733 อ่านแปลเป็นไทย(ไม่ฝังซับ)จากตัวแปลอาหรับเป็นอิ้งอีกทีของกลุ่ม 4chan โดยกระผมเอง เชิญที่ช่อง Spoil ขรั่บ
หากใครที่จะนำไปฝังซับโดยใช้การแปลของผมรบกวนให้ credit ชื่อ Banzai_man ด้วยนะครับ
ปล.มังงะสัปดาห์งด
ปล2. ทางผมจะมีการเปิดเพจ SnakeFish Translator(แปลไทยแบบงูๆปลาๆ) ในอนาคต
ด้าน Kingdom กระผมจะแปลออกมารูปแบบเดียวกับที่ทำในกลุ่ม
ส่วนผลงานอื่นๆ จะลองพิจารณาว่าจะเอาเรื่องไหนมาลง
ด้าน Short-Story ของ Kingdom ทั้ง 4 เรื่อง ผมจะทำการแปลเช่นกัน ล่าสุดก็ "จิงกัง" ซึ่งผมได้ทำการแปลอัพโหลดลง nekopost ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรื่อต่อไปอย่าง "อาชา สุรา แด่สามร้อยทหารศึก" ต้องใช้เวลาในการแปลและเกลาคำอยู่พอตัว อีกทั้งยังต้องแปลเกร็ดข้อมูลทางปวศ.ใหญ่ๆ อย่าง Li Ji Unrest "จลาจลหลีจี้" ลงไปด้วย
หลังจากนั้นจะตามด้วย "หลี่มู่" และ "เหมิงอู่และหมี่ฉี" เป็นอันปิดโปรเจ็ค Kingdom Omnibus
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หน้า 1
ชื่อตอน: ปล้นสดม
อันเด็กหนุ่มนามหวนฉี.
จะมีใคร
หรือผู้ใดเล่า จะรู้ถึงต้นกำเนิดของเขา
หน้า 2
หวนฉีได้มาถึงยังสถานที่แห่งนึงและเอ่ยถามขึ้นว่า
: "แค่... เด็กงั้น... แล้วเหตุใดถึง..."
ส่ายย่างเลยเอ่ยขึ้นมาว่า
: "ที่นี่ไม่มีพวกผู้ใหญ่หรอก"
: "พวกนะถูกขาย"
: "เราทุกคนต่างถูกขายไปยังที่ที่พวกเราสุดแสนจะเจ็บปวด"
: "ที่นี่เป็นที่ที่เด็กถูกทิ้งมารวมตัวกันท่ามกลางภูเขาและพวกที่หนีรอดมาจากบางแห่งในที่สุด"
หน้า 3
ส่ายยางนำหวนฉีมายังที่พักของเขา
: "เจ้าใช้โพรงนี่นะ"
: "มันว่างสำหรับคนนึงเมื่อไม่กี่วันก่อน"
น้องเล็กชื่อเฟิง風พูดขึ้นว่า
: "เด็กที่ตายไปสามวันก่อน หลังจากมีผื่นแปลกๆขึ้นไปทั่วตามร่างกายของเขาด้วยล่ะ"
หลิน琳 พูดห้ามเฟิงในความไร้เดียงสาของนาง
: "อย่าพูดอะไรน่ากลัวๆแบบนั้นสิ! เฟิง"
หวนฉี
: "ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่าเคยกล่าวว่าจะอยู่ที่นี้สักหน่อย"
เฟิง
: "อ้าว ไหงงั้นล่ะ?"
สายยางจึงตอบ
: "แต่เจ้าบอกว่าเจ้าไม่มีที่ไปนอ"
: "หากเจ้ามิชอบที่เช่นนี้ เจ้าจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ"
: "พวกเรายินดียิ่งหากเจ้าจะอยู่ด้วย"
เฟิง
: "ช่ายช่าย"
จู๋เอ้อ竹耳
: "หา? ข้าไม่ยักพูดเลยว่ายินดีเลยนิ"
: "ตอนนี้เราก็มีหลายปากท้องที่ต้องดูแลแล้ว"
: "แม้แต่เราเองก็ยังอดอยากเลย"
หลิน
: "หา? เป็นอะไรของเจ้ากันล่ะนั่น จู๋เอ้อ"
: "เจ้าเป็นคนบ่นอยู่ตลอดไม่ใช่หรา ว่าเราขาดพวกผู้ชายอยู่นะ"
จู๋เอ้อ
: "หา? ข้าไม่สักหน่อย..."
หลินก็จี้จุดจู๋เอ้อเข้าไปอีกว่า
: "เจ้าบ่นเองนะ"
เฟิงก็ล้อไป
: "จู๋เอ้อบ่นใหญ่เลยล่ะ"
จู๋เอ้อ
: "ชิ บางทีข้าเคยพูดงั้นมาก่อนก็ได้..."
: "พวกเจ้าไม่เห็นอย่างที่ข้าเห็นหรา?"
: "ระหว่างพวกเรากับเขานะ"
: "แตกต่างอย่างสุดกู่เลย"
ส่ายยาง
: "แต่นั่นก็มิได้เป็นปัญหาอะไรเลยนิ จู๋เอ้อ"
หวนฉี
: "อย่างไรก็ตามแต่ ข้าขอถามบางประการนะ?"
หน้า 4
หวนฉี
: "พวกเจ้าหากินอยู่กันยังไงในเมื่อที่นี่ออกจะรกร้างแถมพวกเจ้ายังเป็นแค่เด็กอีก"
หลิน
: "เอ่อ... ไม่ล่าสัตว์ก็เพาะปลูกนะ"
จู๋เอ้อมือผ่ากระบานหลิน
: "หลิน"
ส่ายยางจึงอธิบายขึ้นว่า
: "ภูเขานี้เต็มไปด้วยพวกโจรป่าหรืออะไรทำนองนั้น"
: "เหตุผลคือมันมีเส้นทางบนภูเขาที่เชื่อมไปยังเมืองต่างๆ"
: "เราเคว้นหาไปทั่วจนมาลงเอยที่นี่"
: "เพราะฉะนั้น..."
หวนฉี
: "งั้นพวกเจ้าก็เป็นส่องโจรเหมือนกันสินะ"
: "แม้พวกเจ้าจะเป็นแค่เด็ก"
ส่ายยาง
: "ตามนั้น"
พวกหวนฉีได้มาดักสุ่มยังผาติดกับเส้นทางบนภูเขา
หวนฉีได้เอ่ยถามขึ้นว่า
: "จะมีคนผ่านเส้นทางเช่นนี้มาจริงๆหรา?"
ส่ายยางจึงตอบกลับไปว่า
: "แน่นอน"
: "แม้หนทางจะขรุขระ ทว่ามันเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดที่จะไปยังเมืองถัดไป"
หน้า 5
หวนฉีหันไปเห็นเด็กคนนึงที่สวมหน้ากาก
: "มันล่อตาล่อใจข้ามาสักพักแล้วนะ แต่ว่า"
: "ไฉนเจ้าจึงงสวมหน้ากากคลุมไว้ตลอดกัน"
: "แล้วก็เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?"
จู๋เอ้อตอบแทนเด็กที่สวมหน้ากากไปว่า
: "ก็เพราะฉ้า 召(ออกเสียงคล้ายแคว้นจ้าว)โดนเผาหน้าของตนเองนะสิ"
: "พ่อแม่ของเฉ้าขายเขาไปเป็นทาสให้กับผู้ครองที่ดินเขตนี้"
: "แต่แท้จริง ขุนนางนั่นเป็นเป็นคนสันดารวิปลาสที่สนุกกัยตนเอง"
: "โดยการเผาและถลกใบหน้าของเฉ้า..."
จู๋เอ้อ
: "เอาเถอะ ไงพวกเราส่วนใหญ่ก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันนะแหละ"
???ตะโกนเรียก
: "ส่ายยาง มีคนกำลังมา"
แต่ก็ต้องบอกให้พวกเขาหยุด
เมื่อพวกสังเกตุเห็นกลุ่มคนที่เดินทางมา
เป็นเกวียนที่ถูกอารักษ์ขาอย่างแน่นหนา
หน้า 6
หวนฉีกระซิบถามไปว่า
: "ไรกัน พวกเจ้าไม่ปล้นพวกมันหรา?"
??
: "เจ้าอย่าโง่ไปหน่อยเลย"
: "พวกนั้นไม่ใช่ทั้งพ่อค้าเร่หรือพวกพเนจร"
ส่ายยาง
: "เกวียนถูกคุ้มกันโดยพวกทหาร"
: "จึงมิใช่คู่มือที่เราจะต่อกรได้"
: "ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นั้นคือ..."
ทันที่ที่จ้าวเห็นใบหน้าผู้ที่นั่งอยู่ในเกวียน
จ้าวได้นึกย้อนกลับไปถึงครั้งที่ชายคนนั้นทรมาณเขาด้วยการเผาใบหน้า
จ้าวรู้สึกเจ็บแผลบนใบหน้ากรีดร้องอย่างโหยหวน
ทุกคนต่างพากันขานชื่อจ้าวด้วยความเป็นห่วง
หวนฉีจึงเอ่ยพลางมองขบวนอารักษ์ขาจากไป
: "อย่าบอกข้านะว่า... คนที่ผ่านไปนั่นคือ..."
ส่ายยาง
: "ใช่ นั่นเป็นขุนนางที่ทำกับจ้าวนั่นแหละ"
หน้า 7
เวลาถัดมา
พวกเขาต่างล้อมเกวียนพ่อค้าได้คนนึง
คนหน้าคล้ายจู๋เอ้อ(คนนี้ทรงผมและหน้าตาคล้ายๆจู๋เอ้อ แต่แผลของจู๋เอ้อจะอยู่ด้านขวา อารมณ์คล้ายๆ เทียนหย่งกับเผ่ยหลาง แต่ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน)
: "ส่งของมีค่าที่เจ้านำมาก็พอ"
: "เราก็ไม่ทำให้เจ้าบาดเจ็บ"
ลูกสาวพ่อค้าซบอกพ่อด้วยความหวาดกลัว
พ่อเด็ก
: "มะ ไม่เป็นไร ฉ่วนชี"
หวนฉี
: "เอาม้าไปด้วยสิ"
: "พวกมันคงจะขายได้ราคางามน่าดู"
พ่อเด็ก
: "ปะ โปรดละเว้นม้าไว้เถอะ ข้าขอร้องล่ะ"
: "เรายังต้องตัดผ่านทางเป็นหลุมเป็นบ่อนี่เพื่อไปหาแม่ข้าที่ป่วยอยู่"
หวนฉี
: "งั้นหรา?"
: "แต่พวกเราเองก็ลำบากเหมือนกันนะ เจ้าก็เห็นนิ"
จู๋เอ้อ
: "หวนฉี"
พ่อเด็ก
: "โปรดเอาสิ่งนี้ไปแทนเถอะ"
: "นี่เป็นของภรรยาข้า..."
: "นี่เป็นของดูต่างหน้าของภรรยาข้า... ที่เป็นแม่ของเด็กคนนี้"
: "ได้โปรดเถอะจะอะไรก็ช่าง แต่ม้านั้น"
ลูกสาวเมื่อเห็นพ่อยื่นสร้อยให้กับพวกหวนฉี
: "ของของท่านแม่"
ส่ายยาง
: "พอแค่นั้นแหละ เราไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้ว"
หวนฉี
: "ไรว่ะเนี่ย"
ส่ายยาง
: "กลับกันเถอะ"
หวนฉี
: "หา?"
แล้วส่ายย่างก็เอ่ยกับสองพ่อลูกว่า
: "ทางข้ามเขานี้มันอันตราย"
: "เจ้าอ้อมเขาเพื่อไปหาแม่เจ้ายังดีกว่านะ"
หน้า 8
หวนฉีและพวกได้กลับมายังหมู่บ้าน
หวนฉีได้มานั่งเกาะกลุ่มกับพวกผู้ชายที่เหลือเขาก็ได้เอ่ยถามขึ้นว่า
: "พวกเจ้าทำกันแบบนี้ตลอดหรา?"ถามถึงวิธีการปล้น)
คนหน้าคล้ายจู๋เอ้อ
: "หือ ใช่ ตามนั้นล่ะ"
: "เราไม่ฆ่าใครทั้งนั้น"
: "และเราจะไม่ปล้นอะไรเพิ่มมากกว่าที่เราต้องการ!"
หวนฉีสงสัย
: "เกินกว่าที่พวกเจ้าต้องการงั้นหรา?"
: "เป็นงั้นแต่ละคนจะไม่ผอมแห้งไปหรา?"
: "ไอ้ที่พวกเจ้าเอามามันไม่มีทางพอหรอก"
จู๋เอ้อ
: "ฮ่ะฮ่าฮ่า ก็อาจใช่อย่างเจ้าว่า"
และหวนฉีก็เอ่ยถามไปอีกว่า
: "แล้วใยสตรีถึงเป็นผู้นำพวกเจ้ากันล่ะ"
คนหน้าคล้ายจู๋เอ้อจึงตอบกลับไป
: "ส่ายยางนางเป็นคนตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมานะ"
: "กลุ่มโจรที่เกื้อหนุนกันแบบเพื่อนนะ"
: "คนโตๆจะคอยดูแลคนตัวเล็ก"
: "เจ้าเห็นเฟิงที่วิ่งเจ้นอยู่ตรงนั้นไหมล่ะ ทว่า..."
: "นางนั้นป่วยเรื้อรังตอนที่พวกเราไปพบเข้า"
: "ได้ละ เอ้า ข้าลับคมมันให้เจ้าแล้วนะ หวนฉี" (เขาลับมีดให้หวนฉี)
หน้า 9
สักพักก็มีเด็กอีกคนนึงวิ่งมาอย่างร้อนรุ่ม
??
: "เกิดเรื่องแล้ว"
: "ส่ายยาง"
: "ทุกคน"
: "หลุยต้าย呂代 กับคนอื่นๆ"
: "พวกหลุยต้ายกับคนอื่นๆที่ยังหมู่บ้านเพื่อไปซื้อของ เขา..."
จู๋เอ๋อ
: "ไรนะ?"
พวกหวนฉีได้ไปยังที่เกิดเหตุ
เห็นสถาพร่างคนนึงถูกฟันหัวเกือบขาดนอนพิงก้อนตาย
ในขณะที่อีกคนนอนสลบจากพิษบาดแผล
นั้นคือหลุยต้าย
??
: "ลุกขึ้น ใครมันทำอย่างงี้กับพวกเจ้ากัน"
หลุยต้ายจึงเอ่ยขึ้นว่า
: "......ตระกูลหลางฟู่ 狼甫"
???
: "หลางฟู่..."
หลุยต้าย
: "ข้าขอโทษ"
: "หลังจากที่เราตรากตำเอาของที่ได้จากสองพ่อลูกนั้นไปแลกเป็นเนื้อแห้งกับเมล็ดพืช"
: "แล้วพวกมันก็ทุกอย่างก็เอาทุกอย่างของพวกเราไป ทุกๆอย่างเลย... หึก"
??
: "หลุยต้าย"
หลุยต้าย
: "พวกนั้นมันต้องตามเรามาแน่นอน"
ส่ายยางตระหนักได้ทันทีว่าหมู่บ้านของพวกตนตกอยู่ในอันตราย
หน้า 10
เมื่อพวกหวนฉีเร่งรุดกลับมายังหมู่บ้านก็พบเจอกับโศกนาฏกรรม
กระท่อมบางหลังถูกเผา พวกเด็กผู้ชายถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ในขณะที่เด็กผู้หญิงถูกจับเป็นตัวประกัน
ส่ายยางเห็นเช่นนั้นจึงตะโกนออกไปว่า
: "นี่พวกเจ้าทำอะไรลงไปกัน"
หน้า 11
พวกหลางฟู่หันมาเห็น
คนที่ดูท่าทางจะเป็นหัวกลุ่มก็เอ่ยขึ้นว่า
: "โอ้ ส่ายยาง"
: "เจ้าอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันละนั่น"
: "เพราะเจ้าไม่อยู่"
: "ข้าก็เลยถามคนที่เหลือนี่แทนเจ้านะสิ"
ส่ายยาง
: "พวกเจ้าคิดจะทำบ้าอะไรกัน"
: "เราก็จ่ายส่วยที่เราตกลงกันไว้ให้กับตระกูลหลางฟู่แล้วนิ"
: "แล้วใยจึงมาลงโทษพวกเราเช่นนี้"
หัวโจกหลางฟู่
: "ม่าย เมื่อวานแกไม่ได้ล่านะสิ"
: "แทนที่พวกแก จะจี้พ่อลูกนั้น กลับไม่ทำใช่ไหมเล่า?"
: "แต่พวกแกดันไม่เอาม้าสักตัว แล้วยังไม่รับสร้อยเส้นนี้ที่มันตั้งใจจะยกให้อีก"ฃ
(สรุปสองพ่อลูกไม่รอด คนพ่อน่าจะถูกฆ่า ส่วนคนลูกดีสุดก็ถูกขายแต่ถือว่ายังเลวร้ายอยู่ดี)
: "นั่นหมายความความว่าพวกแก..."
: "...พวกแกหุบเงินลับหลังหลังพวกข้าและยังซ่อนมันอีก"
: "ข้าก็เลยสงสัยว่าพวกแกสะสมของล้ำค่าตามทางพวกนั้นได้มากขนาดไหน"
: "เจ้ามาตรวจดูเอาสิ"
ส่ายยางจึงแย้งกลับไปว่า
: "โกหก"
หน้า 12
หัวโจกหลางฟู่
: "อ้าา ก็อย่างที่เห็นนนั่นล่ะ เราค้นจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นพบอะไรเลย"
ส่ายยางและคนอื่นๆแค้นใจ
จากนั้นนั้นจึงได้เอ่ยกับพวกหลางฟู่ขึ้นว่า
: "ตราบใดที่ท่านบรรลุจุดมุ่งหมายที่มา"
: "แล้วพวกเจ้าจะได้อะไรกลับไปกันเล่าเมื่อพวกเจ้าอยู่นี่แล่ว"
หัวโจกหลางฟู่
: "อืมม ข้าว่า..."
: "เราคงต้องเอาเมล็ดข้าวกับเนื้อแห้งทั้งหมดที่เรายึดมาจากพวกแกล่ะกัน"
สมุน
: "เคี้ยกฮ่าฮ่าฮ่า"
: "แล้วพวกข้าจะกลับมาอีกล่ะ"
อี้ยาง
: "ไม่นะ เมล็ดพวกนั้นพวกเราตั้งใจไว้ว่าจะเอาไว้ปลูกหน้าฤดูใบไม้ผลินะ...!"
: "หากไม่มีมันพวกเราได้..."
??
: "พอเถอะ อี้ยาง"
ข้อความยาวเกินไป ต่อในช่อง คห.1
Kingdom 733 แปลเป็นไทยแบบงูๆปลาๆ
หากใครที่จะนำไปฝังซับโดยใช้การแปลของผมรบกวนให้ credit ชื่อ Banzai_man ด้วยนะครับ
ปล.มังงะสัปดาห์งด
ปล2. ทางผมจะมีการเปิดเพจ SnakeFish Translator(แปลไทยแบบงูๆปลาๆ) ในอนาคต
ด้าน Kingdom กระผมจะแปลออกมารูปแบบเดียวกับที่ทำในกลุ่ม
ส่วนผลงานอื่นๆ จะลองพิจารณาว่าจะเอาเรื่องไหนมาลง
ด้าน Short-Story ของ Kingdom ทั้ง 4 เรื่อง ผมจะทำการแปลเช่นกัน ล่าสุดก็ "จิงกัง" ซึ่งผมได้ทำการแปลอัพโหลดลง nekopost ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรื่อต่อไปอย่าง "อาชา สุรา แด่สามร้อยทหารศึก" ต้องใช้เวลาในการแปลและเกลาคำอยู่พอตัว อีกทั้งยังต้องแปลเกร็ดข้อมูลทางปวศ.ใหญ่ๆ อย่าง Li Ji Unrest "จลาจลหลีจี้" ลงไปด้วย
หลังจากนั้นจะตามด้วย "หลี่มู่" และ "เหมิงอู่และหมี่ฉี" เป็นอันปิดโปรเจ็ค Kingdom Omnibus
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้