วันที่ฟ้าเปิด
ดรัสวันต์ และ Q
24
บ่ายสี่โมงเย็น แสวงขับรถกลับมาถึงบ้าน เนตริยารู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้กลับมาถึงบ้าน เหมือนกับว่าบ้านป่าแห่งนี้จะกลายเป็นบ้านจริงๆ ของเธอไปแล้ว
ความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางและความตื่นเต้นที่ได้ทำงานกับชุมชน ทำให้หญิงสาวเดินลงจากรถแล้วก้าวขึ้นบ้านทันที หล่อนอยากจะอาบน้ำให้หายเหนียวตัวเพราะอากาศในภาคใต้จะร้อนชื้นทำให้มีเหงื่อออกมาก และตั้งใจไว้ว่าเมื่ออาบน้ำเสร็จหล่อนจะขออนุญาตปกป้องไปนั่งเล่นพักผ่อนริมลำธารหลังบ้าน
ในขณะที่ปกป้องกับแสวงกำลังช่วยกันขนข้าวของลงจากรถ มีชาวบ้านขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดตรงที่ปกป้องยืนอยู่
“หมอ ! หมอครับ แม่ของผมไม่รู้เป็นอะไร จู่ ๆ ก็เป็นลมหมดสติไปเลย ให้ดมยาดมแล้วก็ยังไม่ฟื้น คุณหมอช่วยด้วยครับ” ชายคนนั้นละล่ำละลักด้วยการตื่นเต้นทุกข์ร้อน
“เป็นลมหมดสติหรือ งั้นรีบไป” ปกป้องรับคำ “คุณมาจากบ้านไหนนะ” ปกป้องถาม เขายังจำชาวบ้านได้ไม่ครบทุกคน ไม่เหมือนบิดาของเขา
“บ้านหัวไทร หมู่ 2 ครับ”
“ยายทองใช่ไหม” ดูเหมือนแสวงจะจำได้
“ครับ”
“ขี่นำไปเลย ” ปกป้องรีบหยิบกระเป๋ายาของเขาออกมาจากรถมาสะพายที่ไหล่ จากนั้นก็รีบไปจูงมอเตอร์ไซค์ออกมาจากลานจอดใต้ถุนบ้าน
“ไม่เอารถไปล่ะครับ” แสวงติง
“ใช้มอเตอร์ไซค์คล่องตัวกว่า” แล้วปกป้องก็ขี่ตามชาวบ้านที่นำทางไปก่อนแล้ว
เสียงดังเอะอะเมื่อครู่ ทำให้เนตริยาที่อยู่บนบ้านได้ยิน หล่อนอออกมาถามแสวงว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีชาวบ้านมาตามนายไปช่วยรักษาคนเป็นลมหมดสติครับ” แสวงตอบ
“แล้วเขาไปคนเดียวหรือ”
“ครับ ที่บ้านหัวไทร หมู่ 2 ไม่ไกลมากหรอกครับ” จากนั้นแสวงก็ทยอยขนของลงจากรถขึ้นไปเก็บยังห้องทำงาน
เนตริยานึกเห็นใจปกป้องไม่น้อย เขาเพิ่งจะกลับมาเหนื่อยๆ ยังไม่ทันได้พักดื่มน้ำ แต่พอมีคนมาตามให้ไปรักษาคนป่วยก็ต้องรีบไป หากเป็นเธอที่มีคนเดือดร้อนจะเป็นจะตายมาขอความช่วยเหลือเช่นนี้ เธอก็คงทำอย่างเขาเช่นกัน
ความชื่นชมในความเสียสละของปกป้องกำลังเพิ่มพูนขึ้นอยู่ในใจของเนตริยาโดยที่หล่อนไม่รู้ตัว
เนตริยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปนั่งเล่นรับลมเย็นที่ริมระเบียงหน้าบ้าน ไม่ได้ไปนั่งริมลำธารอย่างที่ตั้งใจ เพราะยังไม่ได้ขออนุญาตจากเขา ระหว่างนั่งรอก็อดที่จะชะเง้อชะแง้มองไปที่ทางเข้าบ้านไม่ได้ หูก็คอยเงี่ยฟังเสียงมอเตอร์ไซค์ ในใจลึกๆ แล้วเธอเป็นห่วงและอาทรปกป้อง อยากให้เขากลับมาเร็วๆ เขาจะได้พักผ่อนบ้าง
ปกป้องหายไปนานเกือบชั่วโมง ในระหว่างนี้เนตริยาพยายามหาอะไรทำเพื่อให้จิตใจสงบลงบ้าง หญิงสาวกลับไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้อง แต่หล่อนกลับไม่มีสมาธิ ในใจของหล่อนนึกเป็นห่วงว่าคนป่วยอาจจะอาการหนักจนเขาต้องใช้เวลาในการดูแลรักษานานเช่นนี้ หล่อนอยากรู้ว่าเขาจะกลับมาถึงบ้านเมื่อไหร่
ทันใดนั้น เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของปกป้องกลับมาแล้ว ทำให้หญิงสาวรู้สึกโล่งใจ
เนตริยายังคงนั่งอยู่ในห้องเฝ้ารอให้ปกป้องขึ้นบ้าน แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เดินขึ้นมา หญิงสาวรู้สึกแปลกใจจนต้องเดินออกจากห้องมามองหา
บ้านเงียบโล่ง ไม่มีวี่แววว่าเขาจะขึ้นบ้านมา ไม่เหมือนกับวันนั้นที่เขารีบกลับมาหาเธอทันทีที่ถึงบ้าน พลันเนตริยาก็ชะงักอาการร้อนรนนั้นพลางถามตัวเองว่าเธอเป็นอะไร
นี่เธอกำลังคิดถึงเขา เป็นห่วงเขา อยากเห็นหน้าเขาอย่างนั้นหรือ หญิงสาวรีบยกมือขึ้นกุมแก้มทั้งสองที่เริ่มอุ่นจัด แล้วรีบปฏิเสธตัวเองว่า ไม่นะ เธอจะต้องไม่ห่วงหา จะต้องไม่มีความรู้สึกใดๆ กับผู้ชายคนนี้
คิดดังนั้นแล้ว จึงหมุนตัวกลับเข้าห้อง หยิบหนังสือขึ้นมา แต่ตัวหนังสือเหล่านั้นไม่ได้ผ่านสายตาไปยังสมองของหล่อนแม้แต่น้อย แต่หูกลับคอยสดับตรับฟังว่าเขาจะขึ้นมาบนบ้านหรือยัง แต่จนแล้วจนรอด ทุกอย่างยังคงเงียบ
เนตริยาผุดลุกขึ้นอย่างอดรนทนไม่ได้ หล่อนอยากรู้ว่าเขาหายไปไหน และความอยากรู้นั้นก็ผลักดันให้หญิงสาวออกจากห้องเดินลงมายังชั้นล่าง
ไม่มีวี่แววปกป้องแม้แต่น้อย ในขณะที่นาดีร์กำลังง่วนเตรียมอาหารมื้อเย็น มีแสวงเป็นลูกมือคอยช่วยขอดเกล็ดปลาที่เพิ่งไปจับมา
“นายน้อยของเธอล่ะแสวง” เนตริยาถามขึ้นด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“อยู่ข้างหลังบ้านครับ” แสวงชี้มือไปส่งๆ เขากำลังสนใจอยู่กับงานตรงหน้า
เมื่อไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน หญิงสาวจึงออกเดินไปทางหลังบ้านตามที่แสวงชี้ พลางเดาว่าปกป้องน่าจะเข้ามาดูแลฟาร์มเกษตร แต่พอไปถึงก็ไม่มี หล่อนจึงออกเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงลำธาร
ที่นั่น เนตริยาเห็นปกป้องนั่งอยู่ที่โขดหินใหญ่ริมลำธาร เขานั่งหันหลังทอดสายตาออกไปยังลำธารและป่าทึบฝั่งตรงข้าม
เขาคงตกอยู่ในภวังค์ความคิดอะไรสักอย่างจนไม่รู้ตัวว่ามีใครเดินมาใกล้
“คุณ” เนตริยาทักขึ้น เพื่อให้ปกป้องรู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น
ปกป้องหันมา ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นทำให้หญิงสาวใจหาย เขาพยายามปรับสีหน้าเพื่อกลบเกลื่อนความหม่นหมองบางอย่างที่ทำให้หญิงสาวแปลกใจ
“ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะคะ” เนตริยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนทำให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย
“นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยครับ” ปกป้องหลบสายตา
เนตริยาสังเกตเห็นแล้วว่าต้องมีเรื่องผิดปกติอะไรบางอย่าง และคงต้องเป็นเรื่องที่ทำให้เขาทุกข์ใจจนต้องแอบมานั่งเงียบๆ คนเดียวที่นี่
“อากาศดีจังเลยนะคะ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”
“ได้ครับ” ปกป้องไม่สามารถปฏิเสธรอยยิ้มหวานบนใบหน้านั้นได้
เนตริยาเดินเข้ามานั่งลงที่โขดหินข้างๆ ชายหนุ่ม และชวนคุยขึ้นว่า
“ฉันชอบที่นี่ บรรยากาศดีจริงๆ ทำให้จิตใจเราสงบ คลายความเครียดและความอ่อนล้าได้จริงๆนะ”
ปกป้องหันมามองหน้าหญิงสาว และคำพูดที่ว่า
ฉันชอบที่นี่ เรียกรอยยิ้มจากเขาออกมาเป็นครั้งแรก แต่มันก็เป็นยิ้มที่ไม่สดใสนัก แล้วเขาก็หันหน้ามองออกไปที่ลำธารราวกับจะพยายามซ่อนสีหน้าแววตา เป็นความเงียบงันระหว่างกันชั่วขณะ แต่แล้วปกป้องก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่า ถ้าเขานั่งนิ่งเฉยไม่พูดตอบอะไรออกไป จะเป็นการเสียมารยาท
“บรรยายวันนี้ เหนื่อยมากไหม” เขาหันมาถาม
“ไม่เลยค่ะ สนุกดีออก พวกผู้หญิงชาวบ้านเขาซื่อๆ บริสุทธิ์จังเลย มันทำให้ฉันรู้สึกดีใจที่ได้สอนให้เขารู้จักดูแลตัวเอง ให้เขาได้เรียนรู้หลายๆ อย่างที่จะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น มีความสุขขึ้น”
“ผมดีใจที่คุณรู้สึกเช่นนั้น” คราวนี้ปกป้องยิ้มมากขึ้น เป็นความรู้สึกอบอุ่นเป็นสุขใจ ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้ได้ช่วยดึงเขาให้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่เขากำลังมีอยู่ในตอนนี้
แม้ปกป้องจะยิ้มกว้างให้เธอ แต่สีหน้าแววตาหม่นหมองท้อแท้ที่ปกป้องพยายามจะปกปิดยังไม่จางหายไป เนตริยาจึงตัดสินใจถามขึ้น
“คุณเหนื่อยหรือคะ หรือไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”
ปกป้องถอนหายใจหนักหน่วง ยังไม่มีคำตอบ
“สงสัยว่างานช่วยรักษาชาวบ้านที่เขามาตามคุณออกไปเมื่อกี้ คงจะหนักหนามากกว่าตอนที่ไปบรรยายให้ความรู้ชาวบ้าน ใช่ไหมคะ”
ปกป้องก้มหน้านิ่งสักพักแล้วในที่สุดก็ยอมที่จะระบายความในใจออกมา
“แม่ของชาวบ้านที่มาตามผม เธอหมดสติไป ผมพยายามหาสาเหตุของอาการเพื่อที่จะช่วยให้เธอรู้สึกตัว ตอนที่ผมไปถึงนั้นหัวใจเธอยังเต้นอยู่ ผมพยายามช่วยชีวิตเธอทุกวิถีทางแต่ไม่ทัน ยายทองจากไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย” เสียงของเขาสั่นพร่าไปด้วยความสะเทือนใจ
“ตายจริง แกเสียหรือคะ” เนตริยาอุทาน พลอยรู้สึกใจหายตามไปด้วย
ปกป้องนิ่งพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่
“ฉันเสียใจด้วยค่ะ” ทั้งเสียใจและห่วงใยความรู้สึกของผู้ชายตรงหน้า เขาเพิ่งผ่านความเป็นความตายมาเช่นนี้คงเสียกำลังใจไม่น้อย
วันที่ฟ้าเปิด บทที่ 24
ความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางและความตื่นเต้นที่ได้ทำงานกับชุมชน ทำให้หญิงสาวเดินลงจากรถแล้วก้าวขึ้นบ้านทันที หล่อนอยากจะอาบน้ำให้หายเหนียวตัวเพราะอากาศในภาคใต้จะร้อนชื้นทำให้มีเหงื่อออกมาก และตั้งใจไว้ว่าเมื่ออาบน้ำเสร็จหล่อนจะขออนุญาตปกป้องไปนั่งเล่นพักผ่อนริมลำธารหลังบ้าน
ในขณะที่ปกป้องกับแสวงกำลังช่วยกันขนข้าวของลงจากรถ มีชาวบ้านขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดตรงที่ปกป้องยืนอยู่
“หมอ ! หมอครับ แม่ของผมไม่รู้เป็นอะไร จู่ ๆ ก็เป็นลมหมดสติไปเลย ให้ดมยาดมแล้วก็ยังไม่ฟื้น คุณหมอช่วยด้วยครับ” ชายคนนั้นละล่ำละลักด้วยการตื่นเต้นทุกข์ร้อน
“เป็นลมหมดสติหรือ งั้นรีบไป” ปกป้องรับคำ “คุณมาจากบ้านไหนนะ” ปกป้องถาม เขายังจำชาวบ้านได้ไม่ครบทุกคน ไม่เหมือนบิดาของเขา
“บ้านหัวไทร หมู่ 2 ครับ”
“ยายทองใช่ไหม” ดูเหมือนแสวงจะจำได้
“ครับ”
“ขี่นำไปเลย ” ปกป้องรีบหยิบกระเป๋ายาของเขาออกมาจากรถมาสะพายที่ไหล่ จากนั้นก็รีบไปจูงมอเตอร์ไซค์ออกมาจากลานจอดใต้ถุนบ้าน
“ไม่เอารถไปล่ะครับ” แสวงติง
“ใช้มอเตอร์ไซค์คล่องตัวกว่า” แล้วปกป้องก็ขี่ตามชาวบ้านที่นำทางไปก่อนแล้ว
เสียงดังเอะอะเมื่อครู่ ทำให้เนตริยาที่อยู่บนบ้านได้ยิน หล่อนอออกมาถามแสวงว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีชาวบ้านมาตามนายไปช่วยรักษาคนเป็นลมหมดสติครับ” แสวงตอบ
“แล้วเขาไปคนเดียวหรือ”
“ครับ ที่บ้านหัวไทร หมู่ 2 ไม่ไกลมากหรอกครับ” จากนั้นแสวงก็ทยอยขนของลงจากรถขึ้นไปเก็บยังห้องทำงาน
เนตริยานึกเห็นใจปกป้องไม่น้อย เขาเพิ่งจะกลับมาเหนื่อยๆ ยังไม่ทันได้พักดื่มน้ำ แต่พอมีคนมาตามให้ไปรักษาคนป่วยก็ต้องรีบไป หากเป็นเธอที่มีคนเดือดร้อนจะเป็นจะตายมาขอความช่วยเหลือเช่นนี้ เธอก็คงทำอย่างเขาเช่นกัน
ความชื่นชมในความเสียสละของปกป้องกำลังเพิ่มพูนขึ้นอยู่ในใจของเนตริยาโดยที่หล่อนไม่รู้ตัว
เนตริยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปนั่งเล่นรับลมเย็นที่ริมระเบียงหน้าบ้าน ไม่ได้ไปนั่งริมลำธารอย่างที่ตั้งใจ เพราะยังไม่ได้ขออนุญาตจากเขา ระหว่างนั่งรอก็อดที่จะชะเง้อชะแง้มองไปที่ทางเข้าบ้านไม่ได้ หูก็คอยเงี่ยฟังเสียงมอเตอร์ไซค์ ในใจลึกๆ แล้วเธอเป็นห่วงและอาทรปกป้อง อยากให้เขากลับมาเร็วๆ เขาจะได้พักผ่อนบ้าง
ปกป้องหายไปนานเกือบชั่วโมง ในระหว่างนี้เนตริยาพยายามหาอะไรทำเพื่อให้จิตใจสงบลงบ้าง หญิงสาวกลับไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้อง แต่หล่อนกลับไม่มีสมาธิ ในใจของหล่อนนึกเป็นห่วงว่าคนป่วยอาจจะอาการหนักจนเขาต้องใช้เวลาในการดูแลรักษานานเช่นนี้ หล่อนอยากรู้ว่าเขาจะกลับมาถึงบ้านเมื่อไหร่
ทันใดนั้น เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของปกป้องกลับมาแล้ว ทำให้หญิงสาวรู้สึกโล่งใจ
เนตริยายังคงนั่งอยู่ในห้องเฝ้ารอให้ปกป้องขึ้นบ้าน แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เดินขึ้นมา หญิงสาวรู้สึกแปลกใจจนต้องเดินออกจากห้องมามองหา
บ้านเงียบโล่ง ไม่มีวี่แววว่าเขาจะขึ้นบ้านมา ไม่เหมือนกับวันนั้นที่เขารีบกลับมาหาเธอทันทีที่ถึงบ้าน พลันเนตริยาก็ชะงักอาการร้อนรนนั้นพลางถามตัวเองว่าเธอเป็นอะไร นี่เธอกำลังคิดถึงเขา เป็นห่วงเขา อยากเห็นหน้าเขาอย่างนั้นหรือ หญิงสาวรีบยกมือขึ้นกุมแก้มทั้งสองที่เริ่มอุ่นจัด แล้วรีบปฏิเสธตัวเองว่า ไม่นะ เธอจะต้องไม่ห่วงหา จะต้องไม่มีความรู้สึกใดๆ กับผู้ชายคนนี้
คิดดังนั้นแล้ว จึงหมุนตัวกลับเข้าห้อง หยิบหนังสือขึ้นมา แต่ตัวหนังสือเหล่านั้นไม่ได้ผ่านสายตาไปยังสมองของหล่อนแม้แต่น้อย แต่หูกลับคอยสดับตรับฟังว่าเขาจะขึ้นมาบนบ้านหรือยัง แต่จนแล้วจนรอด ทุกอย่างยังคงเงียบ
เนตริยาผุดลุกขึ้นอย่างอดรนทนไม่ได้ หล่อนอยากรู้ว่าเขาหายไปไหน และความอยากรู้นั้นก็ผลักดันให้หญิงสาวออกจากห้องเดินลงมายังชั้นล่าง
ไม่มีวี่แววปกป้องแม้แต่น้อย ในขณะที่นาดีร์กำลังง่วนเตรียมอาหารมื้อเย็น มีแสวงเป็นลูกมือคอยช่วยขอดเกล็ดปลาที่เพิ่งไปจับมา
“นายน้อยของเธอล่ะแสวง” เนตริยาถามขึ้นด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“อยู่ข้างหลังบ้านครับ” แสวงชี้มือไปส่งๆ เขากำลังสนใจอยู่กับงานตรงหน้า
เมื่อไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน หญิงสาวจึงออกเดินไปทางหลังบ้านตามที่แสวงชี้ พลางเดาว่าปกป้องน่าจะเข้ามาดูแลฟาร์มเกษตร แต่พอไปถึงก็ไม่มี หล่อนจึงออกเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงลำธาร
ที่นั่น เนตริยาเห็นปกป้องนั่งอยู่ที่โขดหินใหญ่ริมลำธาร เขานั่งหันหลังทอดสายตาออกไปยังลำธารและป่าทึบฝั่งตรงข้าม
เขาคงตกอยู่ในภวังค์ความคิดอะไรสักอย่างจนไม่รู้ตัวว่ามีใครเดินมาใกล้
“คุณ” เนตริยาทักขึ้น เพื่อให้ปกป้องรู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น
ปกป้องหันมา ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นทำให้หญิงสาวใจหาย เขาพยายามปรับสีหน้าเพื่อกลบเกลื่อนความหม่นหมองบางอย่างที่ทำให้หญิงสาวแปลกใจ
“ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะคะ” เนตริยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนทำให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย
“นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยครับ” ปกป้องหลบสายตา
เนตริยาสังเกตเห็นแล้วว่าต้องมีเรื่องผิดปกติอะไรบางอย่าง และคงต้องเป็นเรื่องที่ทำให้เขาทุกข์ใจจนต้องแอบมานั่งเงียบๆ คนเดียวที่นี่
“อากาศดีจังเลยนะคะ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”
“ได้ครับ” ปกป้องไม่สามารถปฏิเสธรอยยิ้มหวานบนใบหน้านั้นได้
เนตริยาเดินเข้ามานั่งลงที่โขดหินข้างๆ ชายหนุ่ม และชวนคุยขึ้นว่า
“ฉันชอบที่นี่ บรรยากาศดีจริงๆ ทำให้จิตใจเราสงบ คลายความเครียดและความอ่อนล้าได้จริงๆนะ”
ปกป้องหันมามองหน้าหญิงสาว และคำพูดที่ว่า ฉันชอบที่นี่ เรียกรอยยิ้มจากเขาออกมาเป็นครั้งแรก แต่มันก็เป็นยิ้มที่ไม่สดใสนัก แล้วเขาก็หันหน้ามองออกไปที่ลำธารราวกับจะพยายามซ่อนสีหน้าแววตา เป็นความเงียบงันระหว่างกันชั่วขณะ แต่แล้วปกป้องก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่า ถ้าเขานั่งนิ่งเฉยไม่พูดตอบอะไรออกไป จะเป็นการเสียมารยาท
“บรรยายวันนี้ เหนื่อยมากไหม” เขาหันมาถาม
“ไม่เลยค่ะ สนุกดีออก พวกผู้หญิงชาวบ้านเขาซื่อๆ บริสุทธิ์จังเลย มันทำให้ฉันรู้สึกดีใจที่ได้สอนให้เขารู้จักดูแลตัวเอง ให้เขาได้เรียนรู้หลายๆ อย่างที่จะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น มีความสุขขึ้น”
“ผมดีใจที่คุณรู้สึกเช่นนั้น” คราวนี้ปกป้องยิ้มมากขึ้น เป็นความรู้สึกอบอุ่นเป็นสุขใจ ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้ได้ช่วยดึงเขาให้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่เขากำลังมีอยู่ในตอนนี้
แม้ปกป้องจะยิ้มกว้างให้เธอ แต่สีหน้าแววตาหม่นหมองท้อแท้ที่ปกป้องพยายามจะปกปิดยังไม่จางหายไป เนตริยาจึงตัดสินใจถามขึ้น
“คุณเหนื่อยหรือคะ หรือไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”
ปกป้องถอนหายใจหนักหน่วง ยังไม่มีคำตอบ
“สงสัยว่างานช่วยรักษาชาวบ้านที่เขามาตามคุณออกไปเมื่อกี้ คงจะหนักหนามากกว่าตอนที่ไปบรรยายให้ความรู้ชาวบ้าน ใช่ไหมคะ”
ปกป้องก้มหน้านิ่งสักพักแล้วในที่สุดก็ยอมที่จะระบายความในใจออกมา
“แม่ของชาวบ้านที่มาตามผม เธอหมดสติไป ผมพยายามหาสาเหตุของอาการเพื่อที่จะช่วยให้เธอรู้สึกตัว ตอนที่ผมไปถึงนั้นหัวใจเธอยังเต้นอยู่ ผมพยายามช่วยชีวิตเธอทุกวิถีทางแต่ไม่ทัน ยายทองจากไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย” เสียงของเขาสั่นพร่าไปด้วยความสะเทือนใจ
“ตายจริง แกเสียหรือคะ” เนตริยาอุทาน พลอยรู้สึกใจหายตามไปด้วย
ปกป้องนิ่งพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่
“ฉันเสียใจด้วยค่ะ” ทั้งเสียใจและห่วงใยความรู้สึกของผู้ชายตรงหน้า เขาเพิ่งผ่านความเป็นความตายมาเช่นนี้คงเสียกำลังใจไม่น้อย