‘จตุพร’ เมินคำขู่ ‘ชัยวุฒิ’ ดักคอหากไม่มีเลือกตั้งเพราะ 3ป.เล่นแร่แปรธาตุ รธน.!
https://www.dailynews.co.th/news/1507536/
คณะหลอมรวมปชช.ยันนัดระดมพล 30 ก.ย.โต้กลับ 'ชัยวุฒิ' หากไม่มีเลือกตั้งเป็นเพราะ 3ป.ไม่ยอมให้เลือกตั้ง สร้างละครลวงโลกเล่นแร่แปรธาตุรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว นาย
จตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวแนวทางการเคลื่อนไหว สรุปใจความคือคณะหลอมรวมประชาชน ยืนยันนัดจัดกิจกรรม วันที่ 30 ก.ย. เวลา 17.00 น. ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งตรงกับวันที่ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ส่วนกรณีที่นาย
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาเตือนหากไม่พอใจรัฐบาลอยากให้ใจเย็นๆ เพราะอีกไม่กี่เดือนจะถึงช่วงของการเลือกตั้งซึ่งหากมีการเคลื่อนไหวมาก ระวังไม่ได้เลือกตั้งนั้น นาย
จตุพร กล่าวว่า นาย
ชัยวุฒิต้องรู้จักพวกตนว่าไม่ใช่คนที่ใครจะมาขู่อะไรง่ายๆ เพราะในสายตาของตน นาย
ชัยวุฒิกระจอกมาก และหากไม่มีการเลือกตั้ง สาเหตุเกิดจากการออกแบบของ 3ป.
เนื่องจากเวลานี้มีการสร้างละครลวงโลก โดย กกต.ประกาศกรอบเวลา 180 วัน ว่าหาก พล.อ.
ประยุทธ์ อยู่ครบวาระจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 7 ก.ค.2566 แต่คนไทยลืมว่าขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีขอให้ตีความพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่าขนาดมีกติกาครบ แต่การเลือกตั้งก็ไม่เกิดหลายครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะกลับไปใช้บัตรใบเดียวไม่ได้เพราะแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตรสองใบแต่พอจะเลือกแบบบัตรสองใบจะขัดกับเรื่อง ส.ส.พึงมีในรัฐธรรมนูญ ส่วนการจะใช้สูตรหาร 100 หรือหาร 500 ถูกวางไว้ให้ขัดรัฐธรรมนูญทั้งคู่ และอายุของสภาเหลืออยู่สมัยเดียว ดังนั้นการที่นาย
ชัยวุฒิ ออกมาพูดว่าไม่มีการเลือกตั้งนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการชุมนุมของประชาชน แต่ถ้าไม่ได้เลือกตั้งเพราะ 3ป.ไม่ยอมให้เลือกตั้ง ด้วยการเล่นแร่แปรธาตุในเรื่องรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก
“นายชัยวุฒิไม่ได้มีความหมายใดๆ กับพวกผม การชุมนุมของประชาชนที่ขู่ว่าประชาชนออกมาชุมนุมแล้วจะไม่มีการเลือกตั้ง ซึ่งผมไม่เชื่อ เพราะไม่ชุมนุมก็ไม่มีการเลือกตั้ง แต่หน้าที่ของเราคือการนับหนึ่งประเทศไทย วันนี้อย่ามาสร้างสถานการณ์อะไร อ้างเรื่องการประชุมเอเปค คณะหลอมรวมประชาชนยืนยันชัดเจนไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางการประชุมเอเปค เพียงแต่เราไม่เอา 3ป. ไม่เอารัฐประหาร สถาปนาอำนาจอธิปไตยของปวงชน” นาย
จตุพร กล่าว
นาย
นิติธร ล้ำเหลือ กล่าวว่า ถ้าการเลือกตั้งไม่เกิดขึ้นในวันนี้ นั่นคือนาย
ชัยวุฒิ ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลเป็นผู้พูดออกมาเองว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่คณะหลอมรวมประชาชน ไม่ใช่ประชาชน เป็นเรื่องของรัฐบาลเรื่องของนักการเมืองทั้งสิ้น ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ประชาชนโกรธแค้นมาตลอด 9 ปี วันที่ 30 ก.ย.พี่น้องประชาชนต้องออกมาระบายความโกรธแค้นทั้งหมด แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งประเทศไทย.
โพลชี้ คนเจน Z 85.8 % ไม่เอา ส.ว.แต่งตั้ง เหตุ 'เป็นอุปสรรคพัฒนาประเทศ'
https://www.matichon.co.th/politics/news_3581570
‘อาจารย์ธำรงศักดิ์โพล’ ชี้ คน Gen Z ให้ยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง
เมื่อวันที่ 25 กันยายน รองศาสตราจารย์ ดร.
ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต เก็บข้อมูลแบบสอบถามจากคน Gen Z (ช่วงอายุ 18-25 ปี ทั้งประเทศมี 6.86 ล้านคน) ที่ศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯและทุกภาคของประเทศ จำนวน 707 คน
ข้อคำถามว่า “
ท่านคิดว่า ต้องมี หรือ ต้องยกเลิก สมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง”
ผลการวิจัย สรุปดังนี้
1.
คน Gen Z ส่วนใหญ่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง จำนวน 602 คน คิดเป็น 85.5% เห็นว่า ต้องมี ส.ว. แต่งตั้ง 36 คน คิดเป็น 5.1% ไม่แสดงความเห็น 66 คน คิดเป็น 9.4%
2.
จากการเก็บข้อมูลเชิงลึก คน Gen Z ที่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง นั้นเพราะ ส.ว. แต่งตั้งไม่ได้เป็นผู้แทนของประชาชน ผู้แทนของประชาชนที่แท้จริงต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน ทั้งพฤติกรรม ส.ว. แต่งตั้งในปัจจุบันก็ทำหน้าที่พิทักษ์รัฐบาลทหารเป็นสำคัญ เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและต่อการพัฒนาประเทศ ทำให้ ส.ส. และพรรคการเมืองไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการนี้ให้เป็นประชาธิปไตยที่มากขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับทัศนคติของคน Gen Z ที่ส่วนใหญ่ก็เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับเผด็จการ
3.
ทัศนคติของคน Gen Z ที่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง นั้นสอดคล้องกับทัศนคติที่เห็นว่าผู้นำทหาร คสช. ทั้งพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอ
กประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ใช่ผู้นำประเทศที่คน Gen Z พึงปรารถนา และไม่ได้เป็นผู้นำแบบประชาธิปไตย
4.
ทัศนคติของคน Gen Z ที่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง นั้นสอดคล้องกับทัศนคติของคนกรุงเทพฯ ทุกช่วงวัยที่เกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร คสช. 2557
ทั้งนี้
งานวิจัยทัศนคติของคน Gen Z ต่อ 5 ประเด็นคำถามนี้ เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 7-16 กันยายน 2565 โดยเก็บจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ภาคกลางที่ปทุมธานี นครปฐม ชลบุรี อยุธยา ภาคเหนือที่พิษณุโลก เชียงใหม่ พะเยา เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สกลนคร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี รวม 16 จังหวัด
เพศของผู้ตอบแบบสอบถาม : หญิง 422 คน (59.7%) ชาย 200 คน (28.3%) เพศหลากหลาย 85 คน (12.0%)
โรงเรียนที่ท่านจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากเขตภูมิภาคใด : กรุงเทพฯ 173 คน (24.5%) ภาคกลาง 272 คน (38.5%) ภาคเหนือ 62 คน (8.7%) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 75 คน (10.6%) ภาคใต้ 125 คน (17.7%)
มีผู้ไม่ตอบคำถามในข้อนี้รวม 3 คน ผู้ตอบคำถามข้อนี้ 704 คน
ชาวนาระทม กู้เงินปลูกข้าว ถูกน้ำท่วม3รอบ ข้าวหอมมะลิเสียหาย หมดตัว-หนี้สินล้น
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7283859
นครราชสีมา ชาวนาพิมาย ระทมกู้เงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ มาลงทุนทำนา ถูกน้ำท่วม 3 รอบ หมดตัว มีหนี้สินเพิ่มขึ้น ไร้เงินเยียวยาจากรัฐ
25 ก.ย. 65 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอพิมาย ทำให้ปริมาณน้ำมูลในอำเภอพิมาย มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับทางเขื่อนพิมายได้มีการเร่งระบายน้ำ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำมูลดังกล่าวได้เอ่อไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ท้ายเขื่อนพิมายหลายร้อยไร่ ทำให้ชาวนาในพื้นที่อำเภอพิมายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นาย
วิโรจน์ ประคองค้า อายุ 63 ปี เกษตรกรที่มีพื้นที่ทำนาอยู่ด้านท้ายเขื่อนพิมาย กล่าวว่า ตนทำนาปลูกข้าวหอมมะลิ จำนวนกว่า 100 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นรอบที่ 3 แล้ว โดยในครั้งนี้ท่วมสูงกว่า 2 เมตร ทำให้นาข้าวของตนได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มีกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอพิมายเร่งจัดหางบประมาณช่วยเหลือชาวนาอย่างเร่งด่วน ซึ่งตนก็ได้นำเอกสารความเสียหายส่งไปให้ทุกหน่วยงานแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งเงินที่ตนใช้ทำนารอบล่าสุดก่อนโดนน้ำท่วม ตนก็ได้ไปกู้ยืมเงิน ธกส.มาลงทุนทำนา ทำให้ต้องเป็นหนีเป็นสินเพิ่มขึ้นอีก
JJNY : ‘จตุพร’เมินคำขู่‘ชัยวุฒิ’│เจนZ 85.8% ไม่เอาส.ว.แต่งตั้ง│ชาวนาระทม กู้เงินปลูกข้าว ถูกน้ำท่วม│อุตุฯเตือนรับมือโนรู
https://www.dailynews.co.th/news/1507536/
คณะหลอมรวมปชช.ยันนัดระดมพล 30 ก.ย.โต้กลับ 'ชัยวุฒิ' หากไม่มีเลือกตั้งเป็นเพราะ 3ป.ไม่ยอมให้เลือกตั้ง สร้างละครลวงโลกเล่นแร่แปรธาตุรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวแนวทางการเคลื่อนไหว สรุปใจความคือคณะหลอมรวมประชาชน ยืนยันนัดจัดกิจกรรม วันที่ 30 ก.ย. เวลา 17.00 น. ที่แยกราชประสงค์ ซึ่งตรงกับวันที่ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ส่วนกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาเตือนหากไม่พอใจรัฐบาลอยากให้ใจเย็นๆ เพราะอีกไม่กี่เดือนจะถึงช่วงของการเลือกตั้งซึ่งหากมีการเคลื่อนไหวมาก ระวังไม่ได้เลือกตั้งนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายชัยวุฒิต้องรู้จักพวกตนว่าไม่ใช่คนที่ใครจะมาขู่อะไรง่ายๆ เพราะในสายตาของตน นายชัยวุฒิกระจอกมาก และหากไม่มีการเลือกตั้ง สาเหตุเกิดจากการออกแบบของ 3ป.
เนื่องจากเวลานี้มีการสร้างละครลวงโลก โดย กกต.ประกาศกรอบเวลา 180 วัน ว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ครบวาระจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 7 ก.ค.2566 แต่คนไทยลืมว่าขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกรณีขอให้ตีความพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่าขนาดมีกติกาครบ แต่การเลือกตั้งก็ไม่เกิดหลายครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะกลับไปใช้บัตรใบเดียวไม่ได้เพราะแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตรสองใบแต่พอจะเลือกแบบบัตรสองใบจะขัดกับเรื่อง ส.ส.พึงมีในรัฐธรรมนูญ ส่วนการจะใช้สูตรหาร 100 หรือหาร 500 ถูกวางไว้ให้ขัดรัฐธรรมนูญทั้งคู่ และอายุของสภาเหลืออยู่สมัยเดียว ดังนั้นการที่นายชัยวุฒิ ออกมาพูดว่าไม่มีการเลือกตั้งนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการชุมนุมของประชาชน แต่ถ้าไม่ได้เลือกตั้งเพราะ 3ป.ไม่ยอมให้เลือกตั้ง ด้วยการเล่นแร่แปรธาตุในเรื่องรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก
“นายชัยวุฒิไม่ได้มีความหมายใดๆ กับพวกผม การชุมนุมของประชาชนที่ขู่ว่าประชาชนออกมาชุมนุมแล้วจะไม่มีการเลือกตั้ง ซึ่งผมไม่เชื่อ เพราะไม่ชุมนุมก็ไม่มีการเลือกตั้ง แต่หน้าที่ของเราคือการนับหนึ่งประเทศไทย วันนี้อย่ามาสร้างสถานการณ์อะไร อ้างเรื่องการประชุมเอเปค คณะหลอมรวมประชาชนยืนยันชัดเจนไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางการประชุมเอเปค เพียงแต่เราไม่เอา 3ป. ไม่เอารัฐประหาร สถาปนาอำนาจอธิปไตยของปวงชน” นายจตุพร กล่าว
นายนิติธร ล้ำเหลือ กล่าวว่า ถ้าการเลือกตั้งไม่เกิดขึ้นในวันนี้ นั่นคือนายชัยวุฒิ ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลเป็นผู้พูดออกมาเองว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่คณะหลอมรวมประชาชน ไม่ใช่ประชาชน เป็นเรื่องของรัฐบาลเรื่องของนักการเมืองทั้งสิ้น ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ประชาชนโกรธแค้นมาตลอด 9 ปี วันที่ 30 ก.ย.พี่น้องประชาชนต้องออกมาระบายความโกรธแค้นทั้งหมด แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งประเทศไทย.
โพลชี้ คนเจน Z 85.8 % ไม่เอา ส.ว.แต่งตั้ง เหตุ 'เป็นอุปสรรคพัฒนาประเทศ'
https://www.matichon.co.th/politics/news_3581570
‘อาจารย์ธำรงศักดิ์โพล’ ชี้ คน Gen Z ให้ยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง
เมื่อวันที่ 25 กันยายน รองศาสตราจารย์ ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต เก็บข้อมูลแบบสอบถามจากคน Gen Z (ช่วงอายุ 18-25 ปี ทั้งประเทศมี 6.86 ล้านคน) ที่ศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯและทุกภาคของประเทศ จำนวน 707 คน
ข้อคำถามว่า “ท่านคิดว่า ต้องมี หรือ ต้องยกเลิก สมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง”
ผลการวิจัย สรุปดังนี้
1. คน Gen Z ส่วนใหญ่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง จำนวน 602 คน คิดเป็น 85.5% เห็นว่า ต้องมี ส.ว. แต่งตั้ง 36 คน คิดเป็น 5.1% ไม่แสดงความเห็น 66 คน คิดเป็น 9.4%
2. จากการเก็บข้อมูลเชิงลึก คน Gen Z ที่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง นั้นเพราะ ส.ว. แต่งตั้งไม่ได้เป็นผู้แทนของประชาชน ผู้แทนของประชาชนที่แท้จริงต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน ทั้งพฤติกรรม ส.ว. แต่งตั้งในปัจจุบันก็ทำหน้าที่พิทักษ์รัฐบาลทหารเป็นสำคัญ เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและต่อการพัฒนาประเทศ ทำให้ ส.ส. และพรรคการเมืองไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการนี้ให้เป็นประชาธิปไตยที่มากขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับทัศนคติของคน Gen Z ที่ส่วนใหญ่ก็เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับเผด็จการ
3. ทัศนคติของคน Gen Z ที่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง นั้นสอดคล้องกับทัศนคติที่เห็นว่าผู้นำทหาร คสช. ทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ใช่ผู้นำประเทศที่คน Gen Z พึงปรารถนา และไม่ได้เป็นผู้นำแบบประชาธิปไตย
4. ทัศนคติของคน Gen Z ที่เห็นว่า ต้องยกเลิก ส.ว. แต่งตั้ง นั้นสอดคล้องกับทัศนคติของคนกรุงเทพฯ ทุกช่วงวัยที่เกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร คสช. 2557
ทั้งนี้
งานวิจัยทัศนคติของคน Gen Z ต่อ 5 ประเด็นคำถามนี้ เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 7-16 กันยายน 2565 โดยเก็บจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ภาคกลางที่ปทุมธานี นครปฐม ชลบุรี อยุธยา ภาคเหนือที่พิษณุโลก เชียงใหม่ พะเยา เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สกลนคร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี รวม 16 จังหวัด
เพศของผู้ตอบแบบสอบถาม : หญิง 422 คน (59.7%) ชาย 200 คน (28.3%) เพศหลากหลาย 85 คน (12.0%)
โรงเรียนที่ท่านจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากเขตภูมิภาคใด : กรุงเทพฯ 173 คน (24.5%) ภาคกลาง 272 คน (38.5%) ภาคเหนือ 62 คน (8.7%) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 75 คน (10.6%) ภาคใต้ 125 คน (17.7%)
มีผู้ไม่ตอบคำถามในข้อนี้รวม 3 คน ผู้ตอบคำถามข้อนี้ 704 คน
ชาวนาระทม กู้เงินปลูกข้าว ถูกน้ำท่วม3รอบ ข้าวหอมมะลิเสียหาย หมดตัว-หนี้สินล้น
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7283859
นครราชสีมา ชาวนาพิมาย ระทมกู้เงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ มาลงทุนทำนา ถูกน้ำท่วม 3 รอบ หมดตัว มีหนี้สินเพิ่มขึ้น ไร้เงินเยียวยาจากรัฐ
25 ก.ย. 65 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอพิมาย ทำให้ปริมาณน้ำมูลในอำเภอพิมาย มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับทางเขื่อนพิมายได้มีการเร่งระบายน้ำ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำมูลดังกล่าวได้เอ่อไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ท้ายเขื่อนพิมายหลายร้อยไร่ ทำให้ชาวนาในพื้นที่อำเภอพิมายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นายวิโรจน์ ประคองค้า อายุ 63 ปี เกษตรกรที่มีพื้นที่ทำนาอยู่ด้านท้ายเขื่อนพิมาย กล่าวว่า ตนทำนาปลูกข้าวหอมมะลิ จำนวนกว่า 100 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นรอบที่ 3 แล้ว โดยในครั้งนี้ท่วมสูงกว่า 2 เมตร ทำให้นาข้าวของตนได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มีกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอพิมายเร่งจัดหางบประมาณช่วยเหลือชาวนาอย่างเร่งด่วน ซึ่งตนก็ได้นำเอกสารความเสียหายส่งไปให้ทุกหน่วยงานแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งเงินที่ตนใช้ทำนารอบล่าสุดก่อนโดนน้ำท่วม ตนก็ได้ไปกู้ยืมเงิน ธกส.มาลงทุนทำนา ทำให้ต้องเป็นหนีเป็นสินเพิ่มขึ้นอีก