ฆราวาสที่มัวเมาอยู่ในกามคุณ เป็นไปได้ไหมที่ไม่บวชแล้วจะพ้นทุกข์

สวัสดีครับท่านสมาชิกทุกท่าน ที่ศึกษาธรรม ปฎิบัติมาดีแล้ว

ตามหัวข้อฆราวาสที่อยู่ครองเรือน
มัวเมาอยู่ในกามคุณทั้งห้า ไม่ได้ออกบวช
แต่ฝึกตนปฎิบัติตน เพื่อชำระจิตในพ้นจากอำนาจของกิเลส แต่ชีวิตเราต้องคลุกคลีอยู่ในโลก มีกิจการงาน การพูดคุย การกิน
การดูหนังฟังเพลง เสพการละเล่น ต่างๆ
ทำให้ใจหลงมัวเมา
แต่เมื่อเราฝึกปฎิบัติมาถึงจุดหนึ่ง
กับพบว่า ความสุขต่างๆเหล่านี้ เกิดขึ้นชั่วคราว แล้วก็หายวั่บไป เมื่อพิจารณาอยู่อย่างงี้ก็เห็นว่ามันเบื่อหน่าย เพราะความสุขมันยึดไว้ไม่ได้  แต่กิเลสในใจมันดิ้นอยากได้ความสุข พอไม่ได้จิตมันก็เศร้าหมอง  
พอเรามีโอกาสไปเก็บตัว ฝึกสมาธิชนิดความสงบภายใน1เดือน  จิตมันได้สัมผัสลิ้มรสชาติของความเบา สบาย เย็น โล่ง ปลอดโปร่งไปทั้งกาย ระงับกิเลสชั่วคราว
แต่ไม่ได้พ้นทุกข์
ตอนนั้นเห็นเลย ว่าความสุขชนิดนี้
เงินซื้อไม่ได้ แต่เข้าถึงได้เมื่อหมดความอยาก ใจก็ไม่ยึดสิ่งใดไว้ก็ไม่ทุกข์
พอเรากลับมาใช้ชีวิตอยู่โลกเหมือนเดิม
แต่ใจไม่เหมือนเดิม  ถึงตอนนี้ใจมันเริ่มทิ้งทางโลกเพื่อมาจะออกบวช  เพื่อขัดเกลาตนเองเข้าถึงความสุขที่ปราณีตกว่า
เพราะเริ่มรู้สึกจากภายในได้ว่า
กามคุณต่างๆทำให้ใจหลงเพลิดเพลิน
และติดข้องอยู่กับมันไม่ให้ไปไหน
มีความสุขนิดเดียว แต่ทำให้ใจกระส่ายได้

พูดย่อๆ หลวงปู่ท่านพูดกับเราด้วย โอกาสที่จะได้ฟังธรรมปฎิบัติธรรม เข้าถึงธรรมนั้นเป็นของยาก แต่โอกาสที่จะกลับมาเจอพระพุทธศาสนานั้นยากยิ่งกว่า

ชีวิตของมนุษย์ นั้นสั้นและมัวเมาอยู่กับกามได้ง่าย
เมื่อต้องตายจากโลกนี้ไป ทุคติเป็นที่หวังได้

แต่ถ้าเราฝึกชำระใจตนเองไว้ดีแล้ว
ความสุขที่เราจะได้เสวยนั้นปราณีตกว่ามาก ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า

ความบังเอิญนั้นไม่มี ทุกอย่างนั้นเราสร้างเหตุมาไว้ดีแล้ว

พอเราฟังท่านจบ ก็กลับมาคิดว่าเราควรเลือกทางไหนดีครับสำหรับผู้ปฎิบัติ ควรก้าวไปทางไหนดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่