ป่วยโควิดรายใหม่ 1,605 คน กำลังรักษาอยู่ 14,462 ราย คร่า 20 ชีวิต
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3548550
ป่วยโควิดรายใหม่ 1,605 คน กำลังรักษาอยู่ 14,462 ราย คร่า 20 ชีวิต
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันพุธที่ 7 กันยายน 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 1,605 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 1,605 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย ผู้ป่วยสะสม 2,439,134 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 1,618 ราย หายป่วยสะสม 2,447,149 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 14,462 ราย
เสียชีวิต 20 ราย เสียชีวิตสะสม 10,766 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 695 ราย
*เนื่องจากตั้งแต่ 1 มิ.ย.65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสมมีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
"ธุรกิจ" จับตาอาฟเตอร์ช็อกนายก 8 ปี หวั่นเศรษฐกิจสะดุด ลงทุนชะลอยาว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3548576
“ธุรกิจ” จับตาอาฟเตอร์ช็อกนายก 8 ปี หวั่นเศรษฐกิจสะดุด ลงทุนชะลอยาว
วันที่ 7 กันยายน นาย
ศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นักธุรกิจรอลุ้นกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะประชุมนัดพิเศษวันที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาคดีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเมื่อศาลฯพิจารณาจะมีความชัดเจนขึ้นว่านายกอยู่ครบ 8 ปีหรือไม่ ถ้าศาลตัดสินว่าอยู่ครบ 8 ปี พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะต้องรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปอีก 6 เดือน ก่อนจะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งใหม่ในปี 2566
แนะออกมาตรการระยะสั้นกระตุ้นศก.
“ช่วง 6 เดือนนับจากนี้แม้จะมีนายกรักษาการ รัฐบาลจะต้องดึงมืออาชีพด้านเศรษฐกิจมาคิดนโยบายด้านการเงิน การคลังมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการระยะสั้นและเป็นมาตรการจะซัพพอร์ตเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ได้ เช่น เป็นมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว การส่งออก แก้หนี้สินภาคครัวเรือน ให้มีการจ้างงานมากขึ้น เพิ่มการค้าชายแดน ส่งออกสินค้าเกษตรให้มากขึ้น หาตลาดใหม่ชดเชยตลาดจีน ปรับปรุงระบบอินฟราสตรัคเจอร์ให้พร้อมที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น สนามบินเชียงใหม่ ภูเก็ต อู่ตะเภา เพราะไม่งั้นจะไม่มีแรงขับเคลื่อนขณะเดียวกันรัฐบาลต้องอาศัยประชุมเอเปคในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้ประเทศไทยทำการค้าขายกับประเทศต่างๆมากขึ้น ส่วนภาวะเงินเฟ้อน่าจะดีขึ้นเพราะราคาน้ำมันเริ่มปรับลดลงแล้ว ด้านดอกเบี้ยคงมีปรับขึ้นไม่มาก” นาย
ศานิตกล่าว
คาดเอกชนไทย-เทศชะลอลงทุนถึงQ1/66
นาย
อธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจในช่วง 4 เดือนของปี 2565 ยังคงผันผวนตามภาวะสถานการณ์ทั้งราคาน้ำมันยังไม่นิ่ง รายได้ของประชาชนยังไม่ดีเท่าที่ควรกระทบต่อกำลังซื้อยังไม่ฟื้นดี ยังมีเศรษฐกิจต่างประเทศที่กระทบการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่ยังไม่ดีอย่างที่คาดไว้ ยังน่าเป็นห่วงอยู่ว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดยังมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกเป็นปัจจัยเสี่ยง อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพิ่มเติม เกิดการชะลอทั้งกำลังซื้อในตลาดทั้งสินค้าและที่อยู่อาศัย รวมถึงการลงทุนโครงการต่างๆจากภาคเอกชน
“หากเกิดภาวะไม่แน่นอน ประชาชนจะชะลอการตัดสินใจ นักลงทุนไทยและต่างชาติจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความแน่นอนทางการเมือง คาดว่าจะเกิดการชะลออย่างน้อย 2 ไตรมาส คือ ไตรมาส4/2565 และไตรมาส1/2566 “นายอธิปกล่าว
นาย
อธิปกล่าวว่า สำหรับกรณีการพิจารณาปม 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ปัจจุบันคนรับรู้เรื่องนี้อยู่แล้วในระดับหนึ่ง มองว่าคงจะไม่มีอะไรทำให้กังวลใจมากนัก อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด การเลือกตั้งใหม่ก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่ว่าจะทำอย่างไรก็ตามอย่าให้เกิดความรุนแรง เช่น การประท้วง เพราะถ้าเกิดความรุนแรงจะกระทบต่อความมั่นใจประชาชนในการบริโภคและนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติด้วย ส่วนกรลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐคงไม่ชะลอเพราะเป็นโครงการส่วนหนึ่งที่จะเป็นกระสุนดินดำของพรรคการเมือง
“การเมืองที่มีเสถียรภาพที่เปราะบางก็เป็นแบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ทุกคนก็ทำใจว่าอยู่ในภาวะในการเปลี่ยนสู่ฤดูการเลือกตั้ง ส่วนจะมีสุญญากาศในช่วงมีนายกรักษาการหรือไม่ เป็นเรื่องของสัจธรรม หากจะเกิดก็ต้องมี เพียงแต่ขอร้องว่าทุกฝ่ายจะทำอะไร ทุกอย่างให้อยู่ในกฎกติกา อย่าใช้ความรุนแรง เพราะถ้ามีต่างประเทศจะมองว่าไทยไม่น่ามาเที่ยว ไม่น่ามาลงทุน ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเข้าไปอีก ซึ่งในปีนี้รัฐบาลมองว่าเศรษฐกิจน่าจะมีการขยายตัวอยู่ที่ 3% แต่จะได้ตามเป้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลงานไตรมาส3และไตรมาส4นี้ “นาย
อธิปกล่าว
ขออย่านำเวลา-งบไปใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น
นาย
อธิปกล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลต้องมองภาพให้ออกว่าประเทศอยู่ในภาวะอะไร หากอยู่ในภาวะกำลังจะต้องมีการกระตุ้นฟื้นตัวเศรษฐกิจก็ต้องพยายามให้ความสำคัญกับส่วนนี้ ไม่ใช่ว่าเอาเวลา งบประมาณไปทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น และอีกอย่างต้องมองว่าไม่ใช่จะหาวิธีการทำยังไงให้ตัวเองชนะเลือกตั้งอย่างเดียว ต้องทำงาน และทำให้ข้าราชการประจำมีความมั่นใจ และไม่รู้สึกเกียร์ว่าง ดูทิศทางลม เพื่อรอรัฐบาลใหม่
ทำใจการเมืองวิถีไทย
นาง
สุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด(LHMH) บริษัทในเครือบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ทุกอย่างอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น น่าจะมีการเติบโตได้ตามเป้า 3% จากการกระตุ้นของภาครัฐ การส่งออกและการท่องเที่ยวที่เริ่มดีขึ้น ขณะที่เอกชนเองก็เดินหน้าขับเคลื่อน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและการบริการ ส่วนภาวะเงินเฟ้อล่าสุดอยู่ที่ 7.86% ก็ไม่น่ากังวลเพราะผ่านจุดพีคสุดมาแล้ว เพราะราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิตก็เริ่มลดลงแล้ว ส่วนค่าแรงขั้นต่ำจะปรับขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโนบายในช่วงเดือนกันยายนนี้เชื่อว่าจะเป็นการปรับขึ้นเล็กน้อยเพื่อสกัดเงินเฟ้อและเงินไหลออก คงจะไม่สูงมากเหมือนต่างประเทศ เพราะแต่ละประเทศมีตัวแปรด้านบวกและลบไม่เหมือนกัน
“ด้านสถานการณ์การเมืองไม่มีผลมากนักต่อเศรษฐกิจ ตราบใดที่ยังมีการเลือกตั้งอยู่ เพราะประเทศไทยคุ้นเคยกับการเมืองวิถีไทยแบบนี้มานานมากแล้ว เพียงแต่เศรษฐกิจของประเทศที่เดินได้เพราะภาคเอกชนแข็งแรง ดังนั้นไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ทางเอกชนยังแข็งแรงอยู่แล้วด้วยตัวเราเอง แต่รัฐบาลก็ต้องช่วยสนับสนุนเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เอกชนมีแผนไว้” นาง
สุวรรณากล่าว
“ชัชชาติ” ไลฟ์ลุยน้ำท่วมบางเขน สั่งเร่งช่วยทันที พร้อมกล่าวขอโทษประชาชน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2493230
ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” เดินเท้าลุยน้ำท่วมบางเขน สั่งเร่งช่วยเหลือคนเดือดร้อนให้เร็ว พร้อมกล่าวขอโทษประชาชน หลังฝนตกหนักทำน้ำท่วมขัง จราจรติดขัด
นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) สวมเสื้อกันฝนและรองเท้าบูต ไลฟ์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กเมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. วันที่ 6 ก.ย. 2565 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เขตบางเขน หลังมีฝนตกหนักจนน้ำท่วมขัง การจราจรติดขัด โดยนายชัชชาติ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และเดินเท้าลงพื้นที่ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักน้ำท่วมขัง
ขณะเดินช่วงหนึ่ง นาย
ชัชชาติ ออกปากว่า ฟุตปาทแย่มาก และมีหลายอย่างต้องปรับปรุง อีกปัญหาคือคนนั่งรถไฟฟ้ามา พอลงแล้วกลับบ้านไม่ได้ ป้ายรถเมล์ก็มีคนรอเยอะมาก ส่วนรถจักรยานยนต์บางคันก็ลุยน้ำจนดับ ซึ้งผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันที พร้อมกันนี้ นาย
ชัชชาติ ยังได้กล่าวขอโทษประชาชนในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า “
ขอโทษทีนะ” ทั้งนี้ เมื่อเวลา 21.20 น. พบว่าการจราจรเริ่มเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น นาย
ชัชชาติ ยังคงเดินสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และพบปะประชาชนในชุมชนใกล้เคียงเพื่อถามปัญหาต่างๆ ด้วย ขณะที่ตลอดทางมีประชาชนขอถ่ายภาพกับ นายชัชชาติ อยู่เป็นระยะ.
JJNY : ป่วยใหม่ 1,605 คร่า 20│"ธุรกิจ"จับตาอาฟเตอร์ช็อก 8ปี│“ชัชชาติ”ไลฟ์ลุยน้ำท่วมบางเขน│"โพล"ชี้ปชช.จับตาปม 8ปี
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3548550
ป่วยโควิดรายใหม่ 1,605 คน กำลังรักษาอยู่ 14,462 ราย คร่า 20 ชีวิต
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันพุธที่ 7 กันยายน 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) จำนวน 1,605 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 1,605 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย ผู้ป่วยสะสม 2,439,134 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
หายป่วยกลับบ้าน 1,618 ราย หายป่วยสะสม 2,447,149 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 14,462 ราย
เสียชีวิต 20 ราย เสียชีวิตสะสม 10,766 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 695 ราย
*เนื่องจากตั้งแต่ 1 มิ.ย.65 เป็นต้นมา มีการปรับระบบรายงาน โดยรายงานเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้รายงานยอดผู้ป่วยสะสมมีจำนวนที่น้อยกว่ายอดผู้หายป่วยสะสม
"ธุรกิจ" จับตาอาฟเตอร์ช็อกนายก 8 ปี หวั่นเศรษฐกิจสะดุด ลงทุนชะลอยาว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3548576
“ธุรกิจ” จับตาอาฟเตอร์ช็อกนายก 8 ปี หวั่นเศรษฐกิจสะดุด ลงทุนชะลอยาว
วันที่ 7 กันยายน นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นักธุรกิจรอลุ้นกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะประชุมนัดพิเศษวันที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาคดีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเมื่อศาลฯพิจารณาจะมีความชัดเจนขึ้นว่านายกอยู่ครบ 8 ปีหรือไม่ ถ้าศาลตัดสินว่าอยู่ครบ 8 ปี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะต้องรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปอีก 6 เดือน ก่อนจะเข้าสู่โหมดเลือกตั้งใหม่ในปี 2566
แนะออกมาตรการระยะสั้นกระตุ้นศก.
“ช่วง 6 เดือนนับจากนี้แม้จะมีนายกรักษาการ รัฐบาลจะต้องดึงมืออาชีพด้านเศรษฐกิจมาคิดนโยบายด้านการเงิน การคลังมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการระยะสั้นและเป็นมาตรการจะซัพพอร์ตเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ได้ เช่น เป็นมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว การส่งออก แก้หนี้สินภาคครัวเรือน ให้มีการจ้างงานมากขึ้น เพิ่มการค้าชายแดน ส่งออกสินค้าเกษตรให้มากขึ้น หาตลาดใหม่ชดเชยตลาดจีน ปรับปรุงระบบอินฟราสตรัคเจอร์ให้พร้อมที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น สนามบินเชียงใหม่ ภูเก็ต อู่ตะเภา เพราะไม่งั้นจะไม่มีแรงขับเคลื่อนขณะเดียวกันรัฐบาลต้องอาศัยประชุมเอเปคในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้ประเทศไทยทำการค้าขายกับประเทศต่างๆมากขึ้น ส่วนภาวะเงินเฟ้อน่าจะดีขึ้นเพราะราคาน้ำมันเริ่มปรับลดลงแล้ว ด้านดอกเบี้ยคงมีปรับขึ้นไม่มาก” นายศานิตกล่าว
คาดเอกชนไทย-เทศชะลอลงทุนถึงQ1/66
นายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจในช่วง 4 เดือนของปี 2565 ยังคงผันผวนตามภาวะสถานการณ์ทั้งราคาน้ำมันยังไม่นิ่ง รายได้ของประชาชนยังไม่ดีเท่าที่ควรกระทบต่อกำลังซื้อยังไม่ฟื้นดี ยังมีเศรษฐกิจต่างประเทศที่กระทบการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่ยังไม่ดีอย่างที่คาดไว้ ยังน่าเป็นห่วงอยู่ว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดยังมีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกเป็นปัจจัยเสี่ยง อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพิ่มเติม เกิดการชะลอทั้งกำลังซื้อในตลาดทั้งสินค้าและที่อยู่อาศัย รวมถึงการลงทุนโครงการต่างๆจากภาคเอกชน
“หากเกิดภาวะไม่แน่นอน ประชาชนจะชะลอการตัดสินใจ นักลงทุนไทยและต่างชาติจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความแน่นอนทางการเมือง คาดว่าจะเกิดการชะลออย่างน้อย 2 ไตรมาส คือ ไตรมาส4/2565 และไตรมาส1/2566 “นายอธิปกล่าว
นายอธิปกล่าวว่า สำหรับกรณีการพิจารณาปม 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ปัจจุบันคนรับรู้เรื่องนี้อยู่แล้วในระดับหนึ่ง มองว่าคงจะไม่มีอะไรทำให้กังวลใจมากนัก อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด การเลือกตั้งใหม่ก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่ว่าจะทำอย่างไรก็ตามอย่าให้เกิดความรุนแรง เช่น การประท้วง เพราะถ้าเกิดความรุนแรงจะกระทบต่อความมั่นใจประชาชนในการบริโภคและนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติด้วย ส่วนกรลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐคงไม่ชะลอเพราะเป็นโครงการส่วนหนึ่งที่จะเป็นกระสุนดินดำของพรรคการเมือง
“การเมืองที่มีเสถียรภาพที่เปราะบางก็เป็นแบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ทุกคนก็ทำใจว่าอยู่ในภาวะในการเปลี่ยนสู่ฤดูการเลือกตั้ง ส่วนจะมีสุญญากาศในช่วงมีนายกรักษาการหรือไม่ เป็นเรื่องของสัจธรรม หากจะเกิดก็ต้องมี เพียงแต่ขอร้องว่าทุกฝ่ายจะทำอะไร ทุกอย่างให้อยู่ในกฎกติกา อย่าใช้ความรุนแรง เพราะถ้ามีต่างประเทศจะมองว่าไทยไม่น่ามาเที่ยว ไม่น่ามาลงทุน ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเข้าไปอีก ซึ่งในปีนี้รัฐบาลมองว่าเศรษฐกิจน่าจะมีการขยายตัวอยู่ที่ 3% แต่จะได้ตามเป้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลงานไตรมาส3และไตรมาส4นี้ “นายอธิปกล่าว
ขออย่านำเวลา-งบไปใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น
นายอธิปกล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลต้องมองภาพให้ออกว่าประเทศอยู่ในภาวะอะไร หากอยู่ในภาวะกำลังจะต้องมีการกระตุ้นฟื้นตัวเศรษฐกิจก็ต้องพยายามให้ความสำคัญกับส่วนนี้ ไม่ใช่ว่าเอาเวลา งบประมาณไปทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น และอีกอย่างต้องมองว่าไม่ใช่จะหาวิธีการทำยังไงให้ตัวเองชนะเลือกตั้งอย่างเดียว ต้องทำงาน และทำให้ข้าราชการประจำมีความมั่นใจ และไม่รู้สึกเกียร์ว่าง ดูทิศทางลม เพื่อรอรัฐบาลใหม่
ทำใจการเมืองวิถีไทย
นางสุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด(LHMH) บริษัทในเครือบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ทุกอย่างอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น น่าจะมีการเติบโตได้ตามเป้า 3% จากการกระตุ้นของภาครัฐ การส่งออกและการท่องเที่ยวที่เริ่มดีขึ้น ขณะที่เอกชนเองก็เดินหน้าขับเคลื่อน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและการบริการ ส่วนภาวะเงินเฟ้อล่าสุดอยู่ที่ 7.86% ก็ไม่น่ากังวลเพราะผ่านจุดพีคสุดมาแล้ว เพราะราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิตก็เริ่มลดลงแล้ว ส่วนค่าแรงขั้นต่ำจะปรับขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโนบายในช่วงเดือนกันยายนนี้เชื่อว่าจะเป็นการปรับขึ้นเล็กน้อยเพื่อสกัดเงินเฟ้อและเงินไหลออก คงจะไม่สูงมากเหมือนต่างประเทศ เพราะแต่ละประเทศมีตัวแปรด้านบวกและลบไม่เหมือนกัน
“ด้านสถานการณ์การเมืองไม่มีผลมากนักต่อเศรษฐกิจ ตราบใดที่ยังมีการเลือกตั้งอยู่ เพราะประเทศไทยคุ้นเคยกับการเมืองวิถีไทยแบบนี้มานานมากแล้ว เพียงแต่เศรษฐกิจของประเทศที่เดินได้เพราะภาคเอกชนแข็งแรง ดังนั้นไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ทางเอกชนยังแข็งแรงอยู่แล้วด้วยตัวเราเอง แต่รัฐบาลก็ต้องช่วยสนับสนุนเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เอกชนมีแผนไว้” นางสุวรรณากล่าว
“ชัชชาติ” ไลฟ์ลุยน้ำท่วมบางเขน สั่งเร่งช่วยทันที พร้อมกล่าวขอโทษประชาชน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2493230
ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” เดินเท้าลุยน้ำท่วมบางเขน สั่งเร่งช่วยเหลือคนเดือดร้อนให้เร็ว พร้อมกล่าวขอโทษประชาชน หลังฝนตกหนักทำน้ำท่วมขัง จราจรติดขัด
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) สวมเสื้อกันฝนและรองเท้าบูต ไลฟ์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กเมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. วันที่ 6 ก.ย. 2565 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เขตบางเขน หลังมีฝนตกหนักจนน้ำท่วมขัง การจราจรติดขัด โดยนายชัชชาติ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และเดินเท้าลงพื้นที่ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักน้ำท่วมขัง
ขณะเดินช่วงหนึ่ง นายชัชชาติ ออกปากว่า ฟุตปาทแย่มาก และมีหลายอย่างต้องปรับปรุง อีกปัญหาคือคนนั่งรถไฟฟ้ามา พอลงแล้วกลับบ้านไม่ได้ ป้ายรถเมล์ก็มีคนรอเยอะมาก ส่วนรถจักรยานยนต์บางคันก็ลุยน้ำจนดับ ซึ้งผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันที พร้อมกันนี้ นายชัชชาติ ยังได้กล่าวขอโทษประชาชนในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า “ขอโทษทีนะ” ทั้งนี้ เมื่อเวลา 21.20 น. พบว่าการจราจรเริ่มเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น นายชัชชาติ ยังคงเดินสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และพบปะประชาชนในชุมชนใกล้เคียงเพื่อถามปัญหาต่างๆ ด้วย ขณะที่ตลอดทางมีประชาชนขอถ่ายภาพกับ นายชัชชาติ อยู่เป็นระยะ.