ตร.-ทหาร ค้นห้อง ‘3 น.ศ.ราม’ กลุ่ม P.N.Y.S – คุมตัวไป สน.หัวหมาก อ้าง อาจก่อความไม่สงบช่วงเอเปค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3676639
ตร.-ทหาร บุกยื่นหมายค้น คุมตัว 3 น.ศ.ราม กลุ่ม P.N.Y.S ไป สน.หัวหมาก อ้างอาจก่อความไม่สงบ ช่วงเอเปค
สืบเนื่องรัฐบาลไทย นำโดย พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2022 ขณะที่นักกิจกรรมทางการเมืองและประชาชนจำนวนหลายกลุ่ม นัดหมายชุมนุมคู่ขนาน ในช่วงวันที่ 16-19 พฤศจิกายนนี้ เพื่อสะท้อนถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ จากการนำสเนอนโยบาย BCG ในเวทีดังกล่าว รวมถึงจะมีการเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือถึงผู้นำ ให้ทราบถึงสถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชน ของรัฐบาลไทย นั้น
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH) เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เข้าควบคุมตัว 3 นักศึกษา ม.รามคำแหง ที่ห้องพัก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยอ้างว่าจะก่อความไม่สงบในระหว่างการประชุมเอเปค
ขณะที่ กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (P.N.Y.S) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
ด่วน!!! ค้นห้องนักศึกษาหน้าราม คุกคามนักศึกษาไม่เลิก เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว นักศึกษารามคำแหง สมาชิก (P.N.Y.S) และนักกิจกรรมเพื่อสังคม ณ ซอยรามคำแหง 53/1
พร้อมเปิดเผยรายชื่อสมาชิก กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถูกควบคุม ได้แก่
1. นาย
อับดุลเลาะ กะลาแต ประธานชมรมมุสลิมรามคำแหง
2. นาย
ศักดา เมาะอะ
และ 3. นาย
ฟิตรี อารง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปที่สืบ 4 หัวหมาก โดยยังไม่ทราบชะตากรรม
ต่อมา เวลา 11.19 น. สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย เปิดเผยอีกว่า เมื่อเช้าของวันนี้ เวลา 06.10 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก พร้อมกับทหารรวมกว่า 15 นาย ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักนักศึกษารามคำแหง ซึ่งทางนักศึกษาได้ให้ความว่า เจ้าหน้าที่ได้เคาะประตูในเวลาดังกล่าว พร้อมกับหนังสือศาล โดยอ้างว่าเพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฏหมาย และในเวลาต่อมา 06.20 น. ก็ได้มีเจ้าหน้าที่นำตัวนักศึกษาราม ที่อาศัยในหอพักอีกที่หนึ่งไปยัง สน.หัวหมาก
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย ขอให้เจ้าหน้าที่หยุดการกระทำคุกคามนักศึกษาและเลือกปฏิบัติในลักษณะแบบนี้ เพราะจะก่อให้เกิดการวิตกกังวลและความหวาดกลัวของนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ อีกทั้งการเลือกปฏิบัติถือเป็นการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา 27 วรรค 3 “
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความ พิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือ สังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอัน ไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือเหตุอื่นใด จะกระทำมิได้”
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทยไทย ซึ่งเป็นองค์กรนำการขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชน และสิทธิของนักศึกษามุสลิม ขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ตัดสินใจหรือทำการต่างๆ บนพื้นฐานของการรักษาซึ่งความเป็นเอกภาพ ภราดรภาพ และพึงรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชนอันเป็นสิทธิพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับ หากมีนักศึกษาท่านใดที่โดนคุกคาม เลือกปฏิบัติในลักษณะดั่งกล่าว สามารถติดต่อทางสมาพันธ์ฯ เพื่อดำเนินการหาทางออกร่วมกัน
สวมหน้ากากขาว-ชูป้าย ‘หยุดเอเปค’ รอบเชียงใหม่ คณะก่อการล้านนา นั่งรถไฟ ค้าน ‘คาร์บอน เครดิต’
https://www.matichon.co.th/region/news_3676775
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ จ.เชียงใหม่ มีรายงานว่า นักกิจกรรมกลุ่มคณะก่อการล้านนา ร่วมเคลื่อนไหว ด้วยการสวมหน้ากาก ‘
กาย ฟอกส์’ สีขาว พร้อมนำป้ายผ้าที่มีข้อความค้านการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2022 ไปแสดงยังจุดต่างๆ
นาย
พชร คำชำนาญ หรือ
กอล์ฟ แกนนำภาคีSaveบางกลอย โพสต์ข้อความระบุว่า หน้ากาก-ป้ายผ้า โผล่เชียงใหม่ ระบุ “ APEC 2022- PRAYUT”
เวลาประมาณ 17.00 น. วานนี้ (15 พ.ย.) พบการเคลื่อนไหวใน จ.เชียงใหม่ ก่อนการประชุมเขตเศรษฐกิจเอเปค (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) โดยมีกลุ่มคนสวมหน้ากากสีขาว ได้นำป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “ APEC 2022″ และ “ราษฎรหยุด APEC 2022″ ไปยืนถือและแขวนไว้ตามจุดต่างๆ ของ จ.เชียงใหม่ ได้แก่ อ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สี่แยกเมญ่า, ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ และสะพานขัวเหล็กข้ามแม่น้ำปิง
ต่อมา เวลา 11.00 น. วันนี้ (16 พ.ย.) คณะก่อการล้านนา แสดงออกเชิงสัญลักษณ์อีกครั้ง ที่สถานีรถไฟเด่นชัย จ.แพร่ ด้วยการใส่หน้ากากและชูป้ายคัดค้านการประชุมเอเปค 2022 เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ โดยมีการชูป้ายข้อความขณะนั่งรถไฟ อาทิ “
ทุนนิยม และคาร์บอน เครดิต แปลงโฉมผู้ก่อมลพิษ เป็นผู้ปกป้องโลก”
สมคิด เชื่อ ‘ยุบสภา’ ไม่เกิน กลางกุมภา เหตุ ส.ส.แห่ลาออก-ย้ายพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3676787
สมคิด ชี้ หลังเลือกตั้งฝ่ายค้านได้เสียงเกินครึ่งสภา แต่ตั้งนายกฯ ได้หรือไม่อยู่ที่ ส.ว. เชื่อ ยุบสภาไม่เกินกลาง ก.พ.
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการเมืองหลังเอเปคว่า คนติดว่าท่าทีของพรรคการเมืองต่างๆ จะชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดทิศทางของตัวเองเพื่อเตรียมคนลงสมัครรับเลือกตั้งมากขึ้น รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคก็เชื่อว่าจะชัดเจนภายในเดือนธันวาคม อีกทั้งผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรคก็จะมีความชัดเจนเกือบ 100% ทุกพรรค
ส่วนการเลือกตั้งคนคิดว่าคงเกิดขึ้นก่อนวันสงกรานต์ เพราะเชื่อว่าจะมีการยุบสภา ไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ เพราะช่วงนั้น ส.ส.จะมีการลาออกเพื่อโยกย้ายพรรคกันจำนวนมากนำไปสู่การยุบสภา
เมื่อถามว่าท่าทีของ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมีผลต่อการเมืองไทยอย่างไร
นาย
สมคิดกล่าวว่า กระแสของ พล.อ.
ประยุทธ์ ยังคงพอมีอยู่สำหรับประชาชนบางกลุ่ม ถ้าพล.อ.
ประยุทธ์ ประกาศเดินหน้าต่อแล้วไปอยู่พรรคการเมืองไหน เชื่อว่าจะมี ส.ส.ย้ายตามไปจำนวนหนึ่ง แล้วปัจจัยนี้จะทำให้การเมืองในซีกรัฐบาลชัดเจนขึ้น
แต่ในส่วนของฝ่ายค้านท่าที พล.อ.
ประยุทธ์ จะเป็นอย่างไรไม่มีผล เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคเตรียมผู้สมัครของตัวเองไว้แล้ว และมั่นใจว่าจากการบริหารงานที่ผ่านมาของรัฐบาล จะทำให้เสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมได้คะแนนมากขึ้นจนเป็นเสียงส่วนมากของสภา แต่จะผลักดันนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่นั้น คงต้องขึ้นกับ ส.ว.ว่าจะฟังเสียงประชาชนหรือไม่
JJNY : ค้นห้องกลุ่ม P.N.Y.S│ก่อการล้านนาค้าน‘คาร์บอน เครดิต’│สมคิดเชื่อ‘ยุบสภา’ไม่เกินกลางกุมภา│สัญญาณอันตรายส่งออก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3676639
สืบเนื่องรัฐบาลไทย นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2022 ขณะที่นักกิจกรรมทางการเมืองและประชาชนจำนวนหลายกลุ่ม นัดหมายชุมนุมคู่ขนาน ในช่วงวันที่ 16-19 พฤศจิกายนนี้ เพื่อสะท้อนถึงหายนะที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ จากการนำสเนอนโยบาย BCG ในเวทีดังกล่าว รวมถึงจะมีการเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือถึงผู้นำ ให้ทราบถึงสถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชน ของรัฐบาลไทย นั้น
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH) เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เข้าควบคุมตัว 3 นักศึกษา ม.รามคำแหง ที่ห้องพัก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยอ้างว่าจะก่อความไม่สงบในระหว่างการประชุมเอเปค
ขณะที่ กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (P.N.Y.S) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
ด่วน!!! ค้นห้องนักศึกษาหน้าราม คุกคามนักศึกษาไม่เลิก เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว นักศึกษารามคำแหง สมาชิก (P.N.Y.S) และนักกิจกรรมเพื่อสังคม ณ ซอยรามคำแหง 53/1
พร้อมเปิดเผยรายชื่อสมาชิก กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถูกควบคุม ได้แก่
1. นายอับดุลเลาะ กะลาแต ประธานชมรมมุสลิมรามคำแหง
2. นายศักดา เมาะอะ
และ 3. นายฟิตรี อารง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปที่สืบ 4 หัวหมาก โดยยังไม่ทราบชะตากรรม
ต่อมา เวลา 11.19 น. สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย เปิดเผยอีกว่า เมื่อเช้าของวันนี้ เวลา 06.10 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก พร้อมกับทหารรวมกว่า 15 นาย ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักนักศึกษารามคำแหง ซึ่งทางนักศึกษาได้ให้ความว่า เจ้าหน้าที่ได้เคาะประตูในเวลาดังกล่าว พร้อมกับหนังสือศาล โดยอ้างว่าเพื่อตรวจค้นสิ่งผิดกฏหมาย และในเวลาต่อมา 06.20 น. ก็ได้มีเจ้าหน้าที่นำตัวนักศึกษาราม ที่อาศัยในหอพักอีกที่หนึ่งไปยัง สน.หัวหมาก
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย ขอให้เจ้าหน้าที่หยุดการกระทำคุกคามนักศึกษาและเลือกปฏิบัติในลักษณะแบบนี้ เพราะจะก่อให้เกิดการวิตกกังวลและความหวาดกลัวของนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ อีกทั้งการเลือกปฏิบัติถือเป็นการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา 27 วรรค 3 “การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความ พิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือ สังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอัน ไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือเหตุอื่นใด จะกระทำมิได้”
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทยไทย ซึ่งเป็นองค์กรนำการขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชน และสิทธิของนักศึกษามุสลิม ขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ตัดสินใจหรือทำการต่างๆ บนพื้นฐานของการรักษาซึ่งความเป็นเอกภาพ ภราดรภาพ และพึงรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชนอันเป็นสิทธิพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับ หากมีนักศึกษาท่านใดที่โดนคุกคาม เลือกปฏิบัติในลักษณะดั่งกล่าว สามารถติดต่อทางสมาพันธ์ฯ เพื่อดำเนินการหาทางออกร่วมกัน
สวมหน้ากากขาว-ชูป้าย ‘หยุดเอเปค’ รอบเชียงใหม่ คณะก่อการล้านนา นั่งรถไฟ ค้าน ‘คาร์บอน เครดิต’
https://www.matichon.co.th/region/news_3676775
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ จ.เชียงใหม่ มีรายงานว่า นักกิจกรรมกลุ่มคณะก่อการล้านนา ร่วมเคลื่อนไหว ด้วยการสวมหน้ากาก ‘กาย ฟอกส์’ สีขาว พร้อมนำป้ายผ้าที่มีข้อความค้านการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2022 ไปแสดงยังจุดต่างๆ
นายพชร คำชำนาญ หรือ กอล์ฟ แกนนำภาคีSaveบางกลอย โพสต์ข้อความระบุว่า หน้ากาก-ป้ายผ้า โผล่เชียงใหม่ ระบุ “ APEC 2022- PRAYUT”
เวลาประมาณ 17.00 น. วานนี้ (15 พ.ย.) พบการเคลื่อนไหวใน จ.เชียงใหม่ ก่อนการประชุมเขตเศรษฐกิจเอเปค (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) โดยมีกลุ่มคนสวมหน้ากากสีขาว ได้นำป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “ APEC 2022″ และ “ราษฎรหยุด APEC 2022″ ไปยืนถือและแขวนไว้ตามจุดต่างๆ ของ จ.เชียงใหม่ ได้แก่ อ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สี่แยกเมญ่า, ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ และสะพานขัวเหล็กข้ามแม่น้ำปิง
ต่อมา เวลา 11.00 น. วันนี้ (16 พ.ย.) คณะก่อการล้านนา แสดงออกเชิงสัญลักษณ์อีกครั้ง ที่สถานีรถไฟเด่นชัย จ.แพร่ ด้วยการใส่หน้ากากและชูป้ายคัดค้านการประชุมเอเปค 2022 เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ โดยมีการชูป้ายข้อความขณะนั่งรถไฟ อาทิ “ทุนนิยม และคาร์บอน เครดิต แปลงโฉมผู้ก่อมลพิษ เป็นผู้ปกป้องโลก”
สมคิด เชื่อ ‘ยุบสภา’ ไม่เกิน กลางกุมภา เหตุ ส.ส.แห่ลาออก-ย้ายพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_3676787
สมคิด ชี้ หลังเลือกตั้งฝ่ายค้านได้เสียงเกินครึ่งสภา แต่ตั้งนายกฯ ได้หรือไม่อยู่ที่ ส.ว. เชื่อ ยุบสภาไม่เกินกลาง ก.พ.
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการเมืองหลังเอเปคว่า คนติดว่าท่าทีของพรรคการเมืองต่างๆ จะชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดทิศทางของตัวเองเพื่อเตรียมคนลงสมัครรับเลือกตั้งมากขึ้น รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคก็เชื่อว่าจะชัดเจนภายในเดือนธันวาคม อีกทั้งผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรคก็จะมีความชัดเจนเกือบ 100% ทุกพรรค
ส่วนการเลือกตั้งคนคิดว่าคงเกิดขึ้นก่อนวันสงกรานต์ เพราะเชื่อว่าจะมีการยุบสภา ไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ เพราะช่วงนั้น ส.ส.จะมีการลาออกเพื่อโยกย้ายพรรคกันจำนวนมากนำไปสู่การยุบสภา
เมื่อถามว่าท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมีผลต่อการเมืองไทยอย่างไร
นายสมคิดกล่าวว่า กระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงพอมีอยู่สำหรับประชาชนบางกลุ่ม ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเดินหน้าต่อแล้วไปอยู่พรรคการเมืองไหน เชื่อว่าจะมี ส.ส.ย้ายตามไปจำนวนหนึ่ง แล้วปัจจัยนี้จะทำให้การเมืองในซีกรัฐบาลชัดเจนขึ้น
แต่ในส่วนของฝ่ายค้านท่าที พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอย่างไรไม่มีผล เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคเตรียมผู้สมัครของตัวเองไว้แล้ว และมั่นใจว่าจากการบริหารงานที่ผ่านมาของรัฐบาล จะทำให้เสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมได้คะแนนมากขึ้นจนเป็นเสียงส่วนมากของสภา แต่จะผลักดันนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่นั้น คงต้องขึ้นกับ ส.ว.ว่าจะฟังเสียงประชาชนหรือไม่