วันที่ฟ้าเปิด บทที่ 11

กระทู้คำถาม
วันที่ฟ้าเปิด
ดรัสวันต์  และ  Q


11

       เช้านี้ เนตริยาแต่งตัวทะมัดทะแมงเตรียมที่จะออกไปเข้าหมู่บ้านตามที่ปกป้องบอกเอาไว้เมื่อคืนว่า

       ‘พรุ่งนี้เช้าเราจะเข้าหมู่บ้านกัน’

       ‘เรา ? เข้าหมู่บ้าน ? นายก็เข้าไปซิ ทำไมฉันจะต้องไปด้วย’ หญิงสาวทำหน้าประหลาดใจอย่างยิ่ง

      ‘ผมไม่ไว้ใจให้คุณอยู่ที่นี่ตามลำพัง’

      ‘กลางป่าแบบนี้ ทำอย่างกับฉันจะหนีไปไหนได้’ เนตริยาประชดแล้วเมินหน้า

      ปกป้องยิ้มอย่างสะใจ หล่อนคงจะเข็ดหลาบกับการพยายามหนีถึงสองครั้งสองครานั้นแล้ว

      ‘ถ้างั้น เลือกเอา จะไปกับผมหรือจะอยู่ที่นี่แบบถูกล่ามโซ่’

      ‘ล่ามโซ่ ?! ’ หญิงสาวทวนคำเสียงสูงด้วยความตกใจ ใครจะอยากถูกล่ามโซ่แล้วปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ บางทีการออกไปข้างนอก หล่อนอาจจะได้เจอคนที่จะช่วยให้หล่อนหนีก็ได้ 

      ‘ไปก็ได้ แล้วนายไม่กลัวฉันร้องให้คนช่วยหรือ’

      ‘อยากร้องก็ร้องไปซิ แถวนี้คนของผมทั้งนั้น แล้วถ้าจะมีคนอยากช่วยคุณ คุณแน่ใจหรือว่าคนนั้นเขาจะไม่เลวร้ายไปกว่าผม โดนลากไปข่มขืน
ไม่รู้ด้วยนะ’ ปกป้องได้ที ยิ่งขู่ใหญ่ เพราะเขาเองก็คิดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันว่าหากพาเนตริยาไปเจอผู้คน จะเกิดปัญหาอะไรตามมา หล่อนจะโวยวาย
ให้คนช่วยและพยายามหนีอีกไหม  แต่เขาก็เตรียมหาทางออกไว้แล้ว เขาไตร่ตรองเรื่องนี้เป็นอย่างดีมาก่อนที่เขาจะตัดสินใจพาหล่อนเข้าหมู่บ้านในครั้งนี้ 

      เนตริยาสะดุ้งกับคำขู่นั้น ถึงจะรู้ว่าเขาขู่ แต่หล่อนก็ต้องระวังไว้ก่อน คงไม่สุ่มสี่สุ่มห้าไปขอให้ใครช่วยถ้าไม่แน่ใจจริงๆ เพราะอาจจะกลายเป็น
หนีเสือปะจระเข้
 

       เป็นภาพคุ้นตาสำหรับเนตริยาที่ทุกเช้าเมื่อทำกิจวัตรตอนเช้าแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้อง หล่อนจะเห็นปกป้องนั่งอ่านหนังสือรอหล่อนอยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่วันนี้เขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์ ตั้งแต่หล่อนถูกจับมาที่นี่ ก็เพิ่งได้เห็นหนังสือพิมพ์เป็นฉบับแรก หล่อนอยากรู้ความเคลื่อนไหวของ
โลกภายนอกเต็มทนแล้ว และที่สำคัญ ข่าวการถูกลักพาตัวของหล่อนครั้งนี้จะขึ้นหน้าหนึ่งครึกโครมขนาดไหน

      เสียงฝีเท้าของหญิงสาวเดินมาใกล้ทำให้ปกป้องลดหนังสือพิมพ์ลง

      “ขอฉันอ่านหนังสือพิมพ์บ้างได้มั้ย” หญิงสาวเอ่ยขอขึ้น “ที่นี่ไม่มีทีวี วิทยุ ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้รู้ข่าวสารบ้านเมือง” 

      “อย่าเสียเวลาเลยคุณ ข่าวในหนังสือพิมพ์ไม่ค่อยมีอะไรที่จรรโลงใจเท่าไหร่หรอก มีแต่ข่าวเครียดๆ” ปกป้องทำหน้าเคร่งขรึมพร้อมกับพับ
หนังสือพิมพ์วางไว้ข้างเก้าอี้

     “แล้วทีนายล่ะ อ่านทำไม”

      “ผมอ่านเพื่อให้รู้ว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรในพื้นที่บ้าง แต่ถ้าคุณอยากอ่านก็เอาเถอะ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ไม่มีข่าวบันเทิงดาราความสวยความงามอะไรหรอก เพราะแค่เรื่องวุ่นๆ ในพื้นที่ก็แทบจะไม่พอลงในหนังสือพิมพ์แล้ว” ปกป้องกล่าวจบแล้วหันไปพยักหน้าให้นาดีร์
ที่รอจะตักข้าวให้หญิงสาว

     “ผมหิวแล้ว ทานอาหารเช้าก่อนแล้วค่อยอ่าน”

     นาดีร์เดินเข้ามาตักข้าวสวยร้อนๆ ให้เนตริยาเกือบพูนจาน จนหญิงสาวต้องรีบร้องห้าม

     “พอ พอแล้วนาดีร์ ทำไมวันนี้ตักข้าวเยอะขนาดนี้ ฉันกินไม่หมดหรอก”

      นาดีร์ชะงักค้างอยู่เช่นนั้นแล้วหันไปมองผู้เป็นนายให้ช่วยอธิบาย

      “เวลาเข้าหมู่บ้าน บางครั้งงานยุ่งติดพันจนไม่มีเวลาทานข้าว คุณเตรียมทานไว้ให้อิ่มเถอะ” ปกป้องอธิบาย

      “มันก็ยังมากเกินไปอยู่ดี ฉันกินไม่หมดหรอก ตักออกไปครึ่งหนึ่ง ฉันไม่ใช่คนกินทิ้งกินขว้างให้เสียของ คนจนๆ เขาไม่มีข้าวจะกิน” หล่อนบ่น
แต่ก็เป็นคำพูดที่ทำให้ปกป้องซาบซึ้ง มันสะท้อนให้เห็นถึงอุปนิสัยอ่อนโยนและจิตใจดีงามของหล่อน

     เขายิ้มน้อยๆ แล้วเหลือบตามองนาดีร์ส่งสัญญาณให้เอาจานของเขาไปแบ่งข้าวส่วนเกินมาจากจานของหญิงสาว

      เนตริยาก้มหน้าก้มตารับประทาน แต่ใจกลับครุ่นคิดบางสิ่ง นี่มันกี่มื้อกันแล้วที่ต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้ชายคนนี้ ทำไมเขาไม่ไปทานของเขาเอง ทำไมจะต้องมาทนหิวรอทานพร้อมหล่อน สถานะเชลยอย่างหล่อนน่าจะเจอข้าวราดน้ำแกงใส่จานสังกะสีมาวางไว้ให้ที่หน้าห้องมากกว่า 

      เขาใช่โจรแน่หรือ

      เนตริยาถามตัวเองแล้วมองบนโต๊ะอาหารที่มีถ้วยจานชามอุปกรณ์การรับประทานอาหารที่งดงาม แถมมีเด็กรับใช้ที่ถูกอบรมมาอย่างดีมาคอยยืนเสิร์ฟ ไม่ต่างจากบัตเลอร์ตามบ้านผู้ดีอังกฤษ  

      หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มขณะที่กำลังรับประทานอาหาร มองมารยาทบนโต๊ะอาหารของเขา ท่าทางการตักอาหารเข้าปาก การเคี้ยวเบาๆ เรียบร้อยไม่มีลักษณะมูมมาม เมื่อพิจารณาต่อไปถึงเสื้อผ้าที่เขามักจะเลือกใช้สีเอิร์ธโทน ก็ดูดีอีกนั่นแหละ ผมเผ้า มือไม้สะอาดสะอ้าน แม้เขาจะไว้หนวดเครา
แต่ก็ตัดแต่งเป็นระเบียบไม่รุงรัง 

      บุคลิกท่าทางของเขาไม่บอกเลยสักนิดว่าเป็นโจร

      กระแสสายตาของหญิงสาวทำให้ปกป้องรู้สึกตัวเงยหน้าขึ้น ตาทั้งคู่สบกันอย่างจัง เนตริยาเป็นฝ่ายรีบหลบ ชายหนุ่มยิ้ม ทำไมเขาจะไม่เห็นแววตา
ที่หล่อนจับจ้องพิจารณาเขา

     “แอบมองผมด้วยหรือ” เขาแกล้งแซว

     เนตริยาเกือบจะสำลักข้าว หล่อนรีบปิดปากก่อนที่อาหารจะพุ่งออกมา แล้วค่อยๆ เคี้ยวกลืนแล้วดื่มน้ำตาม

     “ใครไปแอบมองนาย” บ่นอุบอิบพร้อมทั้งค้อนให้วงใหญ่ ดวงตาคมหวานคู่นั้นตวัดผ่านหน้าเขาไป ทำเอาปกป้องหัวใจเต้นแรงผิดปกติ 

     “ตาคุณสวยสมชื่อเนตริยาจริงๆ ค้อนบ่อยๆ นะ ผมชอบมอง”

     คราวนี้แก้มเนียนของหญิงสาวระเรื่อแดง ด้วยไม่รู้ว่าจะโกรธหรือจะอาย เลยพาลรวบช้อนอิ่มข้าว

     “อ้าวอิ่มแล้วหรือครับ ยังทานไม่หมดเลย ไหนว่าไม่กินทิ้งกินขว้างไง”

     “กินไม่ลง” หล่อนสะบัดเสียงแล้วพาลลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแต่ไม่ลืมหยิบหนังสือพิมพ์ไปด้วย หล่อนจะไปหาที่สงบๆ อ่านหนังสือพิมพ์ดีกว่ามานั่ง
เผชิญหน้ากับคน...คนบ้า หล่อนคิดอย่างพาลๆ แล้วก้มลงสนใจหนังสือพิมพ์ในมือ เธอเริ่มอ่านข่าวตั้งแต่หน้าแรก

          เรือประมงหยุดออกทำประมง ผลจากควบคุมเรือผิด กม. เรือประมงในสงขลาเริ่มทยอยหยุดออกทำการประมงแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมเรือประมงผิดกฎหมาย เรียกร้องหน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา...

     ‘เอ๊ะ อะไรกัน มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ’ เนตริยาคิดในใจ

      ผบ.ตร.สั่งตำรวจทุกพื้นที่กวาดล้างบ่อนการพนันรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.พรชัย อรุณรุ่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
ได้มีบันทึกสั่งการถึงผู้บัญชาการภาค 1-9 และ บช.น.กำชับให้กวดขัน จับกุมบ่อนการพนันแหล่งอบายมุข โสเภณีเด็ก และแรงงานต่างชาติโดย พล.ต.อ.พรชัย กล่าวว่าสำนักงานตำรวจฯ สั่งกำชับตำรวจทั่วประเทศให้กวดขันการ ปราบปรามบ่อนการพนันและอบายมุขอย่างต่อเนื่อง

      เศรษฐีมาเลเซียหายตัวลึกลับ พร้อมเงินสด 2 ล้านเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเศรษฐีมาเลเซียรายนี้อาจจะโดนอุ้มไปฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ หรืออาจจะถูกลวงไปฆ่าด้วยสาเหตุอื่นทางธุรกิจก็เป็นได้ ส่วนทรัพย์สินที่ติดตัวเศรษฐีรายนี้ไปนั้นเท่าที่ทราบเป็นเงินสดทั้งไทยและดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท

      เนตริยาอ่านอีกหลายข่าวในนั้นอย่างตั้งใจ ปกป้องเดินมาหา เขามองใบหน้าเคร่งเครียดของหญิงสาวขณะกำลังอ่านหนังสือพิมพ์นั้นอย่างนึกขัน

      “ผมเตือนคุณแล้ว หนังสือพิมพ์มีแต่เรื่องเครียดๆ”

      “ทำไมข่าวพวกนี้ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน”

       “ถ้าไม่เป็นข่าวใหญ่ที่มีผลกระทบถึงคนภาคอื่นๆ ก็ไม่มีใครสนใจกันหรอก ข่าวพวกนี้เป็นแค่น้ำจิ้มนะ เป็นอาชญากรรมทั่วไป แต่ถ้าเรื่องไหนที่มีแบ็กหนุนหลังใหญ่ๆ ก็ไม่ได้เป็นข่าวหรอก เช่นเรื่องการค้าของเถื่อน การบุกรุกป่าหรือขบวนการแบ่งแยกดินแดน” 

       ขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ปกป้องพูดถึงทำให้เนตริยาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ตั้งแต่หล่อนเริ่มเข้ามารับราชการทหารด้านจิตวิทยาความมั่นคงจนติดยศร้อยเอก ปัญหานี้ก็ยังวนเวียนอยู่ที่เดิมและการประชุมวางแผนครั้งใหม่ที่หล่อนเตรียมนำเสนอข้อคิดเห็นจากฝ่ายจิตวิทยาความมั่นคงที่หล่อนรับผิดชอบอยู่ หล่อนก็มาถูกลักพาตัวเสียก่อน งานที่หล่อนทุ่มเทด้วยความเหนื่อยหนักกลับไม่ได้นำเสนอ แต่ป่านนี้เจ้านายคงหาใครในหน่วย
ของหล่อนไปทำหน้าที่แทนแล้ว 

      “แบ่งแยกดินแดนหรือ” หล่อนรำพึงกับตัวเอง “เมื่อไหร่ปัญหาความไม่สงบเหล่านี้จะยุติเสียที ทหารตำรวจทุกฝ่ายทำงานหนัก แม้แต่ในส่วนกลาง
เราก็พยายามวางแผนยุทธศาสตร์ที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ แต่ก็ยังมีคนบาดเจ็บล้มตายไม่เว้นแต่ละวัน”

      “นั่นน่ะซิครับ แผนยุทธศาสตร์แบบไหนกัน ทำไมมันถึงไม่ตอบโจทย์สักที” ปกป้องประชด แล้วนึกในใจต่อไปว่า ผมถึงต้องพาตัวคุณมาที่นี่ไง

       เนตริยาเหลือบตามองคนพูด ท่าทางน้ำเสียงเขาเหมือนจะรู้เรื่องแผนยุทธศาสตร์

      “นายพูดเหมือนรู้เรื่องแผนยุทธศาสตร์” 

       “คนบ้านป่าอย่างผมจะไปรู้เรื่องระดับสูงแบบนั้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่ผมรู้เห็นอยู่ตำตาคือเวลาเกิดระเบิดหรือมีการโจมตี ประชาชนตาดำๆ ก็รับเคราะห์ไปตามระเบียบ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็แค่เสียหน้าแล้วเสวยสุขอยู่แต่ในกรุงเทพฯ”

      “ไม่จริงนะ เราพยายามหาทางแก้ปัญหาอย่างดีที่สุดตลอดเวลา บางครั้งพวกเราต้องทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำ”

       “พวกเรา ? แล้วพวกเขาล่ะ คนที่ได้รับผลกระทบ เขาเคยมีโอกาสพูดไหม” 

       เนตริยาเพ่งมองผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง  หล่อนไม่คาดคิดว่าเขาจะสนใจความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนมากไปกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง

       “นายไม่ใช่โจรเรียกค่าไถ่ใช่ไหม” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนถาม

      ปกป้องชะงัก พยายามปรับสีหน้าไม่ให้มีพิรุธแล้วรีบตัดบทว่า

      “เราออกเดินทางได้แล้ว”
 

      แสวงเตรียมสตาร์ตรถรอเมื่อเห็นปกป้องหิ้วกระเป๋ายาเดินลงบันไดมาพร้อมกับเนตริยา แสวงมองภาพนั้นแล้วอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ ทั้งสองดูเหมาะสมกันในสายตาของเขายิ่งนัก เป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมองของเขาตอนนั้นอย่างช่วยไม่ได้ นายหนุ่มของเขาทำแต่งานอยู่เดียวดายในบ้านป่าแห่งนี้
ก็น่าจะเหงาไม่น้อยสำหรับคนวัยฉกรรจ์ เขาไม่เคยเห็นปกป้องมองผู้หญิงคนไหน 

      คิดถึงเมื่อแรกเริ่มที่ปกป้องเรียกเขามาพูดถึงแผนการที่จับตัวเนตริยามาอยู่ที่นี่ เขาถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้าง ด้วยไม่เคยมีความคิดว่าปกป้องจะกล้า
ทำเรื่องราวเช่นนี้

      ‘มันผิดกฎหมายนะครับนาย’

      ‘เอาเถอะ ทำตามที่ฉันบอก ฉันมีทางออกเรื่องนี้อยู่แล้วรับรองไม่เดือดร้อนมาถึงแสวงหรอก’

       แล้วเมื่อแสวงได้เห็นใบหน้าเนตริยาครั้งแรก เขาก็ต้องตกตะลึงกับความสวยน่ารักของหญิงสาว อาการที่ปกป้องดูแลห่วงใยให้เกียรติขนาดนั้น
มันทำให้แสวงอดจะคิดไม่ได้ว่า แม้เนตริยาจะมีฐานะเป็นเชลยที่ปกป้องต้องการนำเธอมาอยู่ที่นี่ชั่วระยะหนึ่งก็ตาม แต่เขามั่นใจว่าหล่อนจะต้องเข้ามา
อยู่ในใจของปกป้องตลอดไปแน่นอน แสวงอดนึกเชียร์อยู่ในใจไม่ได้และไม่เคยโกรธแค้นที่หล่อนเคยตีศีรษะเขาครั้งนั้น 

      ผู้หญิงพยศเยอะอย่างนี้ต้องให้ปกป้องปราบน่ะเหมาะสมที่สุดแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่