ผมเองยังไม่ใช่ผู้ที่รู้แจ้งในพระสัทธรรมนะครับ
พอรู้ แค่บางส่วน
เพราะเดิมเคยเสียเวลา หนักไปทางตัวอักษรมาก ละเลยการปฏิบัติ
พอเริ่มเข้าสู่เส้นทางธรรม(แบบจับพลัดจับผลู) ก็มีท่านผู้รู้ทางนี้คอยช่วยชี้แนะเรื่องการปฏิบัติธรรม
เป็นแนวสมถะครับ เน้นสวดมนต์ นั่งสมาธิ เข้าใจว่ามันคือกุศโลบายเพื่อให้จิตสงบ ผ่อนคลาย
จนเมื่อเจ้ากิเลสจอมป่วนจิตมันเกิดหลับไหลไปชั่วครู่ จิตมันเลยเบา มันปลอดโปร่ง ทีนี้จู่ๆมันเริ่มคิดอะไรๆได้เองแฮะ
อะไรที่สงสัยอยู่ ติดข้อง คาใจอยู่ มันเกิดเห็นแฮะ
แถมเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ เหมือนนำจิ๊กซอว์ปริศนามาประกอบกันให้ จนเห็นภาพ ได้คำตอบของสิ่งที่เคยคาข้องใจ
กระบวนการเชื่อมโยงเหตุการณ์(หรือจิ๊กซอว์แต่ละตัว) มันเกิดไวราวฟ้าผ่า
ขณะที่กำลังเกิดอาการนี้ ทำให้ได้คำตอบในทุกเรื่องที่เคยสงสัย
ทันทีที่ได้คำตอบ จะร้องอุทานในใจว่า อ๋อใช่, เออจริง อยู่ตลอด
อาจารย์ท่านบอกว่า อาการนี้คือเกิดมีภาวนามยปัญญา
ผู้ปฏิบัติในสายสมถกรรมฐาน จนได้ภาวนามยปัญญา นี้คือเขาใกล้จะได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว พูดแบบนี้พอได้ไหมครับ ?
พอรู้ แค่บางส่วน
เพราะเดิมเคยเสียเวลา หนักไปทางตัวอักษรมาก ละเลยการปฏิบัติ
พอเริ่มเข้าสู่เส้นทางธรรม(แบบจับพลัดจับผลู) ก็มีท่านผู้รู้ทางนี้คอยช่วยชี้แนะเรื่องการปฏิบัติธรรม
เป็นแนวสมถะครับ เน้นสวดมนต์ นั่งสมาธิ เข้าใจว่ามันคือกุศโลบายเพื่อให้จิตสงบ ผ่อนคลาย
จนเมื่อเจ้ากิเลสจอมป่วนจิตมันเกิดหลับไหลไปชั่วครู่ จิตมันเลยเบา มันปลอดโปร่ง ทีนี้จู่ๆมันเริ่มคิดอะไรๆได้เองแฮะ
อะไรที่สงสัยอยู่ ติดข้อง คาใจอยู่ มันเกิดเห็นแฮะ
แถมเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ เหมือนนำจิ๊กซอว์ปริศนามาประกอบกันให้ จนเห็นภาพ ได้คำตอบของสิ่งที่เคยคาข้องใจ
กระบวนการเชื่อมโยงเหตุการณ์(หรือจิ๊กซอว์แต่ละตัว) มันเกิดไวราวฟ้าผ่า
ขณะที่กำลังเกิดอาการนี้ ทำให้ได้คำตอบในทุกเรื่องที่เคยสงสัย
ทันทีที่ได้คำตอบ จะร้องอุทานในใจว่า อ๋อใช่, เออจริง อยู่ตลอด
อาจารย์ท่านบอกว่า อาการนี้คือเกิดมีภาวนามยปัญญา