ยุคของแพง! โจรย่องขโมยผักชี ต้นหอมกลางดึก แม่ค้าสุดเซ็งไม่มีของส่งให้ลูกค้า
https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/311990
ภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านหลังหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จับภาพคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุ ประมาณ 15-20 ปี เดินข้ามถนนมาจากฝั่งตรงข้ามบ้าน แล้ววนมาที่หน้าบ้านก่อนจะเปิดถังน้ำแข็ง ซึ่งมีผักหลายชนิดเก็บเอาไว้เตรียมส่งให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อจากเจ้าของบ้าน โดยคนร้ายได้ขโมยเอาผักชี และต้นหอมไปอย่างละ 1 กิโลกรัม ก่อนจะเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 18 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับผู้เสียหาย ที่ถูกคนร้าย ขโมยเอาต้นหอม ผักชี รวม 2 กิโลกรัม ที่บ้านเลขที่ 227/73-74 ถนนประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบกับนางสาว
ณัฐณภา อายุ 37 ปี ซึ่งมีอาชีพ รับจ้างจ่ายตลาดให้กับร้านค้า
ซึ่งก็พบว่านางสาว
ณัฐณภา กำลังจัดเตรียมสินค้า เพื่อนำส่งลูกค้าเหมือนเช่นทุกวัน ที่หน้าร้านจุดเกิดเหตุนั้น มีถังน้ำแข็งตั้งอยู่ 2 ใบ เพื่อใช้แช่ผักสด ที่มีการจัดเตรียมนำส่งลูกค้า ตั้งเรียงกันอยู่ นางสาวณัฐณภา เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพรับจ้างจ่ายตลาด ซื้อสินค้า ประเภทผักสด ส่งให้ร้านค้าในเมืองขอนแก่น
เช้าวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ขณะจัดเตรียมสิ่งของขึ้นรถ เพื่อส่งให้ลูกค้าตามปกติ แต่พบว่ามีถุงแตงกวาตั้งอยู่บนถังน้ำแข็ง รู้สึกเอะใจ จึงรีบเปิดดูในถังน้ำแข็ง พบว่า ต้นหอมและผักชี ที่จัดเตรียมเป็นมัดไว้ มัดละ 1 กิโลกรัม ต้นหอมหายไป 1 กิโลกรัม ผักชีหายไป 1 กิโลกรัม จึงรีบเปิดดูกล้องวงจรปิด พบว่า ช่วงเวลาประมาณตีสามของวันที่ 18 ก.ย. มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นเดินข้ามถนนมาจากฝั่งตรงข้าม แล้วมาเปิดถังน้ำแข็ง ขโมยเอาต้นหอมผักชีไปอย่างละ 1 กิโลกรัม
นางสาว
ณัฐณภา กล่าวอีกว่า ไม่ทราบเจตนาของคนร้ายว่าจะเอาต้นหอมผักชีไปทำอะไร ถ้าขโมยไปทำกับข้าวก็น่าจะเยอะไป ที่เหลือก็คงโยนทิ้ง แต่ถ้านำไปขาย ก็น่าจะไม่มีใครซื้อ อีกทั้งช่วงนี้มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ราคาผักก็แพงขึ้น โดยต้นหอมซื้อมากิโลกรัมละ 110 บาท ผักชีกิโลกรัมละ 130 บาท
จึงอยากฝากเตือนภัยไปยังประชาชนผู้ทำอาชีพสุจริตว่าในยุคที่สิ่งของแพงทุกชนิดเช่นนี้ ควรรักษาทรัพย์สินตัวเองให้ดี เพราะโจรสามารถขโมยทุกอย่างไปจากเราได้อย่างง่านดาย และยังไม่ได้แจ้งความ เพียงแค่ต้องการเตือนภัย ให้ประชาชนระวังและดูแลทรัพย์สินของตัวเองให้มากขึ้น จะได้ไม่เกิดการสูญเสีย
“ไพศาล”ยก3คดีดังเทียบคดี8ปีนายกฯ จี้ปฏิรูปใหญ่กระบวนการยุติธรรม
https://www.dailynews.co.th/news/1500065/
“ไพศาล”ยก 3 คดีดังที่จบด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เทียบคดี 8 ปี เตือนอย่าให้เสียงครหาว่าก.ม.ใช้เฉพาะคนจนและเด็ก จี้ปฏิรูปใหญ่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.นาย
ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
คดีบอส ถูกซุกจนขาดอายุความ คดีเมียน้อย ผู้ทรงอิทธิพล ที่ดังสะเทือนสะท้านประเทศ เป็นเรื่องกระจอก ขนาดคดีโรงพักร้าง 6 พันล้าน เสร็จสิ้นแล้ว ด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง
แล้วคดี 8 ปีจะเป็นฉันใด!!! อย่าให้เสียงครหาว่ากฎหมายบังคับใช้เฉพาะกับคนจนและเด็กๆเลย
***** การปฏิรูปใหญ่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่อาจรีรอหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไปแล้ว แผ่นดิน และแผ่นฟ้า ไม่สามารถรับสภาพแบบนี้ได้อีกต่อไป
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid0zsvLnNqm1froyngrmoULiy6wjiH4g5ZM7hH8UJStbZixjYWvddXKayVJBqkDFNhil
"สุชาติ" ยก 6 เหตุผลห่วงประชาชนจะมีชีวิตอยู่รอดกันได้อย่างไร หลัง "บิ๊กป้อม" สั่งให้ทำเงินบาทแข็งค่าขึ้น
https://siamrath.co.th/n/384973
วันที่ 23 ก.ย.65 นาย
สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.การคลัง กล่าวว่า
1. รู้สึกตกใจและแปลกใจมาก ที่จู่ๆ พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯออกมาสั่งไม่ให้เงินบาทอ่อนค่ากว่า 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นคำสั่งที่ไม่มีความรู้ ไม่มีวิชาการ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะทำให้รายได้ประชาชนลดลง คนตกงานมากขึ้น และรายได้ประเทศ (GDP) ตกลงไปอีก
2. การที่เงินบาท เงินเยน เงินริงกิต และเงินทั่วโลกอ่อนตัวลง ก็เพราะสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยของตนเอง เพื่อลดการผลิตและรายได้ (GDP) ลดการจ้างงาน เพราะเศรษฐกิจเขาร้อนแรงเกินไป ซึ่งมีผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทั่วโลก และตลาดหุ้นทั่วโลกตกลง
3. เมื่อผู้นำเราสั่งไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก ก็เท่ากับว่า ต้องทำให้เงินบาทแข็งค่าตามเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินบาทจะแข็งค่าเทียบเงินสกุลอื่นๆ เกือบทั้งหมดในโลก จะมีผลให้รายได้จากการส่งออก และการท่องเที่ยวลดลง การหมุนเวียนของเงินภายในชาติลดลง ทำให้การเติบโตของ GDP ที่ต่ำมากอยู่แล้ว ตกต่ำลงไปอีก และคนตกงานจะเพิ่มขึ้นอีก ประชาชนจะย่ำแย่ลง ประเทศชาติจะไม่มีอนาคต ขอย้ำว่าแม้ขณะนี้ ค่าเงินบาทก็ยังแข็งค่าเกินไป ซึ่งแข็งค่ามากกว่าเงินมาเลเซียริงกิตถึง 18.5% เมื่อดูจากปี 2557 ที่ 10 บาทเท่ากับ 1 ริงกิต
นาย
สุชาติ กล่าวต่อว่า
4. เงินบาทอ่อนค่าลงนั้น ถูกต้องแล้ว เพราะเมื่อเราขายของได้ดอลลาร์มา จะแลกเงินบาทได้มากขึ้น และขายได้จำนวนมากขึ้นด้วย ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ประชาชนมีรายได้และมีงานทำมากขึ้น ประเทศจะได้เจริญเติบโตสูงขึ้น ทำให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น รัฐบาลได้ภาษีมากขึ้น ไม่ต้องไปกู้เงินมากมาย มาใช้จ่ายเหมือนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะทำให้ประเทศล่มจม เพราะทั้งหนี้รัฐบาลและหนี้ครัวเรือนสูงกว่า 150% ของ GDP แล้ว แทบไม่มีเงินเหลือเพื่อการลงทุนแล้ว
5. เมื่อเร็วๆ นี้ ท่าน
ลีเซียนหลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ได้ออกมาพูดกับประชาชนของเขาว่า การมีผู้นำที่ฉลาด เก่ง ซื่อสัตย์ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด ต่อการทำให้ประเทศเจริญเติบโต มีความมั่งคั่ง เป็นประเทศชั้นนำของโลก
6. จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ที่ประเทศไทยมีแต่ผู้นำที่มีลักษณะเป็นคนเฝ้าบ้าน ขาดสติปัญญา ชอบสั่งส่งเดช ประเทศไทยซึ่งเคยอยู่ระดับนำของ ASEAN ในอดีต ปัจจุบันอยู่ในอันดับท้ายๆ แล้ว จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า พี่น้องประชาชนจะมีชีวิตอยู่รอด กันได้อย่างไร
JJNY : ยุคของแพง! โจรย่องขโมยผักชี ต้นหอม│“ไพศาล”ยก3คดีดังเทียบคดี8ปี│"สุชาติ"ยก6เหตุผลห่วงปชช.│สมชัย ถาม กกต. ป้ายป้อม
https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/311990
ภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านหลังหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จับภาพคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุ ประมาณ 15-20 ปี เดินข้ามถนนมาจากฝั่งตรงข้ามบ้าน แล้ววนมาที่หน้าบ้านก่อนจะเปิดถังน้ำแข็ง ซึ่งมีผักหลายชนิดเก็บเอาไว้เตรียมส่งให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อจากเจ้าของบ้าน โดยคนร้ายได้ขโมยเอาผักชี และต้นหอมไปอย่างละ 1 กิโลกรัม ก่อนจะเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามหลบหนีไปอย่างลอยนวล โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 18 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับผู้เสียหาย ที่ถูกคนร้าย ขโมยเอาต้นหอม ผักชี รวม 2 กิโลกรัม ที่บ้านเลขที่ 227/73-74 ถนนประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบกับนางสาวณัฐณภา อายุ 37 ปี ซึ่งมีอาชีพ รับจ้างจ่ายตลาดให้กับร้านค้า
ซึ่งก็พบว่านางสาวณัฐณภา กำลังจัดเตรียมสินค้า เพื่อนำส่งลูกค้าเหมือนเช่นทุกวัน ที่หน้าร้านจุดเกิดเหตุนั้น มีถังน้ำแข็งตั้งอยู่ 2 ใบ เพื่อใช้แช่ผักสด ที่มีการจัดเตรียมนำส่งลูกค้า ตั้งเรียงกันอยู่ นางสาวณัฐณภา เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพรับจ้างจ่ายตลาด ซื้อสินค้า ประเภทผักสด ส่งให้ร้านค้าในเมืองขอนแก่น
เช้าวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ขณะจัดเตรียมสิ่งของขึ้นรถ เพื่อส่งให้ลูกค้าตามปกติ แต่พบว่ามีถุงแตงกวาตั้งอยู่บนถังน้ำแข็ง รู้สึกเอะใจ จึงรีบเปิดดูในถังน้ำแข็ง พบว่า ต้นหอมและผักชี ที่จัดเตรียมเป็นมัดไว้ มัดละ 1 กิโลกรัม ต้นหอมหายไป 1 กิโลกรัม ผักชีหายไป 1 กิโลกรัม จึงรีบเปิดดูกล้องวงจรปิด พบว่า ช่วงเวลาประมาณตีสามของวันที่ 18 ก.ย. มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นเดินข้ามถนนมาจากฝั่งตรงข้าม แล้วมาเปิดถังน้ำแข็ง ขโมยเอาต้นหอมผักชีไปอย่างละ 1 กิโลกรัม
นางสาวณัฐณภา กล่าวอีกว่า ไม่ทราบเจตนาของคนร้ายว่าจะเอาต้นหอมผักชีไปทำอะไร ถ้าขโมยไปทำกับข้าวก็น่าจะเยอะไป ที่เหลือก็คงโยนทิ้ง แต่ถ้านำไปขาย ก็น่าจะไม่มีใครซื้อ อีกทั้งช่วงนี้มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ราคาผักก็แพงขึ้น โดยต้นหอมซื้อมากิโลกรัมละ 110 บาท ผักชีกิโลกรัมละ 130 บาท
จึงอยากฝากเตือนภัยไปยังประชาชนผู้ทำอาชีพสุจริตว่าในยุคที่สิ่งของแพงทุกชนิดเช่นนี้ ควรรักษาทรัพย์สินตัวเองให้ดี เพราะโจรสามารถขโมยทุกอย่างไปจากเราได้อย่างง่านดาย และยังไม่ได้แจ้งความ เพียงแค่ต้องการเตือนภัย ให้ประชาชนระวังและดูแลทรัพย์สินของตัวเองให้มากขึ้น จะได้ไม่เกิดการสูญเสีย
“ไพศาล”ยก3คดีดังเทียบคดี8ปีนายกฯ จี้ปฏิรูปใหญ่กระบวนการยุติธรรม
https://www.dailynews.co.th/news/1500065/
“ไพศาล”ยก 3 คดีดังที่จบด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เทียบคดี 8 ปี เตือนอย่าให้เสียงครหาว่าก.ม.ใช้เฉพาะคนจนและเด็ก จี้ปฏิรูปใหญ่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
คดีบอส ถูกซุกจนขาดอายุความ คดีเมียน้อย ผู้ทรงอิทธิพล ที่ดังสะเทือนสะท้านประเทศ เป็นเรื่องกระจอก ขนาดคดีโรงพักร้าง 6 พันล้าน เสร็จสิ้นแล้ว ด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง
แล้วคดี 8 ปีจะเป็นฉันใด!!! อย่าให้เสียงครหาว่ากฎหมายบังคับใช้เฉพาะกับคนจนและเด็กๆเลย
***** การปฏิรูปใหญ่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่อาจรีรอหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไปแล้ว แผ่นดิน และแผ่นฟ้า ไม่สามารถรับสภาพแบบนี้ได้อีกต่อไป
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid0zsvLnNqm1froyngrmoULiy6wjiH4g5ZM7hH8UJStbZixjYWvddXKayVJBqkDFNhil
"สุชาติ" ยก 6 เหตุผลห่วงประชาชนจะมีชีวิตอยู่รอดกันได้อย่างไร หลัง "บิ๊กป้อม" สั่งให้ทำเงินบาทแข็งค่าขึ้น
https://siamrath.co.th/n/384973
วันที่ 23 ก.ย.65 นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.การคลัง กล่าวว่า
1. รู้สึกตกใจและแปลกใจมาก ที่จู่ๆ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯออกมาสั่งไม่ให้เงินบาทอ่อนค่ากว่า 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นคำสั่งที่ไม่มีความรู้ ไม่มีวิชาการ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะทำให้รายได้ประชาชนลดลง คนตกงานมากขึ้น และรายได้ประเทศ (GDP) ตกลงไปอีก
2. การที่เงินบาท เงินเยน เงินริงกิต และเงินทั่วโลกอ่อนตัวลง ก็เพราะสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยของตนเอง เพื่อลดการผลิตและรายได้ (GDP) ลดการจ้างงาน เพราะเศรษฐกิจเขาร้อนแรงเกินไป ซึ่งมีผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทั่วโลก และตลาดหุ้นทั่วโลกตกลง
3. เมื่อผู้นำเราสั่งไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก ก็เท่ากับว่า ต้องทำให้เงินบาทแข็งค่าตามเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินบาทจะแข็งค่าเทียบเงินสกุลอื่นๆ เกือบทั้งหมดในโลก จะมีผลให้รายได้จากการส่งออก และการท่องเที่ยวลดลง การหมุนเวียนของเงินภายในชาติลดลง ทำให้การเติบโตของ GDP ที่ต่ำมากอยู่แล้ว ตกต่ำลงไปอีก และคนตกงานจะเพิ่มขึ้นอีก ประชาชนจะย่ำแย่ลง ประเทศชาติจะไม่มีอนาคต ขอย้ำว่าแม้ขณะนี้ ค่าเงินบาทก็ยังแข็งค่าเกินไป ซึ่งแข็งค่ามากกว่าเงินมาเลเซียริงกิตถึง 18.5% เมื่อดูจากปี 2557 ที่ 10 บาทเท่ากับ 1 ริงกิต
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า
4. เงินบาทอ่อนค่าลงนั้น ถูกต้องแล้ว เพราะเมื่อเราขายของได้ดอลลาร์มา จะแลกเงินบาทได้มากขึ้น และขายได้จำนวนมากขึ้นด้วย ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ประชาชนมีรายได้และมีงานทำมากขึ้น ประเทศจะได้เจริญเติบโตสูงขึ้น ทำให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น รัฐบาลได้ภาษีมากขึ้น ไม่ต้องไปกู้เงินมากมาย มาใช้จ่ายเหมือนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะทำให้ประเทศล่มจม เพราะทั้งหนี้รัฐบาลและหนี้ครัวเรือนสูงกว่า 150% ของ GDP แล้ว แทบไม่มีเงินเหลือเพื่อการลงทุนแล้ว
5. เมื่อเร็วๆ นี้ ท่าน ลีเซียนหลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ได้ออกมาพูดกับประชาชนของเขาว่า การมีผู้นำที่ฉลาด เก่ง ซื่อสัตย์ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด ต่อการทำให้ประเทศเจริญเติบโต มีความมั่งคั่ง เป็นประเทศชั้นนำของโลก
6. จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ที่ประเทศไทยมีแต่ผู้นำที่มีลักษณะเป็นคนเฝ้าบ้าน ขาดสติปัญญา ชอบสั่งส่งเดช ประเทศไทยซึ่งเคยอยู่ระดับนำของ ASEAN ในอดีต ปัจจุบันอยู่ในอันดับท้ายๆ แล้ว จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า พี่น้องประชาชนจะมีชีวิตอยู่รอด กันได้อย่างไร