึงจะมีพนักงานมาถามเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟอุปกรณ์ให้ตามปกติเหมือนทุกๆ ร้าน แต่ที่นี่จะพิเศษตรงที่มีตะกร้าส่วนตัวไว้ให้สำหรับใส่ของด้วยค่ะ
เริ่มต้นคอร์สกันเลยที่ ‘Uji Green Tea’
.
ชาเขียวอูจิเย็นฉ่ำเสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง เชฟบอกว่าเป็นชาพิเศษที่บ่มกับซุปปลาเพื่อเปิดต่อมรับรสที่ดี กลิ่นหอมคล้ายชาข้าว ไม่หวาน และไม่มีความขมเลย ส่วนตัวคือชอบมาก~ จากใจสายชาเขียว.. แบบขออีกได้ไหมคะ
เมนูแรก “Kampachi Sashimi”
.
เปิดคอร์สด้วย Assorted Sashimi ซาชิมิประจำวันกับ “ปลาคัมปาจิ” ปลาเนื้อขาวที่มีไขมันแทรกนิดๆ ด้านบนท็อปด้วยคาราสุมิหรือไข่ปลากระบอกที่ร้านทำการ Aging แบบ Home made นานกว่า 90 วัน ซึ่งในไทยมีน้อยมาก ทางร้านเลยมักจะโปรโมทวัตถุดิบนี้ก่อนทำตลอดเลย ส่วนของเนื้อปลาจะมีความนุ่ม แน่น เด้งนิดๆ รสจะมีความเปรี้ยวหน่อยๆ จากมะนาว มีความมันนิดๆ แค่เปิดมาเมนูแรกก็คือชอบมาก~
‘Hotate Shio Yak’
.
โฮตาเตะไซส์ใหญ่พิเศษห่อด้วยสาหร่ายพิเศษที่มีหอยนางรมบดเคลือบบางๆ เพิ่มความอร่อยที่รสชาติไม่เหมือนใคร ด้านในตัวหอยจะมีวาซาบินิดๆ เมนูนี้ความพิเศษคือเป็น “หอยที่โตในน้ำแร่” เนื้อหวาน แน่น ลงตัวกับสาหร่ายรสเค็มอ่อนๆ กลิ่นสาหร่ายคือหอมดีมาก
‘Sumi-Ika Sushi’
.
ตามมาด้วยเมนูซูชิคำแรกกับ ‘หมึกกระดองญี่ปุ่น’ ที่ถือว่าเป็นหมึกราคาแพงที่สุด เพราะกระบวนการทำยากมาก เนื้อสัมผัสจะแน่นแต่ไม่เหนียว มีความละมุนตอนเคี้ยว ด้านบนจะโรยด้วยผิวยูซุ ทำให้กลิ่นหอมตั้งแต่ก่อนเข้าปากเลย
‘Ama Ebi Sushi’
.
อามะ เอบิหรือ ‘ซูชิกุ้งหวานญี่ปุ่น’ เมนูนี้ข้าวจะถูกคลุกด้วยมันจากหัวกุ้งทำให้มีกลิ่นหอม ตัวกุ้งสดมาก~ ทำให้เนื้อกุ้งกรอบ เด้ง ดูได้จากรูป รสชาติหวานละมุนลิ้นมาก
‘Shima Aji Sushi’
.
‘ซูชิปลาชิมะอาจิ’ เป็นปลาลูกผสมระหว่างปลาเนื้อขาวกับปลาเงินที่ราคาสูงอีกหนึ่ง ! เมนูนี้จะมีความเผ็ดร้อนที่ปลายลิ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนตัวเราว่าเนื้อปลาจะหวานเป็นพิเศษมากกว่าคำอื่น เลยแอบประทับใจคำนี้มาก
‘Sujiko Nama’
.
เพิ่มเลเวลความพิเศษต่อเนื่องกับ ‘ซึจิโกะ นามะ’ หรือไข่ปลาแซลมอนสด เสิร์ฟมาเป็นพวงพร้อมข้าวญี่ปุ่นและวาซาบิ เชฟแนะนำให้ทานหมดคำเดียวด้วยความที่เป็นพวง กัดหรือหั่นส่วนเยื่อไม่ค่อยได้ ขนาดจะใหญ่หน่อย แต่ซู้ดได้เลย เต็มคำมาก และจะทำให้ไม่เลี่ยนหรือมันไปด้วย เพราะมีข้าวและวาซาบิตัด
‘Egg E Egg Egg on Oys.’
.
เมนูหอยนางรมแบบโคตรพิเศษ เพราะมีไข่ปลาเยอะที่สุด เสิร์ฟพร้อมคาเวีย ไข่ดิบ อูนิ และไข่ปลา ขอเมาท์คำนี้.. จะบอกว่ากลิ่นหอยนางรมสดคลุ้งตั้งแต่ยกมาแบบน้ำลายจะไหลมากกก~ รสชาติเมนูนี้จะมีครบทั้งหวาน มัน เค็มจากทะเล คาวนิดๆ แนะนำกินภายในคำเดียว สู้ชีวิตเข้านะหญิงแล้วจะฟินมาก
‘Akamutsu sushi’
.
‘อากามัสซึซูชิ’ เป็นอีกหนึ่งปลาเนื้อขาวราคาสูงเพราะมีไขมันที่เยอะเนื้อน้อย และเป็นปลาน้ำลึกที่หากยากค่ะ เชฟบอกว่าปลาชนิดนี้เนื้อจะนุ่ม เนียน และหวานที่สุดในบรรดาเครื่องซูชิทั้งหมด ด้านบนจะโป๊ะมาด้วยเกล็ดเกลือ เนื้อปลาจะหนึบ เด้ง เกลือด้านบนเค็มพอดีมาก เป็นความเค็มแบบอร่อยและเป็นอีกคำที่ประทับใจ
‘Ankimo’
.
The best ! สำหรับเราในคอร์สนี้เลย เมนู ‘ตับปลาอังโกะ’ ส่วนตัวคือไปที่ไหนแล้วมีเมนูนี้ก็จะรัก แต่มาลองที่นี่คือชอบมากเป็นพิเศษ ด้านบนเป็นรวมผักทั้งหอมแดง ต้นหอม และดอกไม้ เนื้อจะนุ่มกว่าที่เคยกิน ได้เยอะด้วย เมนูนี้จะราดมาด้วยซอสพอนสึ กินพร้อมกันแล้วฟินที่สุด ไม่อยากให้หมดเลย
‘Ma Saba sushi’
.
‘ซูชิซาบะ’ สูตรพิเศษของทางร้าน คือซาบะจะมีความสด เนื้อแดงชมพู เป็นซาบะสดชิ้นใหญ่โตห่อด้วยสาหร่ายและข้าว เนื้อไม่หวานมาก กินกับสาหร่าย และงาคั่วหอมๆ ด้านบนคือมันเลิศ
‘Awabi Mushi’
.
อาวาบิหรือ ‘หอยเปาฮื้อ’ ทางเชฟทำการซูวีหรือทำการ Slow cooked มา 8 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ ชิ้นจะใหญ่มาก แต่นำมาหั่นให้พอดีคำ ด้านล่างสุดเป็นซอสที่ทำจากตับของหอยเปาฮื้ออีกที เนื้อหอยจะหนึบเด้งคล้ายปลาหมึก กลิ่นจะมีความหอมเฉพาะตัว ซอสจะมีความมันเค็ม
‘Akami Zuke sushi’
.
ส่วนเนื้อแดงของบลูฟินทูน่า ‘อากามิสึเกะ’ เป็นปลาที่นำมาดองกับซอสพิเศษของทางร้าน เนื้อจะแดงฉ่ำ ส่วนตัวเป็นคนชอบกินทูน่าอยู่แล้วเพราะเนื้อจะไม่มัน กินง่าย ไม่เด้งไป เน้นความนุ่มเป็นหลัก ฟินมาก
‘Otoro sushi’
.
โอโทโรเป็นส่วนท้องของบลูฟินทูน่า เนื้อจะมีความเหนียวกว่าคำที่แล้วหน่อยนึงเพราะมีส่วนของไขมันแทรกอยู่มากกว่า แต่ไม่ได้เคี้ยวยากนะทุกคน ด้านบนเป็นเกล็ดเกลือเพิ่มความอร่อยเช่นเดิม
และเดินทางมาถึงช่วงใกล้ปิดคอร์ส ก่อนเตรียมเมนู Meruto Signature เชฟเสิร์ฟเป็นปลาตัวเล็กทอดกรอบมาให้ระหว่างรอ มาแบบเป็นแพๆ จะมีความเค็มๆ อร่อยดีค่ะ
[CR] โอมากาเสะระดับพรีเมียมในตำนานที่หลายคนยอมจ่าย 🎏 Meruto sushi สาทร
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้