JJNY : 5in1 ซัดตู่ คือยาหมดอายุ│สุทินชี้พรรคร่วมขาดเอกภาพ│โรมชี้ปชป.เสียท่าภท.│โคราชระทม│ไบเดนวอนปูตินอย่าใช้นิวเคลียร์

อดีตขุนคลัง-นักวิชาการซัด ‘บิ๊กตู่’ คือยาหมดอายุ ผลตัดสินทางไหนก็ก่อปัญหา
https://www.dailynews.co.th/news/1483672/
 
อดีตรมว.คลัง ปลุกประชาชนนับ 1 ประเทศไทย 30 ก.ย.นี้ ซัด “ประยุทธ์” 8 ปี ทำงานยิ่งกว่า “คอหอย งาช้างเลี่ยมทอง” ออกนโยบายเอื้อนายทุน ด้านนักวิชาการจวกเป็นยาหมดอายุ ไม่เป็นสมการทางการเมืองหลังศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ชี้ผลตัดสินทางไหนก็ก่อปัญหา
 
 
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ก.ย. ณ ห้องประชุมด้านหลังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว คณะหลอมรวมประชาชนโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์  นายนิติธร ล้ำเหลือ และคณะ จัดเสวนา “นับหนึ่งประเทศไทย ด้วยอธิปไตยของปวงชน หลัง 30 กันยายน”  โดยนายเจษฎ์ โทณะวณิก  ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย กล่าวตอนหนึ่งว่าตนไม่สามารถเอาเรื่องที่พูดคุยในห้องประชุมร่างรัฐธรรมนูญออกมาพูดได้ เพราะดี ไม่ดีอย่างไรก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งนี้วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีนั้น มีการกำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญปี 57 ไว้แต่ตีความว่า 8 ปีแล้ว เว้นวรรคแล้วกลับมาเป็นอีกได้ ต่อมารัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ก็หยิบจากตรงนั้นมาใส่ และปรับว่าจะเป็นรวมกัน 8 ปีไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 30 ก.ย.นี้ ไม่ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบใดต้องมีคนไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ต้องมาดูต่อว่าสุดท้ายแล้วอำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของใคร เป็นของประชาชนหรือไม่  
 
หากศาลนับตั้งแต่ปี 57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขาดจากการเป็นนายกฯ แต่ปัญหาอธิปไตยของปวงชนก็ไม่จบ และต้องไปเลือกนายกฯ ใหม่จากบัญชีที่มีที่พอจะเลือกกันได้คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ แต่จะมีการถกเถียงกรณีนายชัชชาติออกไปเป็นผู้ว่ากทม.แล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ก็ย้ายพรรคจะทำได้หรือไม่ อย่างไร แล้วถ้าให้สภาเลือกคนนอกก็จะเป็นพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้จะออกตัวว่า ไม่ได้เป็นคนทำรัฐประหาร แต่อย่าลืมว่าอยู่ใน คสช.ด้วยเช่นกัน ถ้าศาลฯนับปี 60 จะมีปัญหาอำนาจอธิปไตยก่อนหน้านั้นเป็นของใคร ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกฯ รักษาการสามารถยุบสภาได้ ตั้งรัฐมนตรีได้ และมีปัญหาเชื่อมโยงการเลือกตั้ง  สุดท้ายถ้าศาลฯนับที่ปี 62 แปลว่าจะนับเมื่อมีการเลือกตั้ง จะมีคำถามว่าแล้วการเป็นนายกฯก่อนหน้านั้นมาได้อย่างไร ทำไมถึงไม่นับ อีกทั้งหลังจากนี้ก็ยังลงสมัครได้ ก็จะกลับมาอีก   
 
“ที่สุดการเลือกตั้งของท่านจะนำมาซึ่งอะไรในเมื่อยังมีสิ่งเหล่านี้ทำอยู่ ท่านก็อาจต้องไปคิดว่าท้ายที่สุดแล้วปัญหาอยู่ที่ไหนแล้วจะแก้ปัญหานี้อย่างไร แต่โดยรวมคงต้องแก้กันด้วยสันติ ส่วนตัวไม่ได้มองว่าการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนเป็นสิ่งที่ไม่ควร แต่ต้องระวังเพราะทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยเฉพาะหากเกิดความรุนแรง จะมีคนได้รับผลลัพธ์ สุดท้ายกลายเป็นเอาคนกลุ่มหนึ่งออกไปได้ แล้วได้คนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามา เหมือนพลวัตปี 19 นำมาสู่เหตุการณ์ปี 35 เหตุการณ์ปี 35 ก็นำมาสู่ปี 49 สิ่งที่เกิดขึ้นปี 49 นำมาซึ่งปี 57 นั่นเท่ากับว่าทุกครั้งที่มีการชุมนุมและเกิดความรุนแรง จะมีคนคอยตีกินอยู่ ดังนั้นทำอย่างไรให้พลังยังคงอยู่ อยู่ในมือประชาชนแท้จริง อย่าให้มีการตีกินอีกรอบ” นายเจษฎ์  กล่าว
 
ทางด้าน นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต  ผอ.หลักสูตรปริญญาเอกสาขาการเมือง และยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า  วันนี้อำนาจอธิปไตยของปวงชนกักขังไว้ใจกรงตลอด  ดังนั้นเราต้องให้คนคุมอำนาจเจ้าของกรง หลุดไปจากอำนาจ คือ พล.อ.ประยุทธ์  แต่อีก “2 ป.” ก็ยังอยู่ ใช้กลไก เหล่านี้เป็นเครื่องมือกัก ขังอำนาจ อธิปไตยเพราะฉะนั้นทางเดียวคือร่างรัฐธรรมนูญ โดยประชาชน  แต่เขาก็มีกลไก ขัดขวางคือ ส.ว.  แต่ที่น่าเจ็บใจคือพวกคนที่เราเลือกเข้าไป พรรคการเมืองบางพรรค ดันไปสมคบ ส.ว.กักขังอำนาจอธิปไตยปวงชนเอาไว้   ช่วงนี้ทำไมประชาชนไม่ออกมาขับไล่ ทั้งๆที่คนก็ไม่ได้เอาพล.อ.ประยุทธ์แล้ว โดยผลสำรวจนิด้าพบว่า คนที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์มี 11% ไม่เอากว่า 90% แต่ทำไมพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ได้ อาจเป็นไปได้ว่า กว่าสิบปีคนชั้นกลางไม่อยากออกมาขับไล่ เพราะออกมาก็ได้คนแบบเดิมๆ เข้ามา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร   ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย จึงไม่อยากออกมา
 
“หลังจากนี้ไปพรรคร่วมรัฐบาลการทำงานคงคาดหวังไม่ได้ เพราะรอเวลาที่ยุบสภา แล้วจะเห็นจากปัญหาพรรคภูมิใจไทย เรื่องกัญชา  และวันนี้ถือว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในสมการทางการเมืองแล้ว นับจากวันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่ วันนี้สภาพเหมือนยาหมดอายุ” นายพิชาย กล่าว
 
ขณะที่ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล  อดีตรมว.คลัง  กล่าวว่า ตนมองว่าผลวินิจฉัย 8 ปี นายกรัฐมนตรีจะต้องยึดเอาความสงบทางการเมืองและทางออกประเทศเป็นหลัก  โดยวันที่ 30 ก.ย.นี้ เราต้องนับ 1 ประเทศไทย เพราะ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ มีปัญหาหลายอย่างมากมาย 5 เรื่องใหญ่ๆดังนี้  
 
1. เป็น 8 ปีที่เลี้ยงความขัดแย้งในสังคมจากอแนวราบ มาเป็นแนวนิ่ง ซึ่งลึกลงเรื่อยๆ  
 
2. เอาคนทำงานเน้น ความน่าไว้วางใจ ซื่อสัตย์ และพรรคพวกของตัวเอง แต่ไม่ได้เน้นความสามารถ  ไม่เปิดใจฟังความขัดแย้ง เหมือนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ถ้าไม่นับ 1 ประเทศหมดหวัง  
 
3. เป็น 8 ปีที่ปิดประตูไม่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เสนอนโยบาย หรือสะท้อนปัญหา ใครที่จะเข้าไปพบท่านกลายเป็นพวกทีปัญหาหมด เพราะท่านอยู่ใน “คอหอย งาช้างเลี่ยมทอง” ที่ลอยสูงอยู่ในอากาศ 
 
4. ท่านมีลีลาศ แสดงอาการรำ เสมือนว่าจะปฏิรูป แต่ผ่านไป 8 ปี ไม่เห็นจะเกิดสักรายการ 
 
5. เรื่องการทำนโยบาย มีการชั่งน้ำหนักระหว่างประชาชนกับนายทุน  ซึ่งให้น้ำหนักนายทุนมากไป ดังนั้นถึงเวลาต้องรื้อนโยบาย คืนกำไรนายทุนมาให้ประชาชนและต้องทำนโยบายเอาประชาชนมาเป็นศูนย์กลาง



สุทินเชื่อ ยุบสภาหลังปีใหม่ ชี้พรรคร่วม ขาดเอกภาพ เล่นกันเองแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7272070
 
สุทินเชื่อ ยุบสภาหลังปีใหม่ ฟันธงบิ๊กตู่ บิ๊กป้อม เสียเปรียบสู้ใครไม่ได้ ส่วนพรรคร่วม เปราะบาง ขาดเอกภาพ เล่นกันเองแล้ว ไม่ให้เกียรติกัน
  
วันที่ 18 ก.ย.2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โอกาสยุบสภา คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ เชื่อว่าเร็วสุดคือช่วงหลังปีใหม่ 2566  ไปแล้ว ที่สำคัญงบประมาณปี 2566 เพิ่งจะผ่านความเห็นชอบไป เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องหาประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการสำคัญๆ ก่อน ไม่ยอมทิ้งลาภก้อนโตง่ายๆ
 
โดยขณะนี้สภาพของพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงปลายรัฐบาลเริ่มเปราะบางและขาดความเป็นเอกภาพอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของนโยบายที่จะสร้างความนิยมของแต่ละพรรค เช่น นโยบายกัญชา หรือเรื่องกองทุน กยศ. เป็นต้น ที่เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้นของพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีอีกหลายนโยบายที่จะเป็นปัญหาขัดแย้งกันอีก มีแนวโน้มบานปลายสูงมาก
  
นอกจากนี้ต่างฝ่ายต่างไม่ให้เกียรติกันโดยเริ่มเจาะพื้นที่กันเอง หวังช่วงชิงและสร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นโอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลจะกลับมาเป็นเอกภาพอีกครั้งคงยาก ส่วนจะไปถึงขั้นยุบสภาเลยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงความพร้อมและความได้เปรียบทั้งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
 
ไม่ว่าจะยุบสภาฯ ตอนไหน ผมเชื่อว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรต่างก็เสียเปรียบ เพราะทั้งคู่ไม่มีคะแนนนิยมเลย สู้พรรคเพื่อไทยหรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็สู้ไม่ได้
 


"โรม" ชี้ ปชป.เสียท่า "กัญชาเสรี" ภูมิใจไทย ฟุ้ง เลือกตั้งอาจเสร็จ ก้าวไกล
https://www.thairath.co.th/news/politic/2503611

"โรม" ส.ส.ก้าวไกล ฉายภาพ ประชาธิปัตย์ เอาคืน ภูมิใจไทย เจาะไข่แดงอันดามัน ชี้ ปชป.เสียท่า "กัญชาเสรี" เข้าทางภูมิใจไทย เชื่อ ปชป.ได้ภาคใต้ไม่เท่าเดิม ฟุ้ง อาจเสร็จภูมิใจไทย-ก้าวไกล
 
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 65 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลแย่ลงเรื่อยๆ  ะมียุบสภาฯ หรือไม่มีก็ตาม แต่การเลือกตั้งใกล้เข้ามาจึงเป็นแรงกดดันให้ทุกพรรคต้องเร่งทำคะแนน แต่ละพรรคเริ่มชี้หน้าต่อว่ากัน แต่ก็เป็นตามที่คาดหมาย เช่น พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เห็นตั้งเป้าไว้ที่ภาคใต้เยอะ โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน คือ การเจาะไข่แดงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อย่างรุนแรง อันดามัน มี จ.พังงา ด้วยน่าจับตา เป็นพื้นที่บ้านเกิด ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. หากพังงา เป็นภาพภูมิใจไทย ขึ้นมา ปชป. โดยเฉพาะนายจุรินทร์ คงเสียหายทางการเมือง แรงกดดันตรงนี้ จึงไม่แปลกที่บางพรรคต้องทำทุกวิถีทาง รักษาที่มั่นให้ได้ อาจใช้ทุกวิถีทางเอาคืนภูมิใจไทย
 
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า กฎหมายหัวใจสำคัญของ ภูมิใจไทย คือกฎหมายกัญชา แต่ขอให้ดูดีๆ ว่า การที่สุดท้ายกฎหมายกัญชาต้องเลื่อนวาระการพิจารณาในสภาฯ ออกไป สร้างความเสียหายต่อภูมิใจไทย จริงหรือไม่ เขาก็อาจจะโบ้ยว่า นี่ไง ใครทำให้เกิดช่องโหว่แบบนี้ เอาเข้าจริง ตนค่อนข้างเชื่อว่า สถานการณ์ที่เป็นกัญชาเสรีแบบนี้ แทบไม่มีกฎหมายอะไรมาควบคุมนั่น ทางภูมิใจไทย ก็ได้ประโยชน์ ภูมิใจไทยได้ 2 เด้ง ทุกคนรู้ว่าการที่กระทรวงสาธารณสุข ไปตั้งเงื่อนไขบางอย่างที่อาจเกิดกัญชาเสรีแบบนี้ จริงๆ น่าจะเข้าทางภูมิใจไทย หรือเปล่า ตนเลยคิดว่า การปล่อยให้ไม่มีกฎหมายไปเลย มันเป็นเรื่องอันตราย ไปๆ มาๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเข้าทางภูมิใจไทย เชื่อว่า ปชป.ต้องระมัดระวัง ว่า เอ๊ะ สงสัยฐานภาคใต้ จะโดนเจาะหลายพื้นที่ ตนไม่รู้ว่า ปชป. รู้ตัวหรือไม่ว่า กำลังเข้าทางภูมิใจไทย สิ่งที่ ปชป.กำลังทำ มันไม่ได้เป็นการทำลาย ไม่ทำให้ภูมิใจไทย เสียท่าในทางการเมืองจริงๆ กลายเป็นว่า ปชป.อาจจะเสียท่าทางการเมือง มากกว่า
 
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับวันนี้ ปชป. สถานการณ์ตอนนี้เลือดไหลออกก็เยอะ สถานการณ์ภายในก็ไม่สู้ดี คิดว่า สนามเลือกตั้งรอบหน้า ปชป. จะเป็นพรรคที่อาจจะได้ภาคใต้ไม่เยอะเท่าเดิม อาจจะเสร็จภูมิใจไทย อาจจะเสร็จก้าวไกล หรือ พรรคอื่นๆ ที่กำลังตามมาก็ได้ อย่างในพื้นที่ภาคใต้ ก้าวไกล ค่อนข้างมั่นใจว่า จะได้มากกว่าเดิม คราวก่อนเราได้ประมาณ 5 แสนคะแนน ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้ทำงาน แต่รอบนี้ทำงานพิสูจน์แล้ว จากการทำงานหนักเรามีลุ้น ส่วนเรื่องจำนวนตัวเลขเก้าอี้ ตนไม่อยากพูดถึงว่า จะได้เท่าไร อยากรอใกล้ๆ เลือกตั้งดีกว่า แต่มั่นใจเราสร้างความแตกต่างได้แน่นอนในพื้นที่ภาคใต้ เราจึงมีโอกาสหลายเขต พรรคน่าจะมีข่าวดีในหลายๆ เขตแน่ๆ.


 
โคราชช้ำระทม น้ำล้น ทะลักท่วม ถล่มนาข้าว พังเสียหาย นับหมื่นไร่
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7271952

โคราชเจ็บช้ำทรวงใน น้ำล้น หลังฝนตกต่อเนื่อง จนทะลักท่วม ถล่มนาข้าว พังเสียหาย เน่าเละ นับหมื่นไร่ พบเตรียมกระอักรอบ 2 หลังพายุกำลังจะมาใหม่
 
วันที่ 18 ก.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำของลำน้ำมูล อ.พิมาย และลำน้ำลำสะแทด อ.ประทาย จ.นครราชสีมา มีปริมาณสูงและไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตร ส่งผลต่อนาข้าวได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 25 หมู่บ้าน รวมพื้นที่เสียหายกว่า 1 หมื่นไร่

โดยบางจุดของนาข้าว พบน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมคร โดยน้ำท่วมขังนานหลายสัปดาห์จากพายุฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโตถูกท่วมเสียหายเกือบทั้งหมด 

โดยขณะนี้น้ำได้ทะลักท่วมนาข้าว เป็นรอบ 2 คาดว่าปริมาณน้ำจะท่วมสูงไปกว่านี้และขยายวงกว้างเข้าไปอีก หลังมีพายุลูกใหม่เตรียมเข้าพื้นที่และฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่