สลายชุมนุม ตร.บุกจับกุมวุ่น ช่างภาพรอยเตอร์ เจ็บโดนของแข็งซัดหน้า
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7371898
เดือด ตร.บุกจับกุมสลายชุมนุมวุ่น ช่างภาพรอยเตอร์เจ็บ โดนของแข็งซัดหน้า ขณะทำหน้าที่ ปามาจากด้านนอก ดิ่งลงต่ำปะทะอย่างจัง เพื่อนนักข่าวผู้ชุมนุมเร่งช่วย
วันที่ 18 พ.ย.2565 การสลายชุมนุมของตำรวจต่อกลุ่ม
‘ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ ที่ต้องการเพียงแค่เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นบุกจับกุม มีคนถูกกระสุนยาง แก๊สน้ำตาเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นมีช่างภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ชื่อ น.ส.
ชาลินี ถิระศุภะ หรือ
เจน
ทั้งนี้ช่างภาพได้รับบาดเจ็บขณะ ถ่ายภาพบรรยากาศการชุมนุม ที่ผู้เข้าร่วมได้นำพริกแห้งและเกลือเผาในกระทะที่จุดไฟตั้งเตาบนถนนดินสอ ใกล้แนวตำรวจ โดยมีการปะทะ ปาวัตถุใส่ตำรวจ ก่อนจะมีของแข็งโยนกลับมาถูกหน้าเจนพอดี
โดยบาดแผลเกิดที่ใกล้ดวงตาขวา มีอาการตาแดง และมีเลือดซึมออกมา ผู้ชุมนุมช่วยกันนำน้ำสะอาดล้างแผลและเร่งประสานหน่วยปฐมพยาบาลโดยวัตถุดังกล่าวคาดว่าเป็นแก้ว ทรงกลม ถูกเข้าที่ใบหน้า วัตถุแตกเกือบครึ่ง ด้วยน้ำหนักของวัสดุทำให้ปาแล้วโค้งดิ่งลงและระดับต่ำทำให้โดนช่างภาพที่อยู่แนวหน้า
นักข่าวMatterน่วม ตร.ผลักล้ม รุมตื้บสหบาทา ก่อนหล่นวาทะ "จำไว้"
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7372346
นักข่าวน่วม โดนตำรวจใช้โล่ดันล้ม แล้วรุมกระทืบสหบาทา กระบอง อัดยับ ร้องพอแล้วยังไม่หยุด ก่อนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หล่นวาทะ “พวกกูเนี่ยของจริง จำไว้”
วันที่ 18 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าว The Matter ถูกทำร้ายร่างกายทั้งถูกกระบองฟาดและเตะเข้าที่ศีรษะ ขณะไลฟ์สดการสลายชุมนุมของตำรวจที่ถนนดินสอ ต่อกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ทั้งที่ใส่ปลอกแขนและยืนยันว่าตัวเองเป็นสื่อมวลชน ก็ยังไม่แคล้วโดนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์รุมยำ มีการพูดว่า พวกกูเนี่ยของจริง จำไว้
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทางตำรวจได้พุ่งเข้ามาหาผู้สื่อข่าว พร้อมเอาโล่ดัน ทางเจ้าตัวได้แจ้งว่า ตัวเองเป็นสื่อ ขณะไลฟ์สดได้แจ้งแก่ผู้ชมว่า ถูกกันไม่ให้ทำหน้าที่ ก่อนจะโดนดันจนล้ม แล้วตามมาด้วยการรุมกระทืบอย่างดุเดือด จนเจ้าตัวต้องรอบอกว่าพอแล้ว
ทั้งนี้ทางตำรวจได้ระดมประเคนทั้งกระบอง บาทา โดยได้รุมล้มยำนักข่าวอยู่ราวนาทีกว่า พร้อมพยายามแย่งมือถือไปด้วย จนเจ้าตัวต้องแจ้งว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของที่ทำงาน ก่อนจะเจอผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หล่นคำพูดว่า “พวกกูเนี่ยของจริง จำไว้”
‘ชลน่าน’ ชี้ หากพ.ร.บ.กัญชาในสภา แก้ไม่ให้ใช้เสรี รับได้อยู่แล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3681436
‘ชลน่าน’ ชี้ หาก พ.ร.บ.กัญชาในสภา แก้ไม่ให้ใช้เสรี รับได้อยู่แล้ว เผย พท.เลื่อนประชุมใหญ่ ปรับ กก.บห. เหตุรอศาลรธน.วินิจฉัย กม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส.
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หลังการประชุมเอเปค ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลยังมีความเห็นต่างในเรื่องนี้ จะส่งผลทำให้การเมืองเกิดความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่ ว่า ความเห็นต่างในระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ก็เป็นเรื่องปกติ ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สวยงามในระบอบนี้
ฉะนั้น อย่ามองว่าเป็นความขัดแย้ง เพราะในระบบรัฐสภาต้องมีความเห็นร่วม สุดท้ายก็ต้องมีมติออกมาว่าจะเป็นอย่างไรโดยใช้เสียงข้างมาก ซึ่งตนไม่ได้มองเป็นความขัดแย้ง แต่จะมีประเด็นต่อเนื่องของแต่ละกลุ่ม แต่ละพรรค ก็ไปว่ากันเป็นประเด็นๆ ไป แต่ไม่ควรใช้ความเห็นต่างในการตรากฎหมาย
เมื่อถามถึง ท่าทีของพรรค พท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านยังยืนยันว่าหากกัญชาไม่ได้ถูกใช้ในทางการแพทย์ ก็จะไม่โหวตผ่านให้ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราสนับสนุนเรื่องกัญชาในทางการแพทย์ กัญชาที่นำมาใช้วิจัยในทางวิทยาศาสตร์ และพืชเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องเราไม่ได้คัดค้าน แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงในการใช้กัญชาคือจะทำอย่างไรไม่ให้สารเสพติดในกัญชาถูกใช้ไปอย่างแพร่หลายหรือไม่มีการควบคุม ซึ่งเราคาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะออกมาควบคุมให้มีการใช้สาร THC อย่างเสรี
แต่เท่าที่เราดูกฎหมายที่ออกมาไม่ได้มีมาตรการควบคุมเพื่อปิดคำว่ากัญชาเสรีไปได้ เราจึงพยายามให้เขาไปปรับแก้ว่าทำอย่างไรไม่ให้เป็นกัญชาเสรี โดยเฉพาะในกลุ่มลูกหลาน เยาวชน คนที่มีลักษณะต้องห้าม หญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร แม้แต่กฎกระทรวงที่ออกมาใหม่เรื่องการควบคุมช่อดอกกัญชาก็ห้ามเฉพาะจำหน่าย
นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า ทั้งนี้ สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคก็อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นสิทธิและเสรีภาพของพรรคการเมืองเขา ตนจะไม่ก้าวล่วง แต่ส่วนใหญ่เท่าที่พูดคุยกันมาเรายังเห็นว่า ถ้ากฎหมายกัญชาที่อยู่ในสภา
ขณะนี้ หากมีมาตราหรือตัวบทที่สามารถปิดคำว่ากัญชาเสรีได้ เรายอมรับอยู่แล้ว ในความคิดส่วนตัวตนมองว่าหากจะให้ใช้กัญชาทางสันทนาการก็ต้องมีมาตรการมารองรับให้ชัดเจนว่า ใคร และสถานที่ไหนที่จะใช้ได้ ซึ่งรายละเอียดพวกนี้ต้องชัด แต่คุณเขียนแบบลักปิดลักเปิดมันไม่ใช่ ฉะนั้น เราก็ยังมีข้อกังวลตรงนี้อยู่ แล้วต้องไปสู้กันในสภาว่าสามารถปรับปรุงแก้ไขได้หรือไม่
เมื่อถามว่า การประชุมพรรค พท.ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ จะมีไฮไลต์อะไรพิเศษหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เดิมทีที่เรากำหนดไว้วันที่ 28 พฤศจิกายนนี้นั้น แต่มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงคือศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัย ร่างพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ.… เราจึงคิดว่าเราจะรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน
เพราะจะมีผลต่อการนำไปสู่การเขียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค ซึ่งต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ ซึ่งก็จะรอไปอีกนิด คาดว่าจะเป็นวันที่ 6 ธันวาคม สำหรับวาระการประชุมเรื่องส่วนใหญ่ก็จะเป็นการประชุมของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค การเปลี่ยนแปลงตัว กก.บห. เปลี่ยนแปลงกรรมการสรรหาที่ต้องเลือกทดแทน และการประชุมใหญ่ทั่วไป รวมถึงมีการเสนอนโยบาย วิสัยทัศน์ของภาคต่างๆ แต่ยังคงประชุมที่พรรค พท.อยู่
'พิธา' เย้ย 'ประยุทธ์' จัดเอเปคสานฝันยกระดับตัวเอง จวก ตร.สลายม็อบรุนแรงเกินเหตุ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3682259
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของประชาชนที่รวมตัวกันในนามกลุ่ม ‘
ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ ว่า ถือเป็นความอับอายที่รัฐบาลไทยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการเช่นนี้ทั้งที่การประชุมเอเปคควรเป็นเวทีที่เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ไม่ใช่แค่เพื่อพูดคุยตกลงกันในระดับผู้นำประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชน ภาคประชาสังคมต่างๆ ด้วย
นาย
พิธากล่าวต่อว่า ในอดีตการประชุมระดับนี้ในประเทศอื่นๆ ก็มักจะมีการรวมตัวชุมนุมของประชาชนและภาคประชาสังคมเพื่อส่งเสียงเรียกร้องถึงเหล่าผู้นำประเทศเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลแต่ละประเทศว่าจะมีความเปิดกว้างและรับมือกับสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลายได้แค่ไหน แต่ในกรณีของไทยวันนี้ รัฐบาลเลือกที่จะรับมือกับสถานการณ์ด้วยการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุมที่มีจำนวนไม่มาก และมีข้อเรียกร้องเพียงแค่ยื่นหนังสือต่อตัวแทนเท่านั้น มีการใช้กำลังที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของการควบคุมฝูงชน ทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงทั้งผู้ชุมนุมและสื่อมวลชน ตั้งแต่ช่วงที่ผู้ชุมนุมเพิ่งเริ่มเดินขบวน ห่างจากสถานที่ประชุม 10 กิโลเมตร
“
ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ก.ก. ไม่อาจยอมรับการกระทำของรัฐบาลได้ และขณะนี้มี ส.ส.พรรค ก.ก. เข้าร่วมสังเกตการณ์และเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ถูกคุมตัว สุดท้ายรัฐบาลไทยต้องตอบให้ได้ว่าประเทศไทยได้อะไรจากการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค และสานฝันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะได้ถ่ายรูป ได้ร่วมโต๊ะกับผู้นำนานาชาติแค่เพียงเท่านั้น” นาย
พิธากล่าว
JJNY : 5in1 ช่างภาพรอยเตอร์โดนของแข็ง|นักข่าวMatterน่วม|‘ชลน่าน’ชี้แก้ไม่ให้ใช้เสรี|'พิธา'เย้ยจัดเอเปค|ก.ล.ต.ตั้งสอบMORE
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7371898
เดือด ตร.บุกจับกุมสลายชุมนุมวุ่น ช่างภาพรอยเตอร์เจ็บ โดนของแข็งซัดหน้า ขณะทำหน้าที่ ปามาจากด้านนอก ดิ่งลงต่ำปะทะอย่างจัง เพื่อนนักข่าวผู้ชุมนุมเร่งช่วย
วันที่ 18 พ.ย.2565 การสลายชุมนุมของตำรวจต่อกลุ่ม ‘ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ ที่ต้องการเพียงแค่เดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นบุกจับกุม มีคนถูกกระสุนยาง แก๊สน้ำตาเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นมีช่างภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ชื่อ น.ส.ชาลินี ถิระศุภะ หรือเจน
ทั้งนี้ช่างภาพได้รับบาดเจ็บขณะ ถ่ายภาพบรรยากาศการชุมนุม ที่ผู้เข้าร่วมได้นำพริกแห้งและเกลือเผาในกระทะที่จุดไฟตั้งเตาบนถนนดินสอ ใกล้แนวตำรวจ โดยมีการปะทะ ปาวัตถุใส่ตำรวจ ก่อนจะมีของแข็งโยนกลับมาถูกหน้าเจนพอดี
โดยบาดแผลเกิดที่ใกล้ดวงตาขวา มีอาการตาแดง และมีเลือดซึมออกมา ผู้ชุมนุมช่วยกันนำน้ำสะอาดล้างแผลและเร่งประสานหน่วยปฐมพยาบาลโดยวัตถุดังกล่าวคาดว่าเป็นแก้ว ทรงกลม ถูกเข้าที่ใบหน้า วัตถุแตกเกือบครึ่ง ด้วยน้ำหนักของวัสดุทำให้ปาแล้วโค้งดิ่งลงและระดับต่ำทำให้โดนช่างภาพที่อยู่แนวหน้า
นักข่าวMatterน่วม ตร.ผลักล้ม รุมตื้บสหบาทา ก่อนหล่นวาทะ "จำไว้"
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7372346
นักข่าวน่วม โดนตำรวจใช้โล่ดันล้ม แล้วรุมกระทืบสหบาทา กระบอง อัดยับ ร้องพอแล้วยังไม่หยุด ก่อนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หล่นวาทะ “พวกกูเนี่ยของจริง จำไว้”
วันที่ 18 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าว The Matter ถูกทำร้ายร่างกายทั้งถูกกระบองฟาดและเตะเข้าที่ศีรษะ ขณะไลฟ์สดการสลายชุมนุมของตำรวจที่ถนนดินสอ ต่อกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ทั้งที่ใส่ปลอกแขนและยืนยันว่าตัวเองเป็นสื่อมวลชน ก็ยังไม่แคล้วโดนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์รุมยำ มีการพูดว่า พวกกูเนี่ยของจริง จำไว้
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทางตำรวจได้พุ่งเข้ามาหาผู้สื่อข่าว พร้อมเอาโล่ดัน ทางเจ้าตัวได้แจ้งว่า ตัวเองเป็นสื่อ ขณะไลฟ์สดได้แจ้งแก่ผู้ชมว่า ถูกกันไม่ให้ทำหน้าที่ ก่อนจะโดนดันจนล้ม แล้วตามมาด้วยการรุมกระทืบอย่างดุเดือด จนเจ้าตัวต้องรอบอกว่าพอแล้ว
‘ชลน่าน’ ชี้ หากพ.ร.บ.กัญชาในสภา แก้ไม่ให้ใช้เสรี รับได้อยู่แล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3681436
‘ชลน่าน’ ชี้ หาก พ.ร.บ.กัญชาในสภา แก้ไม่ให้ใช้เสรี รับได้อยู่แล้ว เผย พท.เลื่อนประชุมใหญ่ ปรับ กก.บห. เหตุรอศาลรธน.วินิจฉัย กม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส.
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หลังการประชุมเอเปค ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลยังมีความเห็นต่างในเรื่องนี้ จะส่งผลทำให้การเมืองเกิดความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่ ว่า ความเห็นต่างในระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ก็เป็นเรื่องปกติ ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สวยงามในระบอบนี้
ฉะนั้น อย่ามองว่าเป็นความขัดแย้ง เพราะในระบบรัฐสภาต้องมีความเห็นร่วม สุดท้ายก็ต้องมีมติออกมาว่าจะเป็นอย่างไรโดยใช้เสียงข้างมาก ซึ่งตนไม่ได้มองเป็นความขัดแย้ง แต่จะมีประเด็นต่อเนื่องของแต่ละกลุ่ม แต่ละพรรค ก็ไปว่ากันเป็นประเด็นๆ ไป แต่ไม่ควรใช้ความเห็นต่างในการตรากฎหมาย
เมื่อถามถึง ท่าทีของพรรค พท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านยังยืนยันว่าหากกัญชาไม่ได้ถูกใช้ในทางการแพทย์ ก็จะไม่โหวตผ่านให้ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราสนับสนุนเรื่องกัญชาในทางการแพทย์ กัญชาที่นำมาใช้วิจัยในทางวิทยาศาสตร์ และพืชเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องเราไม่ได้คัดค้าน แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงในการใช้กัญชาคือจะทำอย่างไรไม่ให้สารเสพติดในกัญชาถูกใช้ไปอย่างแพร่หลายหรือไม่มีการควบคุม ซึ่งเราคาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะออกมาควบคุมให้มีการใช้สาร THC อย่างเสรี
แต่เท่าที่เราดูกฎหมายที่ออกมาไม่ได้มีมาตรการควบคุมเพื่อปิดคำว่ากัญชาเสรีไปได้ เราจึงพยายามให้เขาไปปรับแก้ว่าทำอย่างไรไม่ให้เป็นกัญชาเสรี โดยเฉพาะในกลุ่มลูกหลาน เยาวชน คนที่มีลักษณะต้องห้าม หญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร แม้แต่กฎกระทรวงที่ออกมาใหม่เรื่องการควบคุมช่อดอกกัญชาก็ห้ามเฉพาะจำหน่าย
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทั้งนี้ สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคก็อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นสิทธิและเสรีภาพของพรรคการเมืองเขา ตนจะไม่ก้าวล่วง แต่ส่วนใหญ่เท่าที่พูดคุยกันมาเรายังเห็นว่า ถ้ากฎหมายกัญชาที่อยู่ในสภา
ขณะนี้ หากมีมาตราหรือตัวบทที่สามารถปิดคำว่ากัญชาเสรีได้ เรายอมรับอยู่แล้ว ในความคิดส่วนตัวตนมองว่าหากจะให้ใช้กัญชาทางสันทนาการก็ต้องมีมาตรการมารองรับให้ชัดเจนว่า ใคร และสถานที่ไหนที่จะใช้ได้ ซึ่งรายละเอียดพวกนี้ต้องชัด แต่คุณเขียนแบบลักปิดลักเปิดมันไม่ใช่ ฉะนั้น เราก็ยังมีข้อกังวลตรงนี้อยู่ แล้วต้องไปสู้กันในสภาว่าสามารถปรับปรุงแก้ไขได้หรือไม่
เมื่อถามว่า การประชุมพรรค พท.ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ จะมีไฮไลต์อะไรพิเศษหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เดิมทีที่เรากำหนดไว้วันที่ 28 พฤศจิกายนนี้นั้น แต่มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงคือศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัย ร่างพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ.… เราจึงคิดว่าเราจะรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน
เพราะจะมีผลต่อการนำไปสู่การเขียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค ซึ่งต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ ซึ่งก็จะรอไปอีกนิด คาดว่าจะเป็นวันที่ 6 ธันวาคม สำหรับวาระการประชุมเรื่องส่วนใหญ่ก็จะเป็นการประชุมของคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค การเปลี่ยนแปลงตัว กก.บห. เปลี่ยนแปลงกรรมการสรรหาที่ต้องเลือกทดแทน และการประชุมใหญ่ทั่วไป รวมถึงมีการเสนอนโยบาย วิสัยทัศน์ของภาคต่างๆ แต่ยังคงประชุมที่พรรค พท.อยู่
'พิธา' เย้ย 'ประยุทธ์' จัดเอเปคสานฝันยกระดับตัวเอง จวก ตร.สลายม็อบรุนแรงเกินเหตุ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3682259
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของประชาชนที่รวมตัวกันในนามกลุ่ม ‘ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ ว่า ถือเป็นความอับอายที่รัฐบาลไทยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการเช่นนี้ทั้งที่การประชุมเอเปคควรเป็นเวทีที่เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ไม่ใช่แค่เพื่อพูดคุยตกลงกันในระดับผู้นำประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชน ภาคประชาสังคมต่างๆ ด้วย
นายพิธากล่าวต่อว่า ในอดีตการประชุมระดับนี้ในประเทศอื่นๆ ก็มักจะมีการรวมตัวชุมนุมของประชาชนและภาคประชาสังคมเพื่อส่งเสียงเรียกร้องถึงเหล่าผู้นำประเทศเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลแต่ละประเทศว่าจะมีความเปิดกว้างและรับมือกับสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลายได้แค่ไหน แต่ในกรณีของไทยวันนี้ รัฐบาลเลือกที่จะรับมือกับสถานการณ์ด้วยการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุมที่มีจำนวนไม่มาก และมีข้อเรียกร้องเพียงแค่ยื่นหนังสือต่อตัวแทนเท่านั้น มีการใช้กำลังที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของการควบคุมฝูงชน ทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงทั้งผู้ชุมนุมและสื่อมวลชน ตั้งแต่ช่วงที่ผู้ชุมนุมเพิ่งเริ่มเดินขบวน ห่างจากสถานที่ประชุม 10 กิโลเมตร
“ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ก.ก. ไม่อาจยอมรับการกระทำของรัฐบาลได้ และขณะนี้มี ส.ส.พรรค ก.ก. เข้าร่วมสังเกตการณ์และเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ถูกคุมตัว สุดท้ายรัฐบาลไทยต้องตอบให้ได้ว่าประเทศไทยได้อะไรจากการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค และสานฝันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะได้ถ่ายรูป ได้ร่วมโต๊ะกับผู้นำนานาชาติแค่เพียงเท่านั้น” นายพิธากล่าว