แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง

.

.
Alexander Zick illustrated Cinderella 
with the Doves inspired by
the Brothers Grimm's version
.
.

.
The witch welcomes Hansel and Gretel
into her hut Illustration by
Arthur Rackham, 1909
.
.

,
Schneewittchen by Alexander Zick
.
.
.

ลองจินตนการ/นึกภาพเทพนิยาย
Cinderella กวาดเตาผิงด้วยผ้าขี้ริ้วขาดรุ่งริ่ง
Hansel กับ Gretel เดินตามรอยขนมปังในป่าที่มืดมิด
Snow White ใบหน้าซีดเผือดนอนนิ่งนิ่งอยู่ในโลงแก้ว

ภาพเหล่านี้ยังจดจำอยู่ในสำนึกเราส่วนใหญ่
แต่ความจริงก็คือ รากเหง้าของนิทานพื้นบ้าน
ที่คล้ายคลึงกัน ถูกตีความจินตนาการใหม่
เป็นภาพยนตร์โดย Disney
ทุกคนที่เอ่ยถึงมีวายร้ายคนประเภทเดียวกัน
คือ แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย

แม่เลี้ยงที่ชั่วร้ายได้หลอกหลอนในเทพนิยาย
มานานนับหลายศตวรรษจนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่
นักวิจัยได้ค้นหาความทุกข์ยากลำบาก
ของนางเอกผู้กล้าหาญ ผู้งดงามทั้งกายและใจ
และแล้ว พวกนางมารร้ายนี้เป็นใคร
และพวกนางมารรัายมาจากไหน
คนทั่วไปจะคิดอย่างไรกับพวกเธอ
ในฐานะใด ในยุคสมัยใหม่นี้

“ แก่นแท้ของเรื่องราวส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน
นั่นคือ การแข่งขันชิงดีชิงเด่นที่ร้ายกาจมาก
ระหว่างผู้หญิงสองคน สาวแก่กับสาวกว่า ”
นั่นคือ ระหว่าง แม่เลี้ยงกับลูกติดผัว/เมียเดิม
Maria Tatar ผู้เชี่ยวชาญด้านนิทานพื้นบ้านชาวเยอรมัน
ที่ Harvard University พูดกับ Live Science
.
.

.
.
.

เหตุเกิดในโรม

ต้นกำเนิดที่เป็นไปได้ของแม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย
มีขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงโรมโบราณ 
และคนที่เป็นสัญลักษณ์เรื่องนี้โดยเฉพาะ
คือ Livia Drusilla จักรพรรดินีโรมันคนแรก
เธอเป็นมเหสีคนที่ 2 ของจักรพรรดิ
Caesar Augustus
.

.

หมายเหตุ

ตามตำนาน แต่เดิมเดือนกุมภาพันธุ์มึ 30 วัน
Julius Caesar ดึงไปหนึ่งวันทึ่เดือน July
ต่อมา Carsar Augustus ดึงไปอีก 1 วัน
ไปเพิ่มในเดือน August ให้เท่ากับ July
ทำให้เดือนกุมภาพันธ์ มีแค่ 28 วัน

แต่เดิมปฏิทินโรมันใช้งานได้ดี
แต่พอร่วมพันกว่าปีขึ้นไปแล้ว วันเวลา/เดือน
ฤดูกาลในแต่ละรอบปีเริ่มคลาดเคลื่อน
ยิ่งวัน Spring Equinox หรือ Autume Equinox
กลายเป็นวันทึ่ไม่ตรงกับฤดูกาล 

Pope Gregory XIII จึงสั่งให้มัการล้างไพ่
สั่งให้ปรับปรุงปฏิทินด้วยการนับหนึ่งใหม่
ที่ใช้ในรัฐศาสนจักร Catholic ในปีค.ศ. 1582
โดยเริ่มประกาศใช้วันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1582

ในแต่ละปี โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
เป็นวงโคจรซึ่งใช้เวลา 365 1/4 วัน 
เพื่อให้ครบ 1 รอบ ปฏิทินแต่ละปีมี 365 วัน 
หมายความว่าจะมี 1/4 ของวันที่เหลือในแต่ละปี
หรือเวลาหายไปราวปีละ 6 ชั่วโมง
ถ้าระยะเวลา 1,800 ปีก็ราว 300 ชั่วโมง
ถ้าคิดเป็นจำนวนวันที่หายไป 12.5 วัน

เพื่อชดเชยแก้ไขการหายไปปีละ 6 ชั่วโมง
ดังนั้นทุก ๆ 4 ปีจะมีวันพิเศษ คือจะมี 366 วัน
คือ เดือนกุมภาพันธ์จะมี 29 วัน
แทนที่จะมี 28 วันเหมือนปกติ
ยกเว้นปีที่หารด้วย 400 ลงตัว (1600,2000)
จะไม่เพิ่มวันที่ 1 วันในเดือนกุมภาพันธ์
.
.

.
.

.
.

.
.

.
.
.

Caesar Augustus ก้าวขึ้นสู่อำนาจ
หลังจาก Julius Caesar ถูกพวกวุฒิสมาชิกแทงตาย
ด้วยมีดหลายด้ามช่วง 44 ปีก่อนคริสตกาล
หนึ่งในนักฆ่า Caesar คือ หลานชายชื่อ
Marcus Junius Brutus Brutus
Caesar จำหน้ามันได้เลยด่า
" มึxด้วยฤาวะ ไอ้ Brutus "
การกบฏครั้งนั้น มีทั้งคนชอบคนไม่ชอบ
คนชอบบอก Caesar กำลังทำลายระบบกงสุล
การฆ่าทิ้งเพีอระงับการไต่เต้าอำนาจ
คนไม่ชอบบอก พวกกบฏทำลายนักรบคนเก่ง
สมควรขึ้นครองอำนาจเป็นจักรพรรดิ์

(หลังจากนั้นพวกกบฏทุกคน
ถูกจับกุมแล้วถูกตัดสินประหารชีวิตทุกคน
ด้วยการให้เลือกกินยาตาย แขวนคอตาย
เชือดแขนให้เลือดไหลหมดตัวแบบภาพยนตร์
The God Father การฆ่าตัวตายแบบมีศักดิ์ศรี
โดยจะไม่มีการจองเวรจองกรรมยึดทรัพย์สิน
ส่วนไพร่ทาสทุกคนถ้ารอดตายก็ถูกขายต่อ
ถ้าถูกฆ่าตายก็ตายหยังเขียดปาดกบทั่วไป)

นักประวัติศาสตร์ชาวอิตาลี Augusto Fraschetti
ระบุว่าเมื่อ Livia แต่งงานกับ Augustus
เธอมีลูกติดผู้ชายแล้วชื่อ Tiberius
แต่ก่อนมาแต่งงานอีกครั้งนั้น
Augustus มีลูกติดเป็นผู้ชาย 2 คนคือ
Gaius Caesar กับ Lucius Caesar
ซึ่งไม่คนใดคนหนึ่งจะต้องขึ้นครองราชย์
แต่ก็มีปัญหาคือ ทั้งคู่ต่างสิ้นพระชนม์
.
.

.
.

.
.

.
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
อย่าบอกใครนะ - พิทยา บุณยรัตพันธ์[
.
.



ในไม่ช้าข่าวลือก็แพร่ไปทั่วกรุงโรม
เรื่องการเล่นผิดกติกาสากลก็เริ่มโด่งดัง
สงครามประชาชนในยุค Analog
การใช้ข่าวลือไปไกล ไปเร็วที่สุด
เพราะทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ สื่อทางเดียว
มักจะเป็นขอบฝ่ายรัฐบาล/นายทุน
แบบอย่าซุบซิบบอกใคร ซุบซิบบอกใคร
อย่าบอกใครนะ สัญญาได้ไหมคนดีย์
ถ้าทุกวันนี้ สื่อหลายทาง Line Facebook อื่น ๆ
กาคปิดกั้นข้อมูลข่าวสารทำได้ยากขึ้น

และแล้วเปลวไฟแห่งการนินทาก็ปะทุอีกครั้ง
เมื่อในปีต่อมาเมื่อ Agrippa Postumus
หลานชายของ Caesar Augustus
กับทายาทอีกคนหนึ่งที่อาจจะขึ้นครองราชย์
ทั่งคู่ต่างถูกเนรเทศและถูกสังหารทิ้ง

ในที่สุด Tiberius ลูกติดของ Livia 
เลยขึ้นบัลลังค์แทนทายาทโดยสายเลือด
ของกษัตริย์ Caesar Augustus
ได้สวมชุดสีม่วง (สีแพงหายากมากในอดีต)
เรื่องราวทั้งหมดนี้กลายเป็นเรื่องดูน่าสงสัย
สำหรับพลเมืองโรมันจำนวนมากในยุคนั้น
แม้ว่าในอดีตยาแผนปัจจุบันหายากมาก
คนในยุคนั้นแก่เร็ว ตายเร็ว กว่าทุกวันนี้
ส่วนมากตายตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะไร้ยา
ไร้การควบคุมโรคระบาดแบบปัจจุบัน
.

.

ในกรุงโรมโบราณ การเมืองปกครองสูงสุด 
ยังเปิดช่องให้วิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ
ได้อย่างเปิดเผยโดยเฉพาะจักรพรรดิ
แต่กยังมีวิธีการอื่นที่ละเอียดกว่า/เนียนกว่า
ในการแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับทางการเมือง
การตัดสินใจที่ผิดพลาดของกษัตริย์ในตอนนั้น
ด้วยการทุ่มเทควมสงสัยที่น่าจะเกิดขึ้นที่ Livia
เพราะเพศสภาพของเธอ ที่เป็นสตรี

 
“ มีวิธีหนึ่งที่คุณสามารถวิพากษ์วิจารณ์ผู้ชายได้
คือ การวิพากษ์วิจารณ์ผู้หญิง/เมียที่ผูกพันด้วย
ดังนั้น Livia คือ แพะรับบาปจากเรื่องราวนี้
แทนการวิพากษ์วิจารณ์สามีและลูกชายของเธอ "
Peta Greenfield นักประวัติศาสตร์แห่งกรุงโรมโบราณ
University of Sydney ที่ Australia
ให้สัมภาษณ์กับ Live Science
.
.

.
.

.
Statue of Tacitus 
outside the Austrian Parliament Building
.
.
.

แต่คนที่ระบุบทบาทของ Livia
ในฐานะแม่เลี้ยงที่ชั่วร้ายในอดีต
คือ Tacitus นักประวัติศาสตร์
ซึ่งมีอายุประมาณช่วงก่อนค.ศ. 56 ถึง 120
ในยุคประวัติศาสตร์โรมันของ Tacitus
ได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นเมื่อหลายสิบปี
หลังจากการตายของ Augustus ในปี ค.ศ. 14
ระบุว่า Livia คือ ปรมาจารย์จอมวางแผน
ที่ชักใยหุ่นเชิด โหดเหี้ยม และกระหายอำนาจ
ผู้ซึ่งไม่ยอมหยุดยั้งใด ๆ  เพื่อรักษาตำแหน่ง
ลูกชายของเธอก็ขึ้นนั่งบนบัลลังก์โรมัน

“ วิธีที่ Tacitus เขียนบันทึกไว้นั้น
ได้รับอิทธิพลจากวิธีที่สังคมโรมันรับรู้
ในขณะนั้น ภาพลักษณ์ของโรมถูกฝัง
อยู่ภายใต้ความรู้สึกที่ฝังลึกของ
ความไม่มั่นคงของปิตาธิปไตย
เพราะผู้หญิงที่มีอำนาจไม่ได้รับการดูแลที่ดี
แนวโน้มแบบนี้ที่ซึมซับมาจนถึงปัจจุบัน "
Peta Greenfield กล่าวสรุป
.
.

.
พี่น้องหนีแม่เลี้ยงที่ชั่วร้ายในเทพนิยาย
Little Brother and Little Sister
ของ Jacob and Wilhelm Grimm
.
.



การพาเข้าไปในป่า

แม้ว่า Livia อาจเป็นแม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย 
แต่ไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่ทำแบบนี้
ในวัฒนธรรมที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
เรื่องราวการแข่งขันแย่งชิงดียิงเด่น
ของผู้หญิงที่เป็นภัยอันตรายมีพิษมีมากมาย
บ่อยครั้ง แม้ว่าลักษณะเฉพาะจะเปลี่ยนไป
ตามบรรทัดฐานทางสังคมของสถานที่
เช่น ในบางภูมิภาคของแอฟริกาและเอเชีย
แม่เลี้ยงเป็นเมียคนที่สองที่ชั่วร้าย
ที่ทรมานเมียคนแรกที่มีคุณธรรม
แต่ในบางส่วนของยุโรป
แม่เลี้ยงกลายเป็นพี่สาวหรือแม่สามีที่ขี้หึง

เมื่อ Jacob กับ Wilhelm Grimm
ได้รวบรวมนิทานพื้นบ้านและตีพิมพ์
นิทานเยอรมันให้ราบรื่นขึ้น

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
ทั้งคู่ต่างรับรู้เรื่องราวที่อื้อฉาวเล็กน้อย
จากจำนวนเรื่องราวของ แม่ที่ชั่วร้าย
“ ดังนั้น ทั้งคู่จึงเปลี่ยนแปลงเรื่องราว
แม่และแม่สามีไปเป็นแม่เลี้ยงที่ดี
ด้วยความพยายามรักษาภาพลักษณ์
ความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็นแม่คน
อีกเหตุผลหนึ่งที่แม่เลี้ยงมีความโดดเด่น
มากในนิทาน/นิยายพื้นบ้านในยุคนั้น
ก็คือพวกเธอเพียงสะท้อนความจริง

การคลอดลูกเป็นภารกิจที่อันตรายในอดีต
ผู้หญิงหลายคนตายเพราะเหตุเหล่านี้
ตัวเลขในอดีตค่อนข้างน่าตกใจจริง ๆ
ประมาณครึ่งหนึ่งของเด็กทั้งหมด
ต่างเติบโตขึ้นมากับพ่อผู้ให้กำเนิด
และแม่เลี้ยงในช่วงเวลานั้น "
Maria Tatar  กล่าวสรุป
,
เรียบเรียง/ที่มา
 
https://bit.ly/3D58cHE
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่